ไพบูลย์เชื่อย้ายค่ายทำได้ สมชัยแย้งอาจเข้าค่ายควบรวมพรรค เชื่อเรื่องถึงศาล รธน.

ไพบูลย์เชื่อเลิกทำพรรคแต่ความเป็น ส.ส. ยังอยู่และย้ายไป พปชร. ได้ ยืนยันไม่ได้หนีความเสี่ยงกรณีมีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งจะส่งผลต่อการคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้านสมชัยอดีต กกต. เห็นแย้งชี้เรื่องนี้มีปัญหาหลายประการที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญไม่คาดคิดมาก่อน เชื่อถึงศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน

23 ส.ค. 2562 ไพบูลย์ นิติตะวัน  ส.ส.บัญชรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฎิรูป เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมเปิดเผยว่า มาเซ็นเอกสารในการแจ้งยุบพรรคเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ได้เซ็นชื่อในสำเนาบัตรประชาชน  พร้อมมั่นใจว่าการยื่นครั้งนี้ น่าจะสามารถดำเนินยุบพรรคประชาชนปฎิรูปได้ เพราะเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย และทันทีที่ กกต.ประกาศยุบพรรคในราชกิจจานุเบกษา ก็จะเดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทันที 

ไพบูลย์ ยอมรับว่า ไม่สามารถนำคะแนนของพรรคประชาชาปฎิรูปโอนไปให้พรรคพลังประชารัฐได้ และหากภายใน 1 ปี มีการเลือกตั้งใหม่ มีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ คะแนนของพรรคที่มีอยู่กว่า 45,000 คะแนนไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้ ส.ส.ก็ยินดีที่จะพ้นจากตำแหน่ง

ไพบูลย์ ยังกล่าวว่า บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การที่ตนไปสมัครทำให้จำนวน  ส.ส.ของพรรคเพิ่มเท่านั้น ไม่ได้ไปอยู่ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ  และการย้ายพรรคในครั้งนี้ เพราะการยุบเลิกพรรค ไม่ได้เพราะหนีความเสี่ยงที่จะหลุดจาก ส.ส. เพราะคะแนนของพรรคตนยังอยู่ในเซฟโซน  

ด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีไพบูลย์ ยื่นยุบพรรคต่อกกต. ว่า การยุบพรรคมี 2 กรณี คือยุบตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่เห็นว่าไม่สามารถบริหารจัดการภายในพรรคได้ เช่น มีหนี้สิน และไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองได้จึงยื่นยุบต่อ กกต. ซึ่งเมื่อพรรคยุบพรรคแล้ว ส.ส.ยังมีสถานะความเป็น ส.ส.อยู่ โดยจะต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน แต่จะมีปัญหากรณีที่ส.ส. เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งมาจากคะแนนรวมทุกเขตของทั้งประเทศที่ถูกนำมาคำนวณเป็นจำนวน ส.ส. พึงมี

“คำถามคือ ส.ส. ดังกล่าวจะไปอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่เท่าไหร่ของพรรคการเมืองใหม่ที่ไปสังกัด เพราะจะมีปัญหาหากมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น ที่ต้องคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งซ่อมภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2562 เช่นกรณีจังหวัดเชียงใหม่ เขต 8 เป็นตัวอย่างได้ชัดเจนว่าเกิดการปรับเปลี่ยนจำนวน ส.ส. พึงมีของแต่ละพรรค เพราะเมื่อคำนวณคะแนนใหม่ทั้งประเทศ ทำให้พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพิ่มพรรคละ 1 คน แต่พรรคที่ ส.ส. หายไปคือพรรคไทรักธรรม แสดงให้เห็นว่าแม้คะแนนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่สามารถสร้างผลกระทบได้” สมชัย กล่าว

สมชัย กล่าวว่า หากยุบพรรคของไพบูลย์แล้ว จะต้องลบคะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปกว่า 45,000 คะแนนออก และนำไปคำนวณใหม่ ซึ่งนายไพบูลย์สามารถไปสังกัดเฉพาะพรรคที่จะได้ส.ส.พึงมีเพิ่มขึ้นเท่านั้น  แต่ปัญหาจะอยู่ที่ว่าไพบูลย์ต้องการจะไปอยู่พรรคนั้นหรือไม่  และพรรคนั้นจะยอมรับนายไพบูลย์หรือไม่  หากพรรคที่จะได้จำนวน ส.ส.เพิ่มมากขึ้นไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้หากนายไพบูลย์ได้ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ไพบูลย์จะแทรกลำดับของผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต. ต้องหาคำตอบให้ได้ เพราะถึงอย่างไรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. ของพรรคอย่างแน่นอน 

“กรณีไพบูลย์จะเข้าข่ายเป็นการควบรวมพรรคหรือไม่ เพราะพรรคประชาชนปฏิรูปมี ส.ส.เพียงคนเดียว ดังนั้น การที่ไพบูลย์ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐจะเท่ากับการย้ายพรรค 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบตามมาอีกมากในทางการเมือง เนื่องจากพรรคใหญ่จะใช้วิธีการเดียวกันนี้ให้พรรคเล็กยุบและดึง ส.ส. เข้ามาอยู่ในพรรคใหญ่ เพื่อเลี่ยงกฎหมายการควบพรรคการเมือง หรือพรรคเล็กอยากจะหนีความเสี่ยงว่าจะหลุดออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพราะได้คะแนนรวมของพรรคต่ำไปสังกัดพรรคใหญ่แทน ซึ่งจะทำให้หลักการและเจตนารมณ์ของกฎหมายผิดเพี้ยนไปหมด” สมชัย กล่าว

สมชัย กล่าวว่า นอกจากการคิดในเชิงนิติศาสตร์แล้ว  อยากให้ กกต. มองในทางรัฐศาสตร์ที่จะมีผลกระทบที่ตามมาภายหลังด้วย เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นเรื่องที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่เคยคาดคิดมาก่อน  จึงไม่มีบทบัญญัติใดๆ เกี่ยวกับกรณีนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยว่า 27 ส.ค.นี้ จะนำเรื่องการเสนอขอยุบเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป เข้าเสนอต่อ ที่ประชุม กกต. เพื่อให้พิจารณาตามมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเรื่องพรรคการเมืองสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง โดยที่ประชุม จะพิจารณาเฉพาะประเด็นที่ไพบูลย์เสนอมาเกี่ยวกับการยุบพรรค ส่วนเรื่องคะแนนบัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาชนปฏิรูปกว่า 45,000 คะแนน ที่เป็นข้อถกเถียงกันนั้น ยังไม่มีการพิจารณา

เรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย 1 , 2 , ข่าวสดออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท