Skip to main content
sharethis

อ.อ.ป.ไม่มาตามนัดไกล่เกลี่ยตามหนังสือเชิญของกรมบังคับคดี กรณีชาวชุมนุมบ่อแก้ว จ.ชัยภูมิ ถูกปิดหมายบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ทั้งที่เหลือเพียงอีก 3 วัน

23 ส.ค.2562 วันนี้ (23 ส.ค.62) เวลา 10.00 น. ประชาชนชาวชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รวมกว่า 40 คน เดินทางไปยังสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ สาขาภูเขียว ตามหนังสือเชิญของกรมบังคับคดี เพื่อให้เข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างชาวชุมนุมบ่อแก้วกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)ที่เป็นโจทก์ฟ้องประชาชนชาวชุมชนบ่อแก้วจำนวน 31 ราย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ อ.อ.ป.ไม่มาเข้าร่วม เพียงส่งหนังสือชี้แจงเหตุที่ไม่สามารถมาเข้าร่วมการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ได้ โดยในหนังสือได้แจ้งว่าไม่มีอำนาจ เป็นอำนาจของผู้บริหาร

ขณะที่ นิด ต่อทุน จำเลยที่ 1 ในคดีที่ถูกฟ้องขับไล่ กล่าวว่า ตามที่อ.อ.ป.ไม่มาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ แน่นอนว่า อ.อ.ป.ยืนยันชัดเจนที่จะดำเนินการตามคำพิพากษาอย่างถึงที่สุด โดยไม่ฟังเสียงของชาวบ้านที่เคยชี้แจงว่าพื้นที่พิพาทอยู่ระหว่างการการแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีมติที่ประชุมมาหลายครั้งแล้วว่า อ.อ.ป.ปลูกสร้างสวนป่าทับที่ทำกินชาวบ้าน ให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร หรือสวนป่ายูคาฯ และคืนที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านผู้เดือดร้อน

นิด บอกอีกว่า แต่ในทางปฏิบัติ ทาง อ.อ.ป.กลับไม่ดำเนินการคืนพื้นที่ตามมติที่ประชุม ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.62 ทางเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.ป่าไม้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 60 คน สนธิกำลังเข้ามาปิดหมายบังคับคดี โดยอ้างว่าหากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดตามกฏหมายอาญา มาตรา 157 โดยหมายบังคับคดีมีกำหนดให้จำเลยพร้อมบริวารต้องออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้

จำเลยที่ 1 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เหลือเวลานับถอยหลังอีกเพียง 3 วัน จะครบกำหนดการไล่รื้อชาวบ้านบ่อแก้ว ให้ออกจากพื้นที่ เมื่อ อ.อ.ป.ไม่ยอมมาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ มีเพียงการตัดสินใจของรัฐมนตรีส่าการทระทรวงทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เท่านั้นที่จะสามารถปลดล๊อกปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว โดย รมว.ทส.ต้องมีคำสั่งมายัง ผอ.อ.อ.ป.ให้ชะลอการบังคับคดี และเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาทางนโยบาย และรับรองแผนการจัดการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยชุมชน

สำหรับข้อพิพาทระหว่างชาวชุมชุนบ่อแก้ว กับ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป.ที่ชุมชนถูกปิดหมายบังคับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ภายใน 27 ส.ค.นี้ เริ่มจาก ภายหลังจากการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม เมื่อปี 2516 ต่อมานับแต่ปี 2521 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป.เข้ามาดำเนินการปลูกสร้างสวนป่าคอนสาร (สวนป่ายูคาลิปตัส)ตามเงื่อนไขสัมปทานป่าไม้ จำนวนทั้งสิ้น 4,401 ไร่ ซึ่งข้อเท็จนั้น อ.อ.ป.ได้เข้ามาดำเนินการปลูกทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านถูกอพยพออกจากที่ดินทำกิน และได้รับความเดือดร้อนกว่า 277 ราย

แต่ในทางปฏิบัติ ทาง อ.อ.ป.ไม่ดำเนินการคืนที่ดินทำกิน ต่อมาชาวบ้านจึงได้ร่วมกันเข้ามายึดที่ดินทำกินเดิมกลับคืนมา ในวันที่ 17 ก.ค. 2552 ได้จำนวน 96 ไร่ และจัดตั้งเป็นชุมชนบ่อแก้ว ขึ้นมา เพื่อรอคำตอบและการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล เป็นเหตุให้ อ.อ.ป.หาข้ออ้างยื่นฟ้องดำเนินคดีกับชาวบ้านจำนวน 31 คน กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2562 ศาลฏีกาพิพาทษายืนตาม ให้จำเลยทั้ง 31 ราย พร้อมบริวาร ออกจากพื้นที่ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.ป่าไม้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้ามาปิดหมายบังคับคดีให้ชาวบ้านบ่อแก้ว รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ผลอาสิน และให้ออกจากที่ดินทำกินและอยู่อาศัย ภายในวันที่ 27 ส.ค. นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net