Skip to main content
sharethis

สื่อบลูมเบิร์กวิเคราะห์สาเหตุที่อินโดนีเซียมีแผนการเตรียมย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ตาไปยังพื้นที่กาลิมันตัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเตรียมรับภัยพิบัติจากโลกร้อน และอาจจะเป็นเรื่องอัตลักษณ์ความเป็นชาวอินโดนีเซียที่ต้องการให้มีความครอบคลุมมากกว่าชาวชวา การย้ายเมืองก็จะผลกระทบที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการพัฒนาให้ห่างจากภาครัฐ รวมถึงต้องจัดการกับการเผาป่าทำไร่ปาล์มในพื้นที่นั้นด้วย

ที่มาภาพ: Mr.TinDC (CC BY-ND 2.0)

27 ส.ค. 2562 ในอินโดนีเซียกำลังมีการหารือกันว่าจะย้ายเมืองหลวงจากกรุงจากาตาร์ไปยังที่แห่งใหม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ประกาศยืนยันในเรื่องนี้เมื่อเดือนที่แล้วโดยระบุว่าเมืองหลวงอาจจะอยู่ในที่ใดสักแห่งแถวกาลิมันตันหรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือเกาะบอร์เนียว และเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ก็มีการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเมืองหลวงใหม่ของอินโดนีเซียอาจจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก ทั้งนี้ยังเคยมีรายงานก่อนหน้านี้ระบุว่าสถานที่ๆ น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในการเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่น่าจะเป็นเมืองกูไตการ์ตาเนอการาในจังหวัดแห่งนี้

รัฐมนตรีกระทรวงการเกษตรและการวางแผนที่ดินของอินโดนีเซีย ซฟยาน ยาลิล กล่าวต่อสื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมีการเตรียมการตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่ในจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก โดยจะมีการเตรียมพื้นที่ 30 ตร.กม. สำหรับการพัฒนาเมืองหลวงใหม่ในช่วงแรก เช่น การสร้างอาคารรัฐบาลต่างๆ โดยเมื่อพัฒนาเสร็จแล้วจะกลายเป็นเมืองที่มีขนาดราว 2,000-3,000 ตร.กม.

ซฟยานกล่าวถึงเมืองหลวงแห่งใหม่ว่า "จะเป็นเมืองสวนที่สวยงาม มีสวนสาธารณะมากมาย และผู้คนอยู่อาศัยกันอย่างสุขภาพดี มีอากาศดี พวกเราหวังว่ามันจะเป็นเมืองที่ดึงดูดให้คนอยากอยู่อาศัย"

ทั้งนี้รัฐบาลอินโดนีเซียยังระบุถึงตารางเวลาแผนการว่าจะสร้างเมืองหลวงใหม่แห่งนี้ภายในปี 2564 และจะมีกระบวนการย้ายในช่วงระหว่างปี 2566-2567 ซึ่งการย้ายที่ทำการรัฐบาลนั้นจะต้องมีการย้ายที่อยู่อาศัยของข้าราชการจำนวนราว 1 ล้านคนจากจาการ์ตา

บลูมเบิร์กระบุถึงแผนการย้ายเมืองหลวงในครั้งนี้ว่าน่าจะมาจากการเตรียมรับมือจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากโลกร้อนซึ่งอาจจะทำให้เมืองจาการ์ตาจมลงสู่ทะเลได้ นั่นทำให้วิโดโดมีแผนการย้ายเมืองหลวงไปที่จังหวัดในเกาะบอร์เนียว โดยที่ถึงแม้ว่าภาคส่วนเอกชนและศูนย์กลางการเงินจะยังคงอยู่ในย่านใจกลางเมืองจาการ์ตา แต่ในเชิงปฏิบัติแล้วบลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อภาคส่วนเอกชนไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาคส่วนจัดหาเชื้อเพลิงหุงต้มในเมือง ภาคส่วนการจัดการโรงพยาบาล และภาคส่วนอื่นๆ 

สื่อบลูมเบิร์กระบุอีกว่าในขณะที่วิโดโดหวังว่าการย้ายเมืองหลวงจะทำให้เกิดเมืองที่ประสบความสำเร็จแบบบราซิลเลียมากกว่าจะกลายเป็นเมืองใหม่ว่างโหวงแบบเนปิดอว์ของพม่า แต่การย้ายเมืองเช่นนี้ต้องคำนึงถึงเรื่องโมเดลการเติบโตทางเศรษฐกิจท่จะเปลี่ยนจากการพัฒนาโดยรัฐวิสาหกิจไปเป็นโมเดลแบบอื่นด้วย โดยที่รัฐวิสาหกิจยังเป็นสิ่งที่มีบทบาทใหญ่ๆ ในการพัฒนาอินโดนีเซีย และอินโดนีเซียก็เคยมีประวัติศาสตร์ไม่เชื่อถือบรรษัทเอกชนมาก่อน จากกรณีที่อดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตผู้เป็นเผด็จการมายาวนาน 32 ปีเคยให้สัมปทานต่างชาติต่อพื้นที่ในประเทศตัวเองที่มีทรัพยากรมาก จนกระทั่งสัมปทานเหล่านี้พังทลายไปในช่วงปี 2541 ที่มีวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชีย

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าพิจารณาคือประเด็นสิ่งแวดล้อมจากการที่จังหวัดกาลิมันตันมีการเผาป่าเพื่อทำไร่จนส่งผลไปถึงสิงคโปร์และมาเลเซียอยู่เสมอ การย้ายเมืองหลวงไปอยู่ใกล้ๆ พื้นที่เหล่านี้จะทำให้วิโดโดควบคุมในเรื่องไฟป่าไปจนถึงการใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงได้หรือไม่ ทั้งนี้บลูมเบิร์กยังวิเคราะห์จากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาประเทศที่ระบุว่าการย้ายเมืองหลวงเป็นเรื่องของอัตลักษณ์ตัวตนด้วย รัฐมนตรี บัมบัง โบรโจเนโกโรกล่าวว่าเมืองจาการ์ตาเป็นสิ่งสะท้อนอัตลักษณ์แบบชวา "แต่อินโดนีเซียเป็นมากกว่าชวา" จึงควรจะคำนึงถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรมและศาสนา ในอินโดนีเซียด้วย

แนวความคิดจะย้ายเมืองหลวงนี้เกิดขึ้นครั้งแรกมาตั้งแต่ในยุคสมัยของซูการ์โน ประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซีย เขาเคยเสนอให้มีการย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองปาลังการายา จังหวัดกาลีมันตันกลาง เมื่อปี 2500

เรียบเรียงจาก

Indonesia will be moving its capital from Jakarta to East Kalimantan: minister, Coconut, Aug. 22, 2019

A Capital City in the Jungle? It’s Not a Crazy Idea, Bloomberg, Aug. 18, 2019

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net