'ELECT' จัดเสวนาหัวข้อประชาธิปไตยหลังการเลือกตั้ง นักวิชาการคาดการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นวาระสำคัญในอนาคต ด้านอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ยกเลิกระบบ ส.ว.
28 ส.ค.2562 เว็บไซต์และสื่อข้อมูลการเลือกตั้งไทย (ELECT) รายงานว่า ELECT จัดเวทีเสวนาหัวข้อ ELECT after Election : เลือกแล้วได้อะไร? ประชาธิปไตยไทยหลังการเลือกตั้ง โดยมีผู้ร่วมเสวนาได้แก่ สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ, พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม นักการเมืองรุ่นใหม่ และพงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าวเว็บไซต์ The MATTER โดยในวงเสวนาได้ร่วมกันตั้งคำถามถึงอนาคตของการเมืองไทย ภายหลังการเลือกตั้งที่ผลออกมาเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และสะท้อนถึงบทบาทของสมาชิกวุฒสภา (ส.ว.) ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการจัดตั้งรัฐบาล
สฤณี กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ทำให้สังคมไทยได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเด็นต่างๆ ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่นักวิชาการเคยตั้งข้อสังเกตกันนั้น ได้ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน เช่นเรื่องรัฐบาลผสมที่เคยมีการคาดเดาไว้ก่อนแล้วว่ามีโอกาสเกิดได้สูง
“สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเลือกตั้งครั้งนี้คือ บทเรียนที่ว่ากลไกใหม่ๆ เมื่อเริ่มใช้จริงแล้วจะเป็นอย่างไร หรือปัญหาทางการเมืองที่นักวิชาการเคยพูดเรื่องรัฐบาลผสม พอผลเป็นแบบนี้ เราก็ยิ่งเห็นปัญหาในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” สฤณี ระบุ
ทั้งนี้ สฤณีวิเคราะห์ว่า ในอนาคตสังคมไทยอาจจะมองเห็นถึงปัญหาในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 กันมากขึ้น และอาจนำไปสู่ฉันทามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ในอนาคต
ด้าน พริษฐ์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วงต่อประชาธิปไตยไทยในปัจจุบัน โดยสิ่งที่น่ากังวลที่สุด คือปัญหาเรื่องการตีความสูตรการคิดคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว
สำหรับทิศทางการเมืองในอนาคตนั้น พริษฐ์เสนอให้มีการแก้ไขระบบรัฐสภาไทย พร้อมกับตั้งคำถามว่า การเมืองไทยยังคงจำเป็นที่จะมี ส.ว. อีกหรือไม่ เหมือนกับกระแสที่หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยนั้นกำลังเดินไปสู่การยกเลิก ส.ว.
“ในตอนนี้มีหลายประเทศที่กำลังจะเปลี่ยนจากระบบสภาคู่เป็นสภาเดี่ยว ข้อดีของการยกเลิก ส.ว. คือเรื่องลดงบประมาณ รวมถึงความรวดเร็วในการทำงาน เพราะจะทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้นในเรื่องออกกฎหมาย” อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นอกจากนี้ เขายังเสนอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันเป็นฝ่ายค้านอิสระ ช่วยกันทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รวมทั้ง ส.ส.ที่เป็นตัวแทนในเขตของตนเอง
ขณะที่ พงศ์พิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้สื่อมีบทบาทในเรื่องการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และพลังการตรวจสอบของสื่อมวลชนนั้น ถือเป็นแรงกดดันสำคัญที่ให้พรรคการเมืองต่างๆ ต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนในช่วงก่อนเลือกตั้งให้ได้
“บทบาทของสื่อควรติดตามประเด็นที่นักการเมืองเคยให้สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง ขณะเดียวกันสื่อเองก็สามารถเริ่มต้นเปิดประเด็นทางสังคมด้วยตัวเองเช่นกัน” บรรณาธิการบริหาร The MATTER ระบุ
บนเวทีเสวนายังได้พูดถึงปัญหาข่าวปลอม (fake news) ด้วยเช่นกัน พงศ์พิพัฒน์และสฤณี เห็นตรงกันถึงความสำคัญของการรู้เท่าทันในข่าวสารที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย รวมถึงบทบาทของความเกลียดชังที่ทำให้ข่าวปลอมสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่พริษฐ์เสนอว่า หากจะมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ก็ควรจะอยู่ห่างไกลจากอำนาจรัฐให้มากที่สุด
ประชาชนทั่วไปยังสามารถเข้าชมนิทรรศาการ ELECT after Election ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562 ณ ชั้น L หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร