แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาออกหมายเรียก สถณี อาชวานันทกุล เหตุละเมิดอำนาจศาลจากการเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วิจารณ์กรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ส. โดยใช้คำว่า “มักง่าย” และ “ตะพึดตะพือ” ในบทความ
ภาพจากเฟสบุ๊คแฟนเพจ Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
28 ส.ค. 2562 สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน นักแปล นักวิจัย และนักวิชาการอิสระด้านการเงิน เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจว่า ได้รับหมายเรียกเข้าให้การในฐานะผู้ถูกกล่าวหาละเมิดอำนาจศาล จากแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา โดยให้ไปยังศาลฎีกาวันที่ 9 ก.ย. 2562 เวลา 10.30 น.
เหตุของการออกหมายเรียกยในครั้งนี้ มีที่มาจากบทความเรื่อง “อันตรายของภาวะ “นิติศาสตร์นิยมล้นเกิน” (อีกที) กรณีหุ้นสื่อของผู้สมัคร ส.ส.” เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2562
สุประดิษฐ์ จีนเสวก เลขานุการแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาคือ ผู้กล่าวหาในกรณีนี้ โดยเขาได้ทำหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 16 ส.ค. 2562 ถึงประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เพื่อชี้ให้เห็นว่าบทความดังกล่าวของสถณี มีลักษณะที่เป็นการพาดพิงแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา
สุประดิษฐ์ ให้เหตุผลในบันทึกข้อความว่าในบทความมีการวิจารณ์ว่า
“ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมักง่ายในการตีความกฎหมายเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีบุคคลผู้นั้นเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ว่ารวมความถึงผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทซึ่งปรากฎในหนังสือบริคณห์สนธิระบุวัตถุประสงค์ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ แม้ความเป็นจริงห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ แต่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยังได้ตีความไปว่า เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ แล้วผู้ประพันธ์ได้แสดงความเห็นว่า การตีความเช่นนี้ มักง่าย และอันตรายอย่างยิ่ง
นอกจากนี้บทความดังกล่าว ยังได้กล่าวหาว่า ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งใช้กฎหมายแบบ ตะพึดตะพือ ตีความอย่างเกินเลยโดยคำนึงถึงข้อเท็จจริง และไม่คำนึงถือเจตนารมย์ของกฎหมาย ผู้เขียนบทความไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งโดยสุจริต แต่มีเจตนาโจมตีหรือด่าว่าศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตีความกฎหมายมักง่ายและใช้อย่างตะพึดตะพือ
...การที่ผู้ประพันธ์เขียนบทความดังกล่าวจึงมีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชน หรือเหนือศาล หรือเหนือคู่ความ หรือเหนือพยานในระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งอาจมีประเด็นอย่างเดียวกันกับคดีที่ผู้ประพันธ์ได้กล่าว หรือแสดงในบทความ”
ทั้งนี้ในบันทึกข้อความ สุประดิษฐ์ ได้ยกเอาความหมายของคำว่า “มักง่าย” และ “ตะพึดตะพือ” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 มาประกอบการให้เหตุผลด้วย และในบันทึกข้อความได้ระบุถึง ยุทธนา นวลจรัส บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ด้วย ส่วนกรณีของ สฤณี นั้นเห็นว่า เข้าข่ายความผิดฐานละเมิดกอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32 (2)
นอกจากนี้สุประดิษฐ์ได้เสนอขอให้ประธานแผนกคดีเลือกตั้งฯ มีคำสั่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาเพื่อทำการไต่สวน และพิจารณาคดีฐานละเมิดอำนาจศาล โดยเสนอให้ตั้ง ฉันทวัธน์ วรทัต ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาเป็นเจ้าของสํานวน พันธุ์เลิศ บุญเลี้ยง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ชัยชนะ ตัญจพัฒน์กุล ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นองค์คณะพิจารณาและพิพากษาคดีนี้
ด้านสฤณี ให้ความเห็นว่า ตนเขียนบทความเพื่อวิจารณ์คำตัดสินที่ออกมาแล้วเท่านั้น ด้วยความสุจริตใจและด้วยเจตนาดีต่อกระบวนการยุติธรรมและสังคมไทย เหมือนกับบทความทุกชิ้นที่เขียนตลอดมา แต่กังวลว่าการตีความข้อหาละเมิดอำนาจศาลโดยอนุมานว่าผู้วิจารณ์หมายถึงคดีอื่นๆ ในอนาคตด้วย อาจส่งผลให้การวิจารณ์คำตัดสินของศาลเป็นไปไม่ได้เลยในอนาคต เนื่องจากไม่ว่าจะคดีอะไร กฎหมายอะไร ก็ย่อมมีคดีลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคตทั้งสิ้น
ทั้งนี้บทความดังกล่าวของสฤณี ยังถูกแเผยแพร่ในเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจด้วย โดยเมื่อวานที่ 28 ส.ค. ยังสามารถเข้าถึงไดเ แต่วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่าบทความดังกล่าวถูกระงับการเผยแพร่แล้ว
ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากกรณของสฤณีแล้ว วานนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้ออกหนังสือเรียก รศ.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ พบเลขาธิการสํานักงานศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 30 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ทําการศาลรัฐธรรมนูญ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ แจ้งวัฒนะ หนังสือดังกล่าวอ้างว่า สํานักงานศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ kovitw@kovitw1 ซึ่งปรากฏรูปถ่ายของ รศ.โกวิท เป็นรูปโปรไฟล์ของทวิตเตอร์ดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความวิจารณ์ ศาลรัฐธรรมนูญด้วยถ้อยคําที่ไม่เหมาะสมว่า “ศาลรัฐธรรมนูญรับคําร้อง ๓๒ ส.ส. ปมหุ้นสื่อแต่ไม่ต้องหยุด ปฏิบัติหน้าที่น่าจะเกินคําว่า “ด้าน” เสียแล้ว” เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วน สํานักงานศาลรัฐธรรมนูญจึงขอเชิญมาพบ
นอกจากนี้ ทรงกรด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ได้เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ในวันนี้ว่า จะแจ้งความดำเนินคดี ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์ เนื่องจากเชื่อว่ามีการใช้ทวิตเตอร์ทวิตข้อความที่เข้าค่ายการหมิ่นศาล โดยระบุว่าจะใช้สูตรการฟ้องแบบเดิมคือ 1 + 10 หมายถึงการฟ้องผู้เขียนข้อความ 1 คน และผู้ที่แชร์ข้อความอีก 10 คน
หมายเหตุ: มีการเพิ่มเติมเนื้อหาในเวลา 12.42 น. วันที่ 29 ส.ค. 2562
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)