'ดีเอสไอ' พบหลักฐานสำคัญโยง 'บิลลี่' แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เสียชีวิต

ไทยพีบีเอส รายงาน 'ดีเอสไอ' พบหลักฐานสำคัญโยง 'บิลลี่' แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เสียชีวิตหลังหายตัวไป 5 ปี โดยพบถังน้ำมัน 200 ลิตรภายในมีโครงกระดูกมนุษย์ ใกล้สะพานแขวนในอุทยานแก่งกระจาน คาดว่าดีเอสไอเตรียมจะมีการแถลงข่าวการค้นพบในช่วงบ่าย วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)

แฟ้มภาพ kim chaisukprasert

2 ก.ย.2562 ไทยพีบีเอส รายงานว่า วันนี้ (2 ก.ย.62) มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมแถลงข่าวด่วนที่เชื่อว่า “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เสียชีวิตแล้ว หลังหายตัวนาน 5 ปี

ไทยพีบีเอส รายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ยืนยันว่า จากการสอบสวนเรื่องนี้แบบเกาะติด ตั้งแต่ปี 2557 และล่าสุดเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบหลักฐานสำคัญจนนำไปสู่การค้นหาหลักฐานบริเวณใกล้สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนกระทั่งพบหลักฐาน หลักฐานที่พบประกอบด้วย ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ในถังมีขิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ คาดว่าจะเป็นของบิลลี่ และพยานจากบุคคลในพื้นที่ ทั้งนี้จากการตรวจ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ บิลลี่ และชิ้นส่วนทั้งหมดอยู่ระหว่างตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันเรื่องเอกลักษณ์บุคคลอีกครั้ง คาดว่าดีเอสไอเตรียมจะมีการแถลงข่าวการค้นพบในช่วงบ่าย วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)

สำหรับคดี บิลลี่ หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ “มึนอ” ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้มีการไต่สวนการหายตัวไปของบิลลี่ แต่ต่อมาศาลยกคำร้อง โดยระบุว่าหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา มึนอ ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงประติภา รักจงเจริญ (บุตรของบิลลี่)ร่วมกับ วราภรณ์ อุทัยรังสี หรือ แป๋ม ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน (สนส.) ได้เดินทางไปยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ พอละจี สามีของพิณนภา เป็นบุคคลสาบสูญ ศาลกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ณ ศาลจังหวัดเพชรบุรี 

30 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องในวันผู้ถูกบังคับสูญหายสากล วงเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ ร่วมกับแอมเนสตี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน (OHCHR) จัดงานเสวนา “คนก็หายกฎหมายก็ไม่มี”  มีการพูดถึงประเด็นนี้ โดย พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผอ.กองอำนวยการปฎิบัติการพิเศษภาค จากดีเอสไอ ในฐานะผู้ดูแลคดีการหายตัวไปบิลลี่ กล่าวว่า อยากให้ทุกท่านค่อยๆ นึกตามแล้วจะเข้าใจกับสิ่งที่ดีเอสไอทำ และกำลังจะมีผลใกล้ๆนี้ อย่างแรกคือเป้าหมายสุดท้ายของเคสบิลลี่

พ.ต.ท.เชน พูดช่วงนาทีที่ 1.34.30 เป็นต้นไป

พ.ต.ท.เชน กล่าวต่อว่า เชื่อว่าทุกคนอยากรู้ว่า บิลลี่ไปไหน อยากดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อย่างแรกถ้าเราไม่ได้ตัวคุณบิลลี่ว่าไปที่ไหน อยู่ที่ไหน การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก็คือการรับสารภาพว่าได้จับตัวคุณบิลลี่ และปล่อยไป โทษ 1-10 ปี และรับสารภาพโทษ 1 ปี ลดลงครึ่งหนึ่งรอลงอาญา 6 เดือน คงไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เราจึงต้องกลับมาถ้าเจอตัวบิลลี่ว่าไปไหน ตอนนี้มีพยานหลักฐานสำคัญดีเอสไอ ได้พยานหลักฐานสำคัญแล้วว่าบิลลี่ไปไหน ข้อหาก็จะแตกต่างถ้ารู้ว่าเขาไปไหน ข้อหาก็จะแตกต่าง อาจเป็นการฆาตกรรมโดยวางแผนโทษคือประหารชีวิต สุดท้ายเราต้องดูเป้าหมายสุดท้าย

พ.ต.ท.เชน ยืนยันว่า มีของดีแน่นอน แต่การแถลงข่าวหรือการดำเนินการต้องขอให้เป็นผู้บังคับบัญชา อธิบดีหรือรองอธิบดี เป็นผู้อำนวยการกองดูแลคดีเรื่องนี้ คดีทุกอย่างจะกลับมาที่ดีเอสไอ ใช้เวลานิดหนึ่งไม่ต้องห่วงออกมาทางบวก ให้ทุกท่านสบายใจได้เรื่องนี้จบ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท