ผู้นำฮ่องกงถอน กม.ผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ด้าน นร.-นศ. สวมหน้ากากแก๊สร่วมประท้วง

ผู้นำฮ่องกงประกาศ ถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ตั้งกรรมการอิสระสอบสวนการปะทะกับผู้ชุมนุม นักเรียนนักศึกษายังคงประท้วงจากในโรงเรียนด้วยการสวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตาและจับมือคล้องกันเป็นห่วงโซ่มนุษย์ รวมถึงบอยคอตต์ชั้นเรียนเพื่อแสดงการประท้วงต่อเนื่องต่อต้านอิทธิพลของจีนแผ่นดินใหญ่และเรียกร้องเสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกง

แครี่ แลม (ที่มา:วิกิพีเดีย)

4 ก.ย. 2562 แครี่ แลม ประธานฝ่ายบริหารของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ออกมาแถลงข่าวว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะ “ถอน” ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ผ่านมามีคำสั่งเพียงแค่ยับยั้งการพิจารณากฎหมายไม่มีกำหนด

“รัฐบาลจะถอนกฎหมายอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการบรรเทาข้อกังวลของสาธารณะอย่างเต็มที่” แลมระบุ และยังกล่าวอีกว่าจะแต่งตั้งกรรมการใหม่ 2 คน ลงไปในคณะกรรมการอิสระเรื่องข้อร้องเรียนตำรวจ (IPCC) ได้แก่ พอล แลม อดีตประธานเนติบัณฑิตยสภา และข้าราชการอาวุโสเกษียณ เฮเลน ยู ไล ชิงผิง

สองเดือนที่ผ่านมา แลมกล่าวว่า IPCC เป็นองค์กรที่เหมาะสมในการสืบสวนกรณีการปะทะต่างๆ โดยไม่ได้สนใจข้อเสนอของผู้ชุมนุมที่ต้องการให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาทำหน้าที่ดังกล่าว โดยแลมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะทำตามข้อเสนอแนะที่จะมีในรายงานของ IPCC และจะให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงลงไปในชุมชนเพื่อฟังกระแสตอบรับและทำการศึกษากับผู้คนหลายภาคส่วน

กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เพิ่งถอนไปนั้น มีเนื้อความคร่าวๆ คือให้อำนาจการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนในแบบพิจารณาเป็นรายกรณี ร่างฯ ดังกล่าวนำมาซึ่งการชุมนุมของชาวฮ่องกงหลักล้านตั้งแต่เดือน มิ.ย. จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ ข้อเรียกร้องหลักของผู้ประท้วงมี 5 ข้อ ได้แก่ ถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยกเลิกข้อหาการก่อจลาจลต่อผู้ชุมนุม นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว มีคณะกรรมการสอบสวนที่เป็นอิสระ และการเมืองที่เป็นสากล คือสิทธิเลือกตั้งผู้แทนราษฎรโดยตรง ในขณะที่การเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับผู้ชุมนุมสูงขึ้นเรื่อยๆ สโลแกนของผู้ชุมนุมต่อข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ยิ่งแข็งขันจนเป็นการไม่ย่อหย่อน ต่อรองให้ลดข้อเรียกร้องแม้แต่ข้อเดียว

นักเรียนนักศึกษาฮ่องกงยังคงประท้วงจากในสถานศึกษาหลังเปิดภาคเรียน

เมื่อ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา นักเรียนไฮสคูลในฮ่องกงเปิดภาคเรียนใหม่ด้วยการสวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตามาโรงเรียนและจับมือกันเป็นห่วงโซมนุษย์เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ประท้วงเรียกร้องเสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกง นอกจากกลุ่มนักเรียนไฮสคูลแล้ว มหาวิทยาลัยก็มีการนัดหยุดเรียนประท้วง พากันโบกธงและประสานเสียงคำขวัญการชุมนุม

สื่อนิวยอร์กไทม์ระบุว่าการประท้วงเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงปิดภาคเรียนที่มีคนรุ่นเยาว์จำนวนมากประท้วงตามที่ต่างๆ ในฮ่องกงไม่ว่าจะหน้าอาคารของรัฐบาลหรือที่สนามบิน โดยที่รัฐบาลฮ่องกงเคยประเมินไว้ว่าพอถึงเวลาเปิดภาคเรียนแล้วการประท้วงนี้ก็จะหมดลงไปเอง แต่การแสดงออกสวมหน้ากากในโรงเรียนเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าการประเมินของรัฐบาลไม่เป็นไปตามความคาดหมาย

โอเวน โล นักเรียนอายุ 16 ปีกล่าวว่าการที่รัฐบาลคิดว่าจะทำให้การประท้วงจบลงได้หลังนักเรียนกลับเข้าโรงเรียนไปแล้วไม่เป็นความจริง โลบอกว่ากลัวเขาและเพื่อนจะถูกโต้ตอบจากรัฐบาล แต่เมื่อพวกเขาเห็นนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากเดิมพันอนาคตกับการแสดงออกและยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล มันกลายเป็นสิ่งที่ส่งทอดแรงบันดาลใจต่อเนื่องมาสู่ตัวเขาและทำให้เขา "ออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อฮ่องกง"

การประท้วงในฮ่องกงไม่ได้เป็นแค่เพียงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนหรือนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น มีกลุ่มคนงานหลายพันหลายหมื่นคนหยุดงานเพื่อเข้าร่วมประท้วงกับนักศึกษาด้วย ทำให้การประท้วงในครั้งนี้มีลักษณะของคนหลายรุ่นมารวมกัน ปีเตอร์ ชุย วิศวกรอายุ 24 ปีกล่าวว่าประชาชนจำนวนมากแสดงให้เหล่าสหายและผู้ต่อสู้ในแนวหน้าได้เห็นว่าพวกเขายังคงเป็นพวกเดียวกัน

การประท้วงต่อเนื่องในฮ่องกงตั้งแต่เดือน มิ.ย. จนถึงตอนนี้เริ่มต้นมาจากการประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งผู้คนกังวลว่าจะเอื้อต่อการให้ทางการจีนส่งตัวผู้ต่อต้านรัฐบาลกลางในฮ่องกงหรือไต้หวันให้กับจีนได้ง่ายขึ้น การประท้วงดำเนินต่อเนื่องมาจนกระทั่งมีการยกระดับข้อเรียกร้องเพิ่มขึ้นทั้งการเรียกร้องให้มีการสืบสวนเรื่องการใช้กำลังรุนแรงจากตำรวจและการเลือกตั้งผู้ว่าฯ จากคะแนนเสียงของประชาชน ซึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงมีจำนวนมากที่เป็นนักเรียนนักศึกษา

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้บรรยากาศในฮ่องกงยังคงตึงเครียดหลังจากที่ตำรวจบุกเข้าไปทุบตีทำร้ายผู้คนในรถไฟฟ้าใต้ดินเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.) ผู้ประท้วงยังคงประท้วงที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง และในวันจันทร์ที่มีการเปิดภาคการศึกษาใหม่ตำรวจปราบจลาจลก็ยังคงวางกำลังอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง มีความกังวลว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์จะแพร่มาสู่การประท้วงในวันจันทร์ด้วยแต่การประท้วงในช่วงวันจันทร์ก็ไม่มีเหตุวุ่นวายอะไรเกิดขึ้น

นิวยอร์กไทม์ระบุอีกว่าการประท้วงในหลายสถานศึกษาเมื่อวันจันทร์ยังสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในขบวนการ มีทั้งคนที่สวมเสื้อยืดสีดำหรือคาดตาเพื่อแสดงการรำลึกถึงอาสาสมัครปฐมพยาบาลที่ถูกตำรวจยิงกระสุนถุงตะกั่ว (bean bag round) ใส่จนสูญเสียตาเหตุเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน ส.ค. ในหลายแห่งยังมีการประท้วงหยุดเรียนด้วยการไปเรียนในห้องสมุดหรือห้องที่จัดไว้โดยเฉพาะแทนห้องเรียนเดิม

กลุ่มนักเรียนในโรงเรียนเซนต์ฟรานซิสคอนนอสเซียนซึ่งผู้ว่าฯ แครี่ แลม เคยเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็ร่วมประท้วงด้วยการถือป้ายและสวมหน้ากากกับหมวกก่อสร้างซึ่งผู้ชุมนุมมักจะสวมในช่วงที่มีเหตุรุนแรง มีป้ายหนึ่งเขียนระบุถามว่าแลมจะ "ฟังเสียงของเหล่ารุ่นน้องจากโรงเรียนตัวเองหรือไม่"

มีนักเรียนนักศึกษารวมหลายหมื่นคนจากหลายมหาวิทยาลัยและหลายโรงเรียนที่รวมตัวกันในลานอเนกประสงค์ในกลางมหาวิทยาลัยไชนีสแห่งฮ่องกงเพื่อรับฟังคำปราศรัยจากคณาจารย์ ทนายความ และนักศึกษาผู้ประท้วง

ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและภาคการศึกษาของรัฐบาลฮ่องกงบอกว่าพวกเขาต่อต้านการหยุดเรียนประท้วงทุกรูปแบบ และระบุในจดหมายส่งถึงครูในโรงเรียนว่าโรงเรียนควรจะเป็นแหล่งที่เป็นกลางทางการเมือง และกล่าวหาว่าการประท้วงบอยคอตต์ชั้นเรียนจะเป็นการ "ขยายความวุ่นวายที่พวกเราพบเห็นในสังคมมาสู้โรงเรียนที่มีบรรยากาศสงบ"

นอกจากนี้ เควิน ยิง รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของฮ่องกงยังกล่าวอีกว่าสาเหตุที่พวกเขานำกำลังตำรวจไปที่โรงเรียนไฮสคูลเพราะพบเห็น "คนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร" อยู่นอกโรงเรียนและต้องการ "ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยต่อสาธารณะ" ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะไม่ได้เรียกตำรวจมาก็ตาม

มีนักเรียนนักศึกษาหลายคนบอกว่าพวกเขาใช้วิธีการประท้วงมาทุกวิธีการแล้วจนเหลือแต่วิธีการนัดหยุดเรียนประท้วงที่ดูจะเป็นวิธีการที่สงบที่สุด บางคนถึงจะหยุดชั้นเรียนอย่างเป็นทางการแต่ก็พวกเขาก็ "ได้เรียนรู้" เรื่องสิทธิพลเมืองจากการประท้วง บ้างก็บอกว่าถึงแม้จะเป็นห่วงเรื่องคะแนนสอบแต่การประท้วงของพวกเขาก็ถือเป็นการทำหน้าที่ของพลเมือง นักศึกษารายหนึ่งบอกว่าถ้าพวกเขาไม่ออกมาประท้วงในตอนนี้ก็กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำอีก

สหภาพวิชาชีพครูฮ่องกงที่สนับสนุนการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ระบุว่าถึงแม้กลุ่มนักศึกษามีวุฒิภาวะมากพอที่จะตัดสินใจว่าจะนัดหยุดเเรียนประท้วงหรือไม่ แต่ทางกลุ่มก็ไม่ได้จัดตั้งหรือส่งเสริมให้มีการบอยคอตต์ชั้นเรียนของนักศึกษาไฮสคูล อิป คินยุน รองประธานสหภาพและ ส.ส. ในภาคส่วนการศึกษาบอกว่าเขาอยากให้โรงเรียนเกื้อหนุนนักเรียนที่ที่อยากหยุดชั้นเรียนประท้วง

โจชัว หว่อง นักกิจกรรมที่เคยมีบทบาทในการจัดประท้วงใหญ่ในฮ่องกงเมื่อหลายปีที่แล้วกล่าวว่าการบอยคอตต์ชั้นเรียนเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถแสดงออกอย่างสันติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน หว่องบอกว่าพวกเขามองไม่เห็นอนาคตในสังคมเลย และการประท้วงนี้เป็นแค่ "จุดเริ่มต้นเท่านั้นไม่ใช่จุดสิ้นสุด" มันแสดงให้เห็นว่ายังคงมีแรงขับดันไปข้างหน้า

เรียบเรียงจาก

Hong Kong Students Begin School Year With Gas Masks, Class Boycotts and Protests, The New York Times, Sep. 2, 2019

Hong Kong to officially withdraw extradition bill from legislature, but still no independent probe into crisis, HKFP, Sep. 4, 2019

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท