'ภูมิใจไทย' เปิดรับฟังความเห็นภาคประชาชนแก้ไข 'กม.กัญชา' นัดสุดท้าย

พรรคภูมิใจไทย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน แก้ไขกฎหมายกัญชานัดสุดท้ายให้ตกผลึก ก่อนส่ง 'ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ' แก้ไขเพิ่มเติม และ 'ร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย' เข้าสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุม


ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

7 ก.ย. 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน แก้ไขกฎหมายกัญชาเสรี ครั้งที่ 4 กล่าวว่าการประชุมวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นการหารือกับตัวแทนภาคประชาชน เพื่อให้ทุกคนแสดงความเห็นให้ตกผลึกและตรงตามเจตนารมณ์ของทุกคน ก่อนนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เข้าสู่สภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ในวันที่ 18 ก.ย. 2562 พร้อมยืนยันหลังการเลือกตั้ง พรรคมีความพยายามผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด

ด้าน นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวแสดงความคิดเห็นในฐานะภาคประชาชน ว่าการปลูกกัญชาในกฎหมายเดิม ต้องเป็นหน่วยงานรัฐ ต้องเป็นกลุ่มเกษตรกรที่รวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนและต้องนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ควรแก้ไข โดยนายอุทิน ชาญวีรกูล รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พยายามช่วยหมอพื้นบ้านให้ได้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พยายามนำกฎหมายที่มีอยู่สามารถนำกัญชาไปใช้ในโรงพยาบาลได้ พยายามให้มีการปลูกให้ได้มากที่สุด โดยเริ่มจากโรงพยาบาลก่อน หากกฎหมายยังไม่ยอมให้ปลูกแบบส่วนบุคคล แต่หากหากใครจะปลูกต้องจับมือกับวิสาหกิจชุมชนและโรงพยาบาล อีกทั้งยังพยายามให้กัญชงที่มีคุณสมบัติคล้ายกัญชาให้เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด ดังนั้นจึงต้องพยายามแก้ไขร่างกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่านี้

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้งพรรคมีความตั้งใจผลักดันแนวคิดกัญชาเสรี เพราะเห็นถึงคุณประโยชน์ที่สามารถนำกัญชามาใช้ทั้งประโยชน์ทางการแพทย์และในทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งผลักดันให้ปลูกกัญชาได้ครัวเรือนละ ไม่เกิน 6 ต้น แต่ภาครัฐและสากลยังมองว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ดังนั้นจึงต้องทำการศึกษาให้รอบด้านและรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย โดยจัดทำเป็นร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศ. ...และร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าพรรคจะดำเนินการตามที่ได้หาเสียงไว้เรื่องกัญชาเสรีอย่างแน่นอน

ด้านนายบัณฑูร นิยมาภา หมอชาวบ้านผู้ผลิตน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ กล่าวว่า ในกัญชามีสารสำคัญหลายชนิด กัญชาไทยดีที่สุด เพราะมีสารทีเอชซี (THC) สูง หรือสารที่มีผลต่อระบบประสาทที่ช่วยลดอาการตึงเครียดได้ ซึ่งเป็นสารที่ดีมากที่มีอยู่ในกัญชา แต่มีความพยายามที่จะให้แยกสารสกัดนี้ออกไป เหตุเพราะเข้าข่ายเป็นสารเสพติดนั้น ทั้งที่พบว่ายาทั่วไปยังมีการใช้สารอันตรายที่มีผลต่อประสาทอยู่ในตัวยาหลายชนิด จึงมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะสกัดสารนี้ออกไปจากการใช้กัญชาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ 

“ปัญหาคือต้องการให้ไปซื้อจากใต้ดินหรือไม่ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่พบมีนายทุนไปกว้านซื้อจนขาดตลาด วิธีแก้คือขอปลูกเอง 6 ต้นที่พอเพียงสำหรับเรา จึงขอให้ออกกฎหมายใหม่ คือ ยาเสพติดให้คุณ เพราะกัญชาถูกใช้มาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว” นายบัณฑูร กล่าว

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า พ.ร.บ.แก้ไขยาเสพติดฉบับที่ 7 ที่ได้ประกาศใช้ เปิดให้กลุ่มต่างๆ ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ แต่รัฐยังเป็นผู้ผูกขาดอยู่ทั้งหมด ซึ่งหากจะทำต้องอยู่ภายใต้หน่วยงานรัฐและการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ได้นั้นก็ยังไม่ครอบคลุมถึงการปลูก ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าร่างกฎหมายนี้ หมอพื้นบ้านสามารถปลูกใช้เองในทางการแพทย์ได้หรือไม่ ทั้งนี้หากตั้งสถาบันขึ้นมาตาม พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย จะเป็นหน่วยงานใหม่ที่ผูกขาดการรับซื้อทั้งหมดแทนรัฐหรือไม่ และผูกขาดเพียงแห่งเดียวใช่หรือไม่ จึงอยากถามพรรคภูมิใจไทยถึงความชัดเจนในภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้ความมั่นใจกับหมอชาวบ้านและแพทย์แผนปัจจุบันที่มีองค์ความรู้แต่ยังไม่มีความมั่นใจในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท