Skip to main content
sharethis

สมชาย หอมลออ ยื่นหนังสือถึง กสทช.  และ AIS ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการเกี่ยวกับกรณี กอ.รมน.ภาค 4 ส่งข้อความเข้ามือถือให้ไปลงทะเบียนซิมด้วยระบบอัตลักษณ์หรือการสแกนใบหน้า

 

ภาพจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

9 ก.ย.2562 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม รายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมชาย หอมลออ ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) ของบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิช จำกัด(มหาชน) หรือ AIS ได้รับข้อความว่า “กอ.รมน.ภาค 4 ขอให้ผู้ใช้บริการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ + 4 อำเภอสงขลา ลงทะเบียนซิมด้วยระบบอัตลักษณ์ ภายใน 31 ตุลาคม 2562 เช็คสถานะซิม กด*165*5*เลขบัตรประชาชน# โทรออก หากไม่ดำเนินการในวันที่กำหนดจะไม่สามารถใช้บริการได้ ฟังข้อมูลเพิ่มเติมกด*915653 ภาษามลายูกด*915654”  ข้อความดังกล่าว ทำให้นายสมชายฯ รู้สึกแปลกใจ จึงแจ้งความประสงค์ให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจทำหนังสือถึง    บริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิช จำกัด(มหาชน) หรือ AIS และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ  โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. 

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก สมชาย หอมลออ ได้มีหนังสือไปยังประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิช จำกัด(มหาชน) หรือ AIS  และ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ - กสทช.  โดยมีความประสงค์ให้บริษัท AIS และ  กสทช. ชี้แจงว่า ข้อความที่ส่งมาจาก กอรมน.ภาค 4 ในโทรศัพทพ์เคลื่อนที่ดังกล่าว ถือว่าเป็นการบังคับให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องไปลงทะเบียนซิมด้วยระบบอัตลักษณ์หรือสแกนใบหน้า ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 หากไม่ดำเนินการจะถูกระงับสัญญาณไม่สามารถใช้งานโทรศัทท์เคลื่อนได้ นั้น  บริษัท AIS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ และ กสทช. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล จะดำเนินการตามข้อความที่ กอรมน.ภาค 4 ส่งเข้าโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการหรือไม่ โดยใช้อำนาจตามกฎหมายใด  และเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องให้นายสมชายฯ ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปดำเนินการลงทะเบียนระบบอัตลักษณ์หรือสแกนใบหน้าแต่อย่างใด เพราะก่อนที่จะมีการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น ได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว 

นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าว ยังได้แสดงความจำนงของนายสมชายฯ ผู้ใช้บริการด้วยว่า หากบริษัท AIS ในฐานะผู้ให้บริการ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ระงับสัญณาณโทรศัพท์ทำให้นายสมชายฯ ไม่สามารถใช้บริการได้ตามข้อความที่ระบุนั้น ถือเป็นการละเมิดเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารของนายสมชายฯ  อีกทั้งนายสมชายฯไม่อนุญาตให้บริษัท AIS และ กสทช. ส่งข้อมูลใดๆของนายสมชายฯไปให้ กอ.รมน.ภาค 4 หรือหน่วยงานใดๆ ของรัฐ เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล  ไม่เช่นนั้นนายสมชายฯ ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง รวมทั้งดำเนินมาตรการทางสังคม เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมต่อไป

ทางมูลนิธิผสานวัฒนธรรมยินดีให้ความรู้และสนับสนุนรวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการโทรศัพท์รายอื่นๆ ที่ต้องการดำเนินการทางกฎหมายขอให้ตรวจสอบและดำเนินการเกี่ยวกับกรณี กอรมน.ภาค4 ส่งข้อความเข้ามือถือให้ไปลงทะเบียนซิมด้วยระบบอัตลักษณ์หรือการสแกนใบหน้าด้วย เพื่อเป็นการตรวจสอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโทรศัพท์ของท่านตามสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของทุกคนภายใต้กฎหมายเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันที่ 10 ก.ย.2562 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ส่งจดหมายประชาสัมพันธ์ เชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (นาทวี จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย) ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งระบบจดทะเบียนและเติมเงิน ร่วมลงทะเบียนซิมการ์ดตรวจสอบอัตลักษณ์ ผ่านระบบ 2 แชะอัตลักษณ์ เพื่อปกป้องผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ป้องกันการปลอมแปลงการลงทะเบียนซิมการ์ดสวมทับสิทธิ์ โดยจะมีการตรวจสอบอัตลักษณ์ของผู้ใช้ซิมการ์ด "ก่อน" การลงทะเบียนและเปิดใช้งาน โดยสามารถไปแสดงตน พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชน และซิมการ์ดเพื่อลงทะเบียนใหม่ได้ ณ ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ให้บริการทุกระบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดจะไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลขนั้น ๆ ได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ CALL CENTER ของเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบ ดังนี้ AIS ที่หมายเลข 1175 , DTAC ที่หมายเลข 1678 , TRUE ที่หมายเลข 1242 และ MY By Cat ที่หมายเลข 0-2401-2222 "2 แชะอัตลักษณ์ ลงทะเบียน Sim มั่นใจ ปลอดภัย ไร้ปลอมแปลง"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net