กองทัพภาค 4 สั่งปลดและถอดยศนายทหารในสังกัด ฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4
12 ก.ย.2562 โฆษกกองทัพภาคที่ 4 รายงานว่า จากกรณีนายทหารสัญญาบัตรสังกัด กองทัพภาคที่ 4 ได้ถูกกล่าวหาในความผิดฐานพาบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ย.62) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยความโปร่งใส เเละพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และภายหลังได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพร้อมสั่งพักราชการในระหว่างการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยทหารตามลักษณะฐานความผิดต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้เข้าดำเนินการสอบสวนบุคคลและวัตถุพยานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว พบว่านายทหาร
คนดังกล่าวได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง ในความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กรณีถูกกล่าวหาในความผิดฐาน พาบุคคลอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อ
การอนาจาร อันเป็นการกระทำผิดกฏหมายหรือศีลธรรม โดยตนเองก็รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็ยัง
มีเจตนาที่จะกระทำอีก และปัจจุบันได้มีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ และถอดยศทหารเรียบร้อยแล้ว สำหรับเรื่องคดีอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพลมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีภายในกรมกองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดก็จะมีมาตรการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น จึงขอให้สังคมได้มีความมั่นใจว่ากองทัพจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดในทุกๆกรณี และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อนขอให้แจ้งหน่วยต้นสังกัดทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และพิจารณาลงทัณฑ์ตามความเหมาะสมต่อไป
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนขั้นต้นได้อนุญาตให้กลับมาพักอาศัยในบ้านพัก
ของหน่วยเนื่องจากคู่กรณีได้ถูกปลดจากราชการไปแล้ว และให้มารดาผู้เสียหายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ ของ ร.5 พัน 3 นอกจากนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและครูที่ปรึกษาช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด