ช่อง NBT รายงานข่าวอาเซียนภาคประชาชนที่รัฐจัด แต่ลืมงานของภาคประชาสังคม

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ ภาษาอังกฤษหรือ NBT World รายงานข่าวการจัดงานอาเซียนภาคประชาชนโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยไม่ได้กล่าวถึงงานที่จัดโดยภาคประชาสังคมที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่ มธ. รังสิต ที่มีประชาสังคมเข้าร่วมจากทั่วอาเซียนรวม 1,046 คน

ฟุตเทจงานอาเซียนภาคประชาชนที่โรงแรมเบอร์เคลีย์ (ที่มา: Youtube/NBT World)

12 ก.ย. 2562 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ช่องข่าว NBT World เผยแพร่การรายงานข่าวการจัดงานมหกรรมเวทีภาคประชาชนอาเซียนในช่องยูทูป ในหัวข้อ “Thailand hosts ACSC/APF (ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมหกรรมอาเซียนภาคประชาชน)” ที่โรงแรมเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ

ผู้ประกาศข่าวได้รายงานว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมเวทีภาคประชาชนอาเซียน ในวันที่ 10-12 ก.ย. งานดังกล่าวเป็นงานที่จัดเป็นประจำทุกปีของภาคประชาสังคมในชาติสมาชิกอาเซียน 

ข่าวยังรายงานต่อไปว่า ปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวง พม. กล่าวในงานว่า มหกรรมอาเซียนภาคประชาชนมุ่งหมายให้เกิดการเสริมสร้างพัฒนาการทางสังคมและสร้างความก้าวหน้าในภูมิภาคในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ โดยประเด็นที่พูดคุยในงานมีทั้งเรื่องบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียน แผนแม่บทอาเซียนในปี ค.ศ.2025 ที่จะเน้นในเรื่องการสวัสดิการสังคมและผู้พิการ และพัฒนาการร่วมมือในหลายพื้นที่โดยกระทรวง พม.

ข่าวยังรายงานว่า เวทีภาคประชาชนอาเซียนปีนี้จัดในธีม “พัฒนาการเคลื่อนไหวของประชาชน เพื่อความเป็นธรรม สันติภาพ ความเท่าเทียม ความยั่งยืนและประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” และมีการจัดสัมมนาห้องย่อยหรือ Convergence Space 7 ห้อง ที่ผู้เข้าร่วมสามารถไปแบ่งปันประสบการณ์ในการทำงานกับประเด็นปัญหาต่างๆ เพื่อหาทางในความร่วมมือการรณรงค์ระดับชาติและภูมิภาค

อย่างไรก็ดี การรายงานข่าวไม่ได้กล่าวถึงการประชุมเวทีภาคประชาชนอาเซียนที่จัดโดยคณะทำงานภาคประชาสังคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต ที่มีขึ้นในวันที่ 10-12 ก.ย. เช่นกัน โดยใช้ธีมเหมือนกัน แต่ย้ายสถานที่จากเบอร์เคลีย์ ด้วยคณะจัดงานภาคประชาสังคมถูกปฏิเสธงบประมาณจาก พม. โดยอ้างเหตุผลว่ามีความพยายามแทรกแซงจากฝ่ายความมั่นคงด้วยการขอดูรายชื่อผู้เข้าร่วมงานที่มาจากต่างประเทศ ในประเด็นเดียวกันนี้ แสงดาว อารีย์ ผอ.กองการต่างประเทศ พม. ระบุว่าเป็นเพราะคณะทำงานไม่ส่งรายชื่อให้ พม. จึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปในทางงบประมาณได้

งานประชุมภาคประชาชนอาเซียนที่ มธ. ศูนย์รังสิต

โดยงานที่จัดโดยภาคประชาสังคม ได้จัดจนเสร็จสิ้นไปในเย็นวันนี้ (12 ก.ย.) หลังจบการร่างแถลงการณ์ของภาคประชาสังคม ที่เบื้องต้นจะถูกส่งไปยังทางการไทยในฐานะประธานอาเซียน และพิธีมอบธงให้ตัวแทนคณะทำงานจากเวียดนามที่จะเป็นเจ้าภาพประเทศต่อไปในปี 2563

5 เรื่องต้องรู้ ‘ประชุมภาคประชาชนอาเซียน’ เวทีภูมิภาคที่คนเสี่ยงชีวิตมาเข้าร่วม

ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานอำนวยการร่วม กรรมการจัดงานประเทศไทยกล่าวในงานแถลงข่าวว่า มีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 1,046 คน โดยมาจากประเทศไทย 504 คน และจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน รวมถึงติมอร์-เลสเตรวม 542 คน ในกิจกรรมพบปะตัวแทนจากภาครัฐของชาติสมาชิกอาเซียน หรือที่เรียกว่า Town Hall Meeting ที่ปีนี้มีปลัดจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย และเอกอัครราชทูตจากมาเลเซีย อินโดนีเซียและติมอร์-เลสเต ประจำประเทศไทยเข้าร่วม ก็ได้มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนกันอย่างไม่ได้มีบรรยากาศกดดัน เป็นโอกาสที่จะสร้างความเชื่อใจระหว่างภาคประชาสังคมกันนักการทูต เพราะในอดีต ทั้งสองฝ่ายต่างมีภาวะเผชิญหน้ากัน วันนี้ก็เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าเราสามารถร่วมงานกันได้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

สุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง ประธานร่วมในคณะกรรมการจัดงานกล่าวถึงภาพรวมของแถลงการณ์ที่จะยังต้องเรียบเรียงให้เสร็จ หลังจากปรึกษาหารือกับผู้ร่วมงานทั้งหมดแล้วว่า หลักๆ คือให้ยอมรับความหลากหลายของคนในอาเซียน เปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในภูมิภาคนี้ เช่น ยอมรับเวทีภาคประชาชน สอง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนต้องมีเวลาให้ภาคประชาชนเข้าพบ และแถลงการณ์ที่ออกมาจากภาคประชาชนจะต้องได้รับการเอาใจใส่จริงๆ 

สุนทรียังกล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ได้ใหม่ แต่ที่ต้องพูดซ้ำเพราะข้อเสนอไม่ได้รับการพัฒนาอย่างน่าพึงพอใจ บางปีกลับถอยหลังเสียด้วยซ้ำ สำหรับปีนี้พวกเรามองว่าการยอมรับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนถอยหลังไปกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ไทยเป็นประธานอาเซียนรอบที่แล้วด้วยซ้ำ

สำหรับวาระต่อไปของภาคประชาชน ตัวแทนภาคประชาสังคมจะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของอาเซียน (Senior Official Meeting – SOM) ในวันที่ 17 ก.ย. ณ โรงแรมแชงกรีลา เพื่อผลักดันประเด็นของภาคประชาชน รวมถึงหารือโอกาสในการพบปะกับผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนในการประชุมอาเซียนซัมมิทครั้งที่ 2 ในเดือน พ.ย. นี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานที่ พม. จัดที่โรงแรมเบอร์เคลีย์ ใช้ชื่อ “โครงการประชุมภาคประชาชนอาเซียน” โดยเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ในประเทศจำนวนราว 1,000 คนหน่วยงานในสังกัดสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ พม. บ้านพักเด็ก กลุ่มอาสาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำหมู่บ้าน (อพม.) และเครือข่ายทั่วประเทศ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัดและ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการ (สสว.) 12 แห่ง โดยจะเป็นเวทีให้ความรู้เรื่องการดำเนินงานอาเซียนของประเทศไทยในเสาหลักด้านสังคมและวัฒนธรรม

ในช่วงเริ่มต้นการเป็นประธานอาเซียน คณะทำงานทั้งจากประชาสังคมและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวเรือใหญ่ในฝั่งภาครัฐ มีความมุ่งมั่นในการจัดเวทีภาคประชาชนอาเซียนร่วมกัน โดย พม. ตั้งงบประมาณให้จัดงานถึง 9.8 ล้านบาท มีการทำงานร่วมกันในการกำหนดประเด็น จัดหาที่พัก สถานที่จัดงาน (เดิมจะจัดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเดือน มิ.ย. แต่ต้องเลื่อน เนื่องจากความไม่พร้อมของคณะทำงาน จากนั้นย้ายไปที่โรงแรมเบิร์กลีย์ ประตูน้ำ) จนกระทั่งการประชุมในช่วงต้นเดือน ก.ย. นี้เองที่มีจุดพลิกผันอย่างหนัก เมื่อคณะทำงานภาคประชาชนออกมาแถลงข่าวเมื่อ 3 ก.ย. ตัดสินใจไม่รับงบประมาณจาก พม. ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าหาข้อสรุปกับ พม. ไม่ได้ในส่วนการให้รายชื่อผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศจำนวนราว 500 คน ให้กับ พม. เพราะว่าฝ่ายความมั่นคงของไทยพยายามแทรกแซงด้วยการขอรายชื่อนั้นมาดูว่าใครติดแบล็คลิสต์ของรัฐบาลเพื่อนบ้านบ้าง

ภายใต้ข้อเท็จจริงเรื่องการไม่มีงบสนับสนุนจากรัฐ สิ่งที่ยังกำกวมอยู่ก็คือ สรุปว่ารัฐเป็นคนตัดงบ หรือประชาสังคมเป็นคนตัดสินใจไม่รับงบประมาณ หรือความมั่นคงไม่ใช่ประเด็นหลักประเด็นเดียว ซึ่งทั้งสองฝั่งยังไม่มีข้อโต้แย้งที่ทาบทับกันในส่วนนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท