Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

มีคำถามว่าเหตุใดชายฉกรรจ์หัวเกรียนจึงต้องมาเจรจากับชาวบ้านเพื่อขอขนแร่และทรัพย์สินรายการต่างๆ ของเหมืองทองเอาออกไปขาย ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายจะต้องไปเจรจาหรือปรึกษาหารือกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่เป็นผู้ดูแลและจัดการทรัพย์สินของเหมืองทองตามคำพิพากษาของศาลที่ให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองล้มละลายโดยเด็ดขาดไปแล้ว

เหมืองแร่เมืองเลย: ด่วน! ชายฉกรรณ์หัวเกรียน 5 คน โทรนัดเจรจาขนแร่กับชาวบ้านอีกครั้ง

คำตอบก็คือมีการกระทำอันเฉื่อยชาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จังหวัดเลยที่ไม่เร่งรัดดำเนินการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของทุ่งคำเพื่อแจกแจงต่อเจ้าหนี้ทุกๆ รายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ (ซึ่งชาวบ้านก็เป็นเจ้าหนี้รายหนึ่งจากการฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดเลยที่พิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายรายบุคคลและฟื้นฟูเหมืองด้วย) จึงเป็นภาระของเจ้าหนี้รายต่างๆ ที่จะแสดงออกในการพิทักษ์ทรัพย์เพื่อเก็บไว้ชำระหนี้สินตนเอง

ปัจจุบันคดีนี้ถึงที่สุดจากคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์คดี

ผลของคดีนี้ทำให้ทุ่งคำต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวบ้าน 149 รายๆ ละ 104,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง

และให้ทุ่งคำซึ่งเป็นจำเลยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองทองคำจนกว่าจะกลับสู่สภาพเดิมตามมาตรฐานทางราชการ และในการจัดทำแผนฟื้นฟูให้ชาวบ้านซึ่งเป็นโจทก์เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วย

โดยสรุป 1. ถ้าไม่นับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ทุ่งคำมีหนี้ค้างชำระต่อชาวบ้าน 149 ราย รวมกัน 15,496,000 บาท 2. หนี้ค้างชำระจากมูลค่าที่ทุ่งคำต้องออกค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองทองคำตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ระดับพันล้านบาทขึ้นไป

สิ่งที่ชาวบ้านทำก็เพียงเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง และยังต้องมานั่งคอยพิทักษ์ทรัพย์ด้วยตนเองอีกด้วยการเฝ้าทรัพย์สินที่อยู่บนเหมือง (อาทิ สินแร่ทองคำผสมทองแดง ส่วนประกอบของโรงงาน ห้องหลอมทอง (Dore) วัสดุภัณฑ์รายการต่างๆ ฯลฯ) ในฐานะเจ้าหนี้ที่รอคอยการชำระหนี้อย่างมีความหวัง

ดังนั้นถ้าปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย, หากจะมีใครอยากมาเจรจาขอซื้อสินแร่ทองคำผสมทองแดงและทรัพย์สินที่มีค่ารายการต่างๆ ที่อยู่บนเหมืองก็ต้องไปติดต่อเจรจากับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จังหวัดเลย หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่วนกลาง ไม่ควรมาเจรจากับชาวบ้าน

หากมีเอกสารยืนยันถูกต้องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็รับรองได้ว่าชาวบ้านคงไม่เสียเวลามาสกัดขัดขวางแต่อย่างใด เพราะนั่นแสดงว่ายิ่งขายออกไปเร็วเท่าใดชาวบ้านก็จะได้การชำระหนี้และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ทรุดโทรมจากการทำเหมืองตามคำพิพากษาของศาลเร็วเท่านั้น

แต่หลังคำพิพากษาคดีดังกล่าวเมื่อเดือนธันวาคม 2561 มักมีรถเข้าออกแบบลับๆ ล่อๆ ขึ้นไปบนเหมืองเพื่อแอบมาขนแร่และสินทรัพย์รายการต่างๆ เอาไปขายไม่ต่ำกว่าสามสี่ครั้งแล้ว โชคยังดีที่ชาวบ้านเห็นการเคลื่อนไหวก่อนที่สินแร่และทรัพย์สินรายการต่างๆ จะถูกขนออกไป และเมื่อชาวบ้านถามหาเอกสารหลักฐานการซื้อขายสินแร่และสินทรัพย์รายการต่างๆ จากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ คนที่ขับรถมาแบบลับๆ ล่อๆ ก็ไม่สามารถหามาให้ดูได้

มีคำถามหนึ่งและข้อสังเกตหนึ่งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทำไมเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถึงไม่เร่งรัดจัดทำรายการบัญชีทรัพย์สินให้ครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อนำสินแร่และสินทรัพย์รายการต่างๆ ไปขายทอดตลาด และนำเงินที่ได้มาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้รายต่างๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

หรือเป็นเพราะมีการเปิดช่องจากมือที่มองไม่เห็นให้ชายฉกรรจ์หัวเกรียน (หรือใครรายอื่นๆ ทั้งก่อนหน้าและหลังจากที่ชายฉกรรจ์หัวเกรียนเข้ามา ณ เวลานี้) เข้ามาดำเนินการขนแร่และสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงรายการต่างๆ เอาไปขายให้เสร็จสิ้นเสียก่อน แล้วค่อยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดทำรายการบัญชีทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ภายหลัง

ซึ่งรายการสินทรัพย์ที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่น่าจะมีมูลค่าสูงพอที่จะชำระหนี้แก่ชาวบ้านและฟื้นฟูเหมืองตามคำพิพากษาได้ รวมทั้งก็ไม่น่าจะมีมูลค่าสูงพอที่จะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้รายใหญ่อื่นๆ อย่างเช่นธนาคารดอยช์แบงค์ได้เช่นเดียวกัน

เพราะสินทรัพย์ที่มีราคาสูงโดนชายฉกรรจ์หัวเกรียน (หรืออาจจะใครรายอื่นๆ ในอนาคต หากชายฉกรรจ์หัวเกรียนทำงานนี้ไม่สำเร็จ) ขนเอาไปขายหมดแล้ว

ด้วยเหตุที่กล่าวไปทั้งหมดจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมชายฉกรรจ์หัวเกรียนต้องเข้ามากดดัน ข่มขู่ คุกคามชาวบ้าน

คำตอบก็คือเป็นการขนแร่และสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงรายการต่างๆ เอาออกไปขายนอกบัญชีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั่นเอง

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: เฟสบุ๊ค เหมืองแร่ เมืองเลย V2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net