Skip to main content
sharethis

วิษณุเผยกรณีวุฒิศึกษาธรรมนัส หากมีการปลอมแปลงจริง สามารถตั้งกรรมการสอบจริยธรรม ถ้าพบว่ามีความผิด ก็ปรับออกจากคณะรัฐมรนตรีได้ ด้านทีมกฎหมายธรรมนัสชี้แจงประวัติการรับราชการทหาร ยืนยีนหลังจากมี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ของไทยแล้ว ถือว่า ธรรมนัส ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย

ภาพจากแฟนเพจ ธรรมนัส พรหมเผ่า

16 ก.ย. 2562 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ตอนสมัคร ส.ส. ไม่ได้มีการตรวจสอบวุฒิการศึกษา  เพราะไม่ได้กำหนดวุฒิเอาไว้ และตอนเป็นรัฐมนตรีก็จะตรวจสอบเฉพาะวุฒิปริญญาตรี หากจบปริญญาตรีก็ถือว่าคุณสมบัติครบสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ ส่วนปริญญาโทและปริญญาเอกจะจบหรือไม่จบ ก็ถือเป็นสิทธิของบุคคลนั้น แต่หากไม่จบแล้วไปแสดงว่าจบโดยแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จถือเป็นเรื่องของจริยธรรม  ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบกันต่อไป  หากมาพบว่าผิดจริยธรรม ก็สามารถปรับออกได้ ส่วน พรบ.ล้างมลทิน จะสามารถล้างความผิดในอดีตได้หรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องของกกต.เพราะมีอำนาจต้องตรวจสอบคุณสมบัติ กรณีนี้เป็นเรื่องของคุณสมบัติโดยตรง  แต่ในชั้นการตั้ง ครม. ก็ไม่ได้ตรวจสอบในส่วนนี้เช่นกัน

สำหรับการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 นั้น วิษณุ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้เตรียมเอกสารอะไรไว้ชี้แจง เพราะไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะถามอะไร แต่จะนำความจริงเข้าไปตอบ และไม่ขอบอกว่ากังวลหรือไม่ที่จะตกเป็นเป้าในการอภิปราย เพราะไม่อยากให้สื่อนำคำให้สัมภาษณ์ไปพาดหัวข่าว แต่คิดว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ต้องอาศัยความพร้อมอะไร และไม่เห็นว่าเป็นเหตุการณ์อะไรที่น่าตื่นเต้น 

วิญณุ กล่าวว่า ในการประชุม ครม. วันพรุ่งนี้น่าจะมีการพิจารณา พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้งซ่อ มส.ส.นครปฐม เขต 5 เพราะในกรณีที่ส.ส.ลาออกจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน

ด้าน พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ และพล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ ทีมกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส ได้แจ้งสื่อมวลชนวันนี้ว่า

เดือนเม.ย. 2536 ร.อ.ธรรมนัส ขณะนั้น มียศร้อยโท และใช้ชื่อ พชร  เดินทางออกจากประเทศไทย ไปประเทศออสเตรเลีย และเดินทางกลับประเทศไทย เดือนเม.ย. 2539  หลังจากพ้นโทษตามคำพิพากษาของศาลประเทศออสเตรเลีย กองบัญชาการทหารสูงสุดได้พิจารณาให้ ร.ท.พชร ออกจากราชเนื่องจากขาดงานราชการเกิน 15 วัน

ปี 2539 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พ.ร.บ.ล้างมลทิน โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ทำให้หลังวันที่  11 ก.ย. 2539  ร.ท.พชร พรหมเผ่าได้ยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการทหาร และกองบัญชาการทหารสูงสุดได้อนุมัติรับ ร.ท.พชร  กลับเข้ารับราชการทหารตามระเบียบ และมีคำสั่งกระทรวงกลาโหมเลื่อนยศร้อยโท เป็นว่าที่ร้อยเอก ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2541

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 24 ต.ค. 2541  ระบุ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด ร.ท.พชร  สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุดออกเสียจากยศ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2541 เนื่องจากประพฤติตนไม่สมควรตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทางทหาร พ.ศ.2476

และในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พ.ร.บ.ล้างมลทิน  โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ทำให้ นายพชร ซึ่งเปลี่ยนเป็นนายธรรมนัส สามารถใช้ยศร้อยเอกได้  

เนื้อหาในเอกสารระบุด้วยว่า ผลของกฎหมาย พ.ร.บ.ล้างมลทิน ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว มีผลให้ ร.ท.พชร ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลออสเตรเลียและ ไม่เคยถูกลงทัณฑ์ทางวินัยกรณีขาดราชการ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 9 มิ.ย. 2539 (ตามข้อ 2,3 ของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2539) และ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณี ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธ.ค. 2550 (ตามข้อ 7 ของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2550) ดังนั้น ร.อ. ธรรมนัส เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย และไม่เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดตามคำพิพากษาศาล และไม่เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัย ทำให้ ร.อ. ธรรมนัส มีคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการดำรงตำแหน่งรัฐมตรี 

เรียบเรียงจาก : สำนักข่าวไทย 1 , 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net