Skip to main content
sharethis

ผู้นำฝ่ายค้านเปิดอภิปรายทั่วไปตั้งคำถามสำคัญ นายกรัฐมนตรีนำ ครม. เข้าถวายสัตย์มาแล้วหลายครั้ง ที่ผ่านมาทำถูกต้องทั้งหมด และรอบล่าสุดเป็นเพราะเหตุใดจึงพูดไม่ครบ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแนะ นายกฯ ใช้ความกล้าหาญแบบทหารลุกขึ้นเปร่งเสียงชัดๆ ว่าผมขอลาออก ถือว่าทำเพื่อคนไทยสักครั้ง ประเทศจะได้มีแสงสว่าง

18 ก.ย. 2562 เริ่มต้นการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เป็นผู้อภิปรายเป็นคนแรกโดยระบุว่า ข้อเท็จจริงได้เห็นชัดแล้วว่า นายกรัฐมนตรี และคณะคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบจริง และยังมีการกล่าวถ้อยคำเพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งขาดสาระสำคัญ ทำให้มีปัญหาการใช้ถ้อยคำถวายสัตย์ฯ

สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ฝ่ายค้านก็ให้โอกาสให้นายกฯ แก้ปัญหาเหล่านั้น แต่นายกฯ ก็ยังเพิกเฉย ไม่แก้ไขอะไร พวกผมฝ่ายค้าน จึงต้องมาอภิปรายในวันนี้ ทั้งนี้ สมพงษ์ ยังได้ยกคำพูดของวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยได้กล่าวไว้ว่า การถวายสัตย์ฯ จะผิดพลาดไม่ได้ คำกล่าวจะต้องไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว มาเปรียบเทียบอีกด้วย 

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยนำนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฎิญาณมาแล้วหลายครั้ง ผมมีข้อสงสัยว่า การถวายสัตย์ปฎิญาณเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2562 นั้นเหตุใดจึงขาดถ้อยคำอันเป็นสาระสำคัญ ท่านมีเจตนาไม่ใช้เอกสารของสำนักนายกรัฐมนตรีที่จะดให้ มีเจตนาไม่กล่าวถ้อยคำตามรัฐธรรมนูญหรืออย่างไร และท่านจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และแสดงความรับผิดชอบอย่างไร” ผู้นำฝ่ายค้านกล่าว

สมพงษ์ กล่าวอีกว่า เห็นว่าคำแถลงนโยบายดังกล่าว ฝ่ายค้านมีการคัดค้านไปแล้วแต่คณะครม.ก็เพิกเฉยไม่ปฏิบัติแต่อย่างไร ปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านจะหาเงินนั้นมาใช้เป็นงบประมาณได้อย่างไร เมื่อพิจารณาพฤติกรรมของนายกฯ ที่กระทำอย่างต่อเนื่อง ผมพบว่า ท่วงทำนองที่ท่านนายกฯ ได้กระทำมา ขัดรธน.โดยตลอด สิ่งที่ท่านไม่ได้กระทำตามรธน. อาทิ นำครม.ทั้งคณะกล่าวปฏิญาณไม่ครบถ้วน แถลงต่อสภา ไม่แจงที่มาของเงินงบประมาณแผ่นดินที่จะใช้

“ท่านนายกฯ และผู้นำของประเทศได้แสดงถึงความไม่มีวุฒิภาวะ ไม่ฟังข้อถ้วงติง ไม่ยอมรับว่าตนเองทำผิด และสมควรจะแก้ไขให้ถูกต้องอย่างไร ก่อความเสียหายเป็นลูกโซ่ ทำให้ประเทศเสียหาย ทำผิดรัฐธรรมนูญ เมื่อความเชื่อมั่นไม่เกิด ควายอมรับนับถือจึงไม่มี และประเทศที่ผู้นำไม่ได้รับความนับถือ ถูกตำหนิ จะนำสังคมออกจากวิกฤติ ให้อยู่รอดได้อย่างไร “สมพงษ์ กล่าว

ต่อมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ก่อน ครม. เข้ารับหน้าที่ ถือเป็นพิธีกรรมการเริ่มต้นใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร และทุกประเทศต้องถือปฏิบัติตามรูปแบบของกฎหมายที่ฝ่ายบริหารต้องทำอย่างถูกต้องครบถ้วน  หากกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้การกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าองค์พระมหากษัตริย์ ต้องกล่าวด้วยความจริง และเป็นการให้คำสัญญากับประชาชน ผ่านองค์พระมหากษัตริย์ หากไม่ทำตามรูปแบบ ถือว่าการกระทำหรือใช้อำนาจจากนั้นคือโมฆะใช้บังคับไม่ได้

"นายกฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ คือการให้สัญญากับประชาชน แต่นายกฯ ตัดถ้อยคำที่ว่าจะรักษาและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกำประการ คือ การไม่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าจะทำตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากรัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริต ไม่มีเรื่องโกง ไม่คอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เช่น ไม่จัดงบประมาณให้ประชาชนเรียนฟรี โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ หรือ กรณีที่จัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3แสนล้านบาท โดยแจกเงินให้คนละ 1,500 บาทเพื่อท่องเที่ยวนั้น ท่านบอกว่าพอใจ แต่สังคมมีคำถามว่าทำได้แค่นี้เองหรือ ดังนั้นหากนายกฯ ไม่กล่าวคำที่ขาดไป แสดงว่าฝ่ายค้านจะไม่สามารถเอาผิดรัฐบาลได้ เพราะไม่เคยให้สัญญาว่าจะทำตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน อีกทั้งการทำหน้าที่ของ ครม. การกระทำที่ทำหลังจากนั้น จะถือว่าโมโฆะ ใช่หรือไม่" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการแถลงนโยบายที่ไม่ระบุรายละเอียดงบประมาณนั้น อาจมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณด้วย ทั้งนี้ตนมีข้อเสนอแนะต่อทางออกต่อเรื่องดังกล่าวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ด้วยการลาออก  

“ท่านต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ปกติผู้นำทางการเมือง เวลาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การแก้ไขที่สง่างามที่สุดคือการลาออก การลาออกไม่ได้เป็นเรื่องเสื่อมเสีย ถือเป็นประเพณีความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารที่นานาอารยะประเทศเขาทำกัน ฝากบอกนายกฯ ไม่ต้องทำเป็นหนังสือก็ได้ครับ ท่านใช้ความกล้าหาญครับ ท่านเป็นอดีตทหาร เป็นรุ่นพี่ผมด้วย เพียงใช้ความกล้าหาญลุกขึ้น เปร่งเสียงชัดๆ ผมขอลาออก แค่นี้แสงสว่างก็จะเกิดกับประเทศชาติขิงเราทันที ทำให้คนไทยสักครั้งได้ไหมครับ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

 

เรียบเรียงบางส่วนจาก: ไทยรัฐออนไลน์ , ข่าวสดออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net