ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ ห้ามบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย
18 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 ประกาศ ณ วันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ลงนามโดย นุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และใน ข้อ 2 ระบุว่า ข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
โดยมีข้อที่น่าสนใจคือ ข้อ 10 ห้ามมิให้ผู้ใดบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย
iLaw ยังชี้ในข้อ 10 เพิ่มเติมว่า ยังกำหนดให้ "ห้ามบิดเบือน" ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล โดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำ หรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย
ซึ่งข้อกำหนดฯในข้อที่ 10 มีเนื้อหาในลักษณะเดียวกับมาตรา 38 วรรคสาม ของพ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญฯ แต่ในพ.ร.ป.กำหนดว่า "การวิจารณ์คําสั่งหรือคําวินิจฉัยคดีที่กระทําโดยสุจริตและมิได้ใช้ถ้อยคําหรือมีความหมายหยาบคายเสียดสี หรืออาฆาตมาดร้าย ไม่มีความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล" ซึ่งข้อนี้ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ อาจยกมาเป็นข้อต่อสู้ในกรณีที่ตัวเองถูกตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญได้
ในข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้บุคคลที่เข้ามาในที่ทำการศาล หรือเข้าฟังการไต่ส่วนของศาลต้องประพฤติตัวตามที่ศาลกำหนด มิเช่นนั้นจะถือเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล อย่างเช่น
ข้อ 8 (2) ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงหรือส่งเสียงรบกวนหรือกระทำการอื่นใดที่เป็นการรบกวนการพิจารณาคดีของศาลหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาล และห้ามกีดขวางทางเข้าออกศาล
ข้อ 8 (3) ห้ามประพฤติตนในทางก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อย หรือก่อความรำคาญ หรือกระทำการในลักษณะยุยงส่งเสริมการกระทำข้างต้น ในการพิจารณาคดีหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาล
ข้อ 8 (7) ห้ามแถลง ชี้แจง แจกจ่ายเผยแพร่ ให้สัมภาษณ์หรือพูดออกอากาศในบริเวณศาล ที่อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อการพิจารณาคดี โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยข้อกำหนดข้อที่ 9 ระบุว่า ศาลอาจออกคำสั่งให้บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการหรืองดเว้นการกระทำเพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อยและรวดเร็ว
สำหรับข้อกำหนดตามประกาศนี้ อ้างถึง มาตรา 6 และมาตรา 28 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 บัญญัติให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญโดยมติของคณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจออกข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและนอกจากที่บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจ ออกข้อกำหนดของศาลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและไม่สร้างขั้นตอนหรือก่อให้เกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น จึงเป็นการสมควรให้มีข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ ข้อกำหนดนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 26 ประกอบมาตรา 28 และมาตรา 34 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยเหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตำมข้อกำหนดนี้ เป็นไปเพื่อให้การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไป ด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย