Skip to main content
sharethis

มีหลักฐานจากวิดีโอที่ถ่ายด้วยโดรนแสดงให้เห็นตำรวจจีนกำลังนำทางผู้คนที่ถูกปิดตาและมัดมือลงจากรถไฟ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง

ภาพผู้ต้องขังในวิดีโอ (ที่มา:Youtube/War on Fear)

25 ก.ย. 2562 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 ก.ย.) สื่อเดอะการ์เดียนเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอที่ถ่ายด้วยโดรนลงในยูทูบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในวิดีโอแสดงให้เห็นผู้ต้องขังในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินและเหลือง พวกเขาถูกโกนหัว ปิดตา นั่งเรียงเป็นแถวบนพื้น และต่อมาก็ถูกตำรวจนำตัวไป โดยทั่วไปแล้วผู้ต้องขังในจีนมักจะถูกเคลื่อนย้ายโดยให้ใส่กุญแจมือและมีหน้ากากปกปิดใบหน้า

ฟุตเทจวิดีโอที่กล่าวถึง (ที่มา:Youtube/War on Fear)

นาธาน รูเซอร์ นักวิจัยจากศูนย์นโยบายไซเบอร์ของสถาบันเพื่อนโยบายทางยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย อาศัยเงื่อนงำจากจุดเด่นของภูมิประเทศและตำแหน่งที่ตั้งของดวงอาทิตย์ในวิดีโอ โดยประเมินว่าน่าจะถ่ายมาจากสถานีรถไฟทางตะวันตกของเมืองกอร์ลาซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซินเจียง วิดีโอดังกล่าวนี้ถ่ายทำเมื่อเดือน ส.ค. 2561

ในขณะที่นานาชาติวิจารณ์จีนในเรื่องการกวาดต้อนจับกุมผู้คนในซินเจียงโดบอ้างเรื่องการปราบปรามการก่อการร้าย แต่ก็มีผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนที่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมชนชาติอื่นถูกคุมขังอย่างไม่มีกระบวนการทางกฎหมายในค่ายกักกันปรับทัศนคติทางการเมือง

คนถูกจับเข้าค่ายปรับทัศนคติอูยกูร์จีนเล่า ถูกบังคับกินหมู ห้ามไว้เครา-ละหมาด

แถลงการณ์ 22 ประเทศประณามจีนกรณี 'ค่ายปรับทัศนคติ' ในซินเจียง

การวิเคราะห์ของนิวยอร์กไทม์ระบุอีกว่าการจับกุมตัวและลงโทษจำคุกอย่างเป็นทางการในซินเจียงก็เพิ่มขึ้นด้วย ในช่วงปี 2560-2561 ศาลในซินเจียงตัดสินลงโทษผู้คน 230,000 คนให้ต้องโทษจำคุกหรือโทษอื่นๆ นับว่าประชาชนที่อยู่ในซินเจียงมีคนถูกจับกุมมากกว่าร้อยละ 21 ในปี 2560

รูเซอร์บอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่นักโทษเหล่านี้กำลังถูกเคลื่อนย้ายจากคัชการ์ไปยังเรือนจำในกอร์ลาซึ่งเป็นที่ๆ มักจะมีการปราบปรามอย่างค่อนข้างรุนแรง และเชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งตั้งค่ายปรับทัศนคติหลายแห่งแต่มีเรือนจำอยู่น้อยกว่า รูเซอร์บอกอีกว่าเรื่องนี้เป็นหลักฐานที่คัดค้านกับโฆษณาชวนเชื่อที่ทางการจีนพยายามนำเสนอต่อโลก เดอะการ์เดียนระบุว่าทางการจีนเคยพาทูตและนักข่าวที่พวกเขาเลือกสรรแล้วไปเยี่ยมชมพื้นที่ๆ พวกเขาจัดฉากไว้ว่าเป็นวิธีการต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรง

มารีส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียเคยกล่าวถึงวิดีโอนี้ว่าดูแล้วชวนให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก วิดีโอดังกล่าวนี้เผยแพร่โดยบัญชีผู้ใช้งานชื่อ War on Fear ซึ่งระบุว่ามีเป้าหมายต้องการต่อสู้กับความกลัวโดยได้แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีระดับสูงที่ใช้ในการสำรวจเฝ้าระวัง

เรียบเรียงจาก

China footage reveals hundreds of blindfolded and shackled prisoners, The Guardian, Sep. 23, 2019

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net