'สุภรณ์' เผย 'ประยุทธ์' ให้ดูแลเรื่อง 'ม็อบ-ตอบโต้การเมือง'

'สุภรณ์ อัตถาวงศ์' เผย 'ประยุทธ์' มอบหมายดูแลด้านการรับเรื่องร้องเรียน ม็อบต่างๆ ที่มาเรียกร้องรัฐบาล และช่วยชี้แจงตอบโต้ประเด็นด้านการเมืองในบางโอกาส 'ธรรมนัส' มอบใบอนุญาตทำกินที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ให้เกษตรกร จ.แพร่ 'คฑาเทพ' เตรียมนำปัญหาต่างชาติกว้านซื้อโค-กระบือ เข้า กมธ.เกษตร


นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย)

5 ต.ค. 2562 หลังได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี มีผลเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562

วานนี้ (4 ต.ค.) นายสุภรณ์ ลงมาพูดคุยและแนะนำตัวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และแจ้งว่านายกรัฐมนตรีได้มอบหมายดูแลด้านการรับเรื่องร้องเรียนประชาชน คือ ม็อบต่างๆ ที่มายื่นข้อเรียกร้องกับรัฐบาล และอีกภารกิจคือ ช่วยชี้แจงตอบโต้ประเด็นด้านการเมืองในบางโอกาส เพื่อช่วยแบ่งเบางานของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกทางหนึ่ง โดยแจ้งว่าที่นั่งทำงานประจำอยู่ที่ศูนย์บริการประชาชน ฝั่ง ก.พ. แต่ยืนยันว่างานจะไม่ทับซ้อนกับทีมงานโฆษกรัฐบาลแน่นอน

"ส่วนตัวเชื่อว่างานดังกล่าวเป็นงานที่หนักพอสมควร เพราะในแต่ละวันมีกลุ่มผู้ที่มายื่นร้องทุกข์จำนวนมาก และหลายกลุ่ม นอกจากนี้ยังได้รับมอบหมายให้ ช่วยชี้แจงประเด็นทางการเมือง เสริมงานของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในบางโอกาส อีกทางหนึ่งด้วย"

'ธรรมนัส' มอบใบอนุญาตทำกินที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ให้เกษตรกร จ.แพร่

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ไปที่หอประชุมอำเภอวังชิ้น จ.แพร่ โดยมีนางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด ตลอดจนเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก จากนั้นร้อยเอกธรรมนัสได้มอบหนังสืออนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรจำนวน 187 ราย รวม 224 แปลง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการจัดสรรที่ดินของ ส.ป.ก. เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปที่ดิน เพื่อแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกร ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะมีการช่วยเหลือพัฒนาอาชีพ และปัจจัยการผลิตให้สามารถผลิตและมีรายได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน

"ในโอกาสต่อไป เราจะยึดคืนที่ดินแปลงใหญ่จากนายทุนที่หมดสัมปทานแล้วมาให้เกษตรกร ได้ทำกินและนอกจากให้ที่ดินทำกินแล้ว ยังจะมอบอาชีพ ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ โดยเน้นเกษตรอินทรีย์ และยังจะมอบสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน เมื่อเกษตรกร มีที่ดินทำกิน ก็จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กลายเป็นชุมชนเข้มแข็งที่ยั่งยืน" รมช.เกษตรฯ กล่าว

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะยังเดินทางไปที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน หมู่ที่ 9 บ้านใหม่ป่าจอก ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ โดยได้พบกับหมอดินอาสา พร้อมมอบแหล่งน้ำจำนวน 2 โครงการ มอบบัตรดินดี มอบเมล็ดพันธุ์ปอเทือง แก่กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ก่อนจะพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรเพื่อนำไปพิจาณาแก้ไขต่อไป

เร่งรัดในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เข้าไปข่มขู่ชาวบ้าน จ.นครศรีธรรมราช

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมาชาวบ้าน ต.ตะพาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช กว่า 30 คนเดินทางมาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอบคุณและร้องเรียนต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่รับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้าน พร้อมสั่งการให้ตำรวจและทหารเข้าช่วยเหลือ และคุ้มครองความปลอดภัย ตลอดจนได้โทรศัพท์ติดต่อผู้มีอิทธิพลให้หยุดการข่มขู่คุกคามชาวบ้านจนผู้มีอิทธิพลได้หยุดการคุกคามไป

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการเข้าพบของกลุ่มชาวบ้านในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ในพื้นที่ตำบลหัวตะพานได้มีนายทุนมากว้านซื้อที่ดิน และใช้วิธีต่างๆ ที่จะเอาที่ดินของชาวบ้านมาสร้างมหาวิทยาลัย โดยชาวบ้านถูกผู้มีอิทธิพลรังแกตลอดเวลา ล่าสุดได้ใช้รถแบคโฮไถบ้านชาวบ้านในยามวิกาล จนทำให้บ้านของชาวบ้านพังเสียหายเดือดร้อนหลายครัวเรือน ต้องอยู่กันแบบขวัญผวาทุกคืนจนทนไม่ไหว ชาวบ้านได้รวมตัวกันติดต่อร้องเรียนไปยังผู้ประสานงานกลุ่มสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน 4 ภาคประจำจังหวัดเพชรบุรีถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านเดือดร้อน 

"ต่อมาทางเครือข่ายได้โทรประสานมายังผม ซึ่งผมได้ติดต่อกลับไปยังตำรวจและทหารในพื้นที่ให้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกข่มขู่ คุกคาม และติดต่อไปยังผู้มีอิทธิพลให้หยุดการกระทำดังกล่าวจนกลุ่มผู้มีอิทธิพลได้ขนรถแบคโฮ และอุปกรณ์ต่างๆ กลับไป ทำให้ชาวบ้านอำเภอท่าศาลาพึงพอใจอย่างมาก"

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าวันนี้เขารวมตัวกันเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อมาขอบคุณและทีมงานที่ให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที หลังจากนั้นไม่นานจนถึงขณะนี้ยังมีลูกน้องผู้มีอิทธิพลบางส่วนยังไม่เลิกพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวจึงร้องเรียนให้ตนประสานงานช่วยชาวบ้านที่ถูกข่มขู่อีกครั้ง

รมช.เกษตรฯ กล่าวอีกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้สั่งการให้ให้ทีมงานกระทรวงเกษตรฯ รับเรื่องโดยละเอียดจากชาวบ้านอีกครั้ง และติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้รถแบคโฮขับไถบ้านของชาวบ้าน เพื่อเอาผิดกับพวกที่ทำให้บ้านชาวบ้านเสียหาย พร้อมกับเร่งรัดในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เข้าไปข่มขู่ชาวบ้านด้วย

“ผมไม่เชื่อว่ายุคนี้จะมีใครกล้าข่มขู่ชาวบ้านและกล้าทำร้ายชาวบ้านแบบป่าเถื่อนอย่างนี้ เบื้องต้นผมจะให้ทีมงานรับเรื่องไว้แล้วประสานงานฝ่ายความมั่นคงไว้ และจะเข้าไปดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดหากไม่เลิกพฤติกรรม” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากรับหนังสือร้องเรียน ร.อ.ธรรมนัส ได้มอบเงินของส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ช่วยค่ารถชาวบ้าน 20,000 บาท เพื่อเยียวยาเบื้องต้น พร้อมกับบอกชาวบ้านว่าประมาณกลางเดือน ต.ค. นี้ จะลงไปจัดสรรที่ทำกินให้ใหม่ และมอบที่ทำกินหรือ ส.ป.ก. ให้ตามความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง

'คฑาเทพ' เตรียมนำปัญหาต่างชาติกว้านซื้อโค-กระบือ เข้า กมธ.เกษตร

นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย กล่าวว่าทางคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมกันว่ามีชาวบ้านเกษตรกรได้ยื่นหนังสื่อร้องเรียนมาว่าบรรดาโค-กระบือ ส่วนใหญ่ที่มีจำหน่ายกันอยู่ตามตลาดนัดต่างๆ นี้ส่วนใหญ่จะมีคนมากว้านซื้อและนำลักลอบออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากที่จริงแล้วนโยบายของรัฐบาลมีว่าจะมีการส่งเสริมการเลี้ยงโคกระบือไม่ว่าจะเป็นโคขุน โคอะไรต่างๆ นี่ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจและจะมีการอัดเม็ดเงินลงไปในกระทรวงนี้เป็นจำนวนมากเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จาการทำนาปีละครั้งให้มีการซื้อขายกันได้ตลอดเวลาเศษณฐกิจก็จะดีขึ้นเงินก็เกิดการหมดเวียนขึ้น ซึ่งเกษตรกรจำนวนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีการลักลอบนำโค-กระบือออกไปนอกประเทศในช่องทางที่ผิดไม่ผ่านด่านตรวจทำให้เกิดปัญหากินทางกรรมมาธิการได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันให้มีการใช้บังคับข้อกฎหมายอาทิตย์หน้าจะนำเรี่องนี้เข้าที่ประชุมกรรมมาธิการจะได้นำปัญหาต่างๆ ให้ทางท่านประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้แก้ไขเป็นการแก้ปัญหาทางออกตรงนี้ให้หมดไปใน การลักลอบขนย้ายโคกระบือหรือลักลอบโค-กระบือออกนอกประเทศให้หมดไปต้องบังคับใช้กฎหมายบังคับ เพราะหาเป็นเช่นนี้เช่นมีคนต่างประเทศเข้ามากว้านซื้อโค-กระบือ ไทยออกไปเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะโค-กระบือตัวเมียจะทำให้โค-กระบือของประเทศไทยเราน้อยลงและในอนาคตอาจไม่มีหลงเหลืออยู่ให้ลูก เพราะจากที่เห็นโค-กระบือลำเลียงออกนอกมากเช่นนี้เป็นที่หน้าตกใจมาก

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย | ข่าวสด | ไทยรัฐออนไลน์ | ไทยโพสต์ | มติชนออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท