'ธนาธร' แจงปมภาพคู่ 'โจชัว หว่อง' ยันไม่เคยเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองในฮ่องกง ภารกิจหลักคือสร้าง ปชต.-ความก้าวหน้าสังคมไทย

'ธนาธร' แจงปมภาพคู่ 'โจชัว หว่อง' ระบุพบในงานนิตยสาร The Economist คุยกัน 5 นาที และถ่ายรูปกันเท่านั้น ตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ ในฮ่องกง ภารกิจคือการสร้างประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของสังคมไทย หนุนการเคารพธรรมนูญการปกครองฮ่องกง รวมทั้งสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยสันติเสมอ ด้าน ผบ.ทบ. ขึ้นภาพพร้อมถามใครไปเยี่ยมให้กำลังใจและให้การสนับสนุน

11 ต.ค.2562 จากกรณีที่โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย แถลงตอนหนึ่งวานนี้ (10 ต.ค.62) โดยระบุ "นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่ง เป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย" นั้น

ล่าสุดวันนี้ (11 ต.ค.62) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค 'Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ชี้แจงภาพตนกับโจชัว หว่อง  แกนนำผู้ประท้วงชาวฮ่องกง โดยระบุว่า เนื่องจากมีความพยายามจะเชื่อมโยงว่า ตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับความไม่สงบและกลุ่มผู้ประท้วงจากภาพคู่ดังกล่าวนั้น

โดยรายละเอียดคำชี้แจงของธนาธรมีดังนี้ 

1. เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากนิตยสาร The Economist ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก ให้ไปพูดที่งาน Open Future Festival ที่ฮ่องกง ในหัวข้อเรื่อง “Inside the Minds of Asia’s Next Gen Politicians” ซึ่งในวงเสวนาของผมมีผู้ร่วมรายการสองคนได้แก่ Tim Wilson สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหัวก้าวหน้าจากออสเตรเลีย และ Nurul Izzah Anwar สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากมาเลเชีย ลูกสาวของคุณอันวาร์ อิบราฮิม Nurul มาไม่ได้เนื่องจากติดภารกิจ บนเวทีเสวนาจึงเหลือเพียงผมกับ Tim

2. หลังจากที่งานเลิกแล้ว ผมและโจชัว หว่อง พบกันในบริเวณงานและได้คุยกันประมาณ 5 นาที เราถ่ายรูปด้วยกันและแยกย้ายกันหลังจากนั้น

3. นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมพบปะกับโจชัว หว่อง ผมไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ ในฮ่องกง และไม่มีเจตนาที่จะทำในอนาคต ภารกิจของผมและพรรคอนาคตใหม่คือการสร้างประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของสังคมไทย

4. การสนทนาและถ่ายรูปกันในหมู่ผู้พูดในงานสัมมนาต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ผมเองก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับหลายคนในงาน รวมทั้งกับ Shaun L. Rein และมีโอกาสสนทนากับเขาในหลายๆ เรื่อง มากกว่าที่ผมสนทนากับโจชัวเสียอีก Shaun มาจาก China Market Research Group ผู้เขียนหนังสือ The War for China’s Wallet เขาวิพากษ์วิจารณ์การประท้วงในฮ่องกง และขึ้นเวทีถกเถียงกับโจชัว หว่อง

5. ในเวทีสัมมนานานาชาติเช่นนี้ การพบปะพูดคุยกับคนที่มีความคิดหลากหลายเป็นธรรมดา และเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้ความเห็นที่หลากหลาย เช่นกรณีของ Shaun ซึ่งยืนยันแนวทางการเมืองของปักกิ่ง แต่ก็เสนอว่าการแก้ปัญหาฮ่องกงต้องลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้ให้ทั่วถึงคนส่วนใหญ่ด้วย Shaun ยังชวนผมไปพบเขาหากผมมีโอกาสไปปักกิ่งอีก (ผมแนบรูปคู่ระหว่างผม กับ Shaun มาที่นี้ด้วย)

6. ผมได้พูดถึง “ฮ่องกง” ในระหว่างที่ผมบรรยายอยู่บนเวทีจริง ผมกล่าวว่าเมื่อปลายปี 2560 ตอนที่ผมและเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของระบอบ คสช. เราครุ่นคิดกันว่าจะสร้างขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (Social Movement) หรือพรรคการเมือง (ซึ่งเรื่องนี้ผมได้เล่าผ่านหลายสื่อในหลายวาระและโอกาสแล้ว) โจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ และฮ่องกงชวนให้เราคิดถึงโมเดลขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม แต่สุดท้ายเราตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองและต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบรัฐสภาแทน เนื่องจากความสูญเสียจากการสลายการชุมนุมปี 2553 ยังคงบาดลึกอยู่ในสังคมไทย

7. ถ้าจะถามผมต่อเรื่องฮ่องกง ผมสนับสนุนการเคารพธรรมนูญการปกครองฮ่องกงหรือ Basic Law ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อฮ่องกงถูกส่งคืนสู่เขตอำนาจอธิปไตยของจีน โดยยึดหลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างสมดุล และเคารพสิทธิการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงอย่างเป็นประชาธิปไตยตามที่ระบุไว้ใน Basic Law มาตรา 45

8. ผมสนับสนุนการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยสันติเสมอมา ผมปรารถนาที่จะเห็นสถานการณ์ที่ฮ่องกงคลี่คลายไปได้ด้วยดี ผมไม่ปรารถนาเห็นการใช้ความรุนแรงต่อทั้งพลเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ทางออกที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อถือและไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับพลเมืองขึ้นมา ไม่ดำเนินการหรือใช้มาตรการใดๆ ที่ไม่สมควรแก่เหตุ

9. รูปถ่ายระหว่างผมกับโจชัว หว่อง เพียงภาพเดียวถูกนำมาขยายความต่อเกินความจริง โดยปราศจากหลักฐานยืนยันใดๆ สื่อ, กลุ่มคนบางกลุ่ม, รวมถึงผู้นำกองทัพ พยายามเชื่อมโยงผมกับความไม่สงบในฮ่องกงเพื่อสร้างความเกลียดชังในสังคมไทย ผมขอให้ทุกท่านรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน และขอยืนยันอีกครั้งว่าเราสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศสู่ประชาธิปไตย, สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมในสังคม และส่งต่อสังคมที่ดีกว่านี้ให้แก่คนรุ่นต่อไป

ผบ.ทบ. ขึ้นภาพพร้อมถามใครไปเยี่ยมให้กำลังใจและให้การสนับสนุน

ข่าวสดออนไลน์ รายงานด้วยว่า วันนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวในเวทีบรรยายหัวข้อ "แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง" ได้บรรยายถึงสถานการณ์ในโลกปัจจุบัน พร้อมกับได้ขึ้นภาพและข้อความ ‘โจชัวหว่อง’ พร้อมกล่าวว่า วันนี้ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน ถามว่าวันนี้ใครอยากไปฮ่องกง เขาเกิดเหตุการณ์อะไร แต่มีบางคนไปพบ และการที่โจซัวหว่องมาไทย เคยมาพบกับใคร มาพบกับคนประเภทไหน มาไทยเพื่อมาวางแผนอะไรหรือเปล่า หรือมาสมคบคิดอะไร พร้อมการไปเยี่ยมในลักษณะแบบให้กำลังใจและให้การสนับสนุนด้วย ไปหาดูได้ในสื่อต่างๆ ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นเกาะ เคยเป็นอยู่ภายใต้อังกฤษ ที่ตนพูดถึงภูมิศาสตร์ เพราะแตกต่างจากไทยที่เป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน ซึ่งคนที่ออกมานั้นวัยรุ่นทั้งนั้น ตนจึงขอถามนักศึกษาว่า คนที่ปลุกปั่น คนที่ใช้กำลังโซเชียล การโฆษณาชวนเชื่อมาดึงเรต มาปั่นสมอง แล้วให้ออกมาแบบฮ่องกง จำภาพเหตุการณ์บ้านเมือง ปี 2552-53 ได้หรือไม่ นักเรียนและนักศึกษาที่ตนไปพบต่างไม่ทราบ และลืมเหตุการณ์เหล่านี้ไปแล้ว

ที่มาภาพ มติชนทีวี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท