ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์: Recentralizing Lanna ล้านนากับการรวมศูนย์อำนาจซ้ำ

ปาฐกถาเปิดการประชุม "ออกจากศูนย์กลางล้านนา ครั้งที่ 2" ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ นำเสนอหัวข้อ "ล้านนากับการรวมศูนย์อำนาจซ้ำ" โดยชี้ให้เห็นทวิลักษณ์แห่งการรวมศูนย์อำนาจ Bangkok Centric และ Chiang Mai Centric ยึดช่วง 2500-2520 วิเคราะห์ประเด็นสงครามเย็นในภาคเหนือ เมื่อรัฐบาลอ้างภัยคอมมิวนิสต์ นำมาสู่นโยบายและปฏิบัติการจากศูนย์กลางอย่างเข้มข้นภายใต้รัฐบาลเผด็จการ พร้อมเสนอโฉมหน้าของอดีตภาคเหนือในยุค "อาณานิคมแบบสงครามเย็น" ภายใต้การปกครองที่เข้มงวดและการควบคุมทรัพยากรของกรุงเทพฯ โดยมีกลไกสำคัญคือ กองทัพ, กระทรวงมหาดไทย และอุดมการณ์ราชาชาตินิยม

และสถานการณ์คล้ายสงครามเย็นหวนกลับมาอีกครั้ง หลังรัฐประหาร 2557 แม้จะไม่มีค่ายการเมืองระดับชาติที่ตรึงกำลังทำสงครามตัวแทน แต่มีความตึงเครียดจากการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างสูงในประเทศ โดยถือเป็นช่วง "สงครามเย็นเสมือน" และนำมาซึ่งการ "รวมศูนย์อำนาจซ้ำ" หรือ Recentralizing รอบสอง

พิธีเปิดการประชุมวิชาการ "Decentralizing Lanna: ออกจากศูนย์กลางล้านนา" ครั้งที่ 2

การนำเสนอหัวข้อ "Recentralizing Lanna ล้านนากับการรวมศูนย์อำนาจซ้ำ"
โดย ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์

000

ปาฐกถาหัวข้อ “Recentralizing Lanna ล้านนากับการรวมศูนย์อำนาจซ้ำ” โดย ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ รองศาสตราจารย์ ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง โดยแบ่งการนำเสนอเป็น หัวข้อที่ 1 "ล้านนา" กับ ทวิลักษณ์แห่งการรวมศูนย์อำนาจและความเหลื่อมล้ำ โดยชี้ให้เห็นภาวะ 1) Bangkok Centric มีการรวมศูนย์อำนาจที่กรุงเทพฯ และรัฐบาลส่วนกลาง เห็นได้จากโครงสร้างของกองทัพ ภาษี นโยบายเศรษฐกิจ อำนาจจัดการความรู้ อำนาจจัดการระบบขนส่งมวลชน โรงพยาบาล ฯลฯ 2) Chiang Mai Centric ความเป็นศูนย์กลางของเชียงใหม่ เกิดมาจากการวางให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางภูมิภาคจากนโยบายส่วนกลาง นั่นหมายถึง การเติบโตภายใต้การชี้นำและผลักดันจากศูนย์กลาง ไม่ได้หมายถึงการให้เชียงใหม่โตด้วยฐานการเมืองระดับท้องถิ่น ในฐานะการกระจายอำนาจ

โดยผู้นำเสนอ ถือเอาช่วงทศวรรษ 2500-2520 เป็นช่วงที่ใช้วิเคราะห์ประเด็นสงครามเย็นในภาคเหนือ ในฐานะที่รัฐบาลอ้างภัยคอมมิวนิสต์ว่าจะส่งผลต่อความมั่นคง นำมาสู่นโยบายและปฏิบัติการจากศูนย์กลางอย่างเข้มข้นภายใต้รัฐบาลเผด็จการ

ทั้งยังเป็นการทดลองเสนอคำอธิบายลักษณะของภาคเหนือในยุคดังกล่าวว่าอยู่ในความสัมพันธ์แบบ "อาณานิคมแบบสงครามเย็น" ภายใต้การปกครองที่เข้มงวดและการควบคุมทรัพยากรของกรุงเทพฯ โดยมีกลไกสำคัญคือ กองทัพ, กระทรวงมหาดไทย และอุดมการณ์ราชาชาตินิยม

บนหลักคิดว่าด้วยความมั่นคงของประเทศ การรักษาความสงบด้วยทหาร การสอดส่องควบคุมพลเรือนด้วยมหาดไทย และการสร้างเอกภาพของชาติด้วยสถาบันหลัก

สถานการณ์คล้ายสงครามเย็นหวนกลับมาอีกครั้ง หลังรัฐประหาร 2557 แม้จะไม่มีค่ายการเมืองระดับชาติที่ตรึงกำลังทำสงครามตัวแทน แต่มีความตึงเครียดจากการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างสูงในประเทศจึงขอเรียกว่าเป็นช่วง "สงครามเย็นเสมือน" นำมาซึ่งการ "รวมศูนย์อำนาจซ้ำ" โดยปฏิบัติการผ่านกลไกเดิมคือ กองทัพ, กระทรวงมหาดไทย และอุดมการณ์ราชาชาตินิยม บนหลักคิดคล้ายคลึงกับที่เคยใช้มาในช่วงก่อน สิ่งเหล่านี้จึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 5 ปีหลังรัฐประหารมานี้

หัวข้อที่ 2 ปฏิบัติการ-การรวมศูนย์อำนาจซ้ำ กับ ค่าเริ่มต้น นับตั้งแต่ทศวรรษ 2500 โดยแบ่งหัวข้อย่อยเป็น (2.1) อาณานิคมแบบสงครามเย็น ทศวรรษ 2500-2520 (2.2) ภาคเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 : แหล่งท่องเที่ยวกับสตรีที่เป็นเป้าหมายจะถูกพิชิต (2.3) ภาคเหนือหลังสงครามเย็นและกำเนิด "ล้านนา" (2.4) รัฐธรรมนูญ 2540 การกระจายอำนาจและการฟื้นฟูล้านนาหลังวิกฤตเศรษฐกิจ (2.5) รัฐประหาร 2557 กับการหวนคืนของ "อาณานิคมแบบสงครามเย็น"

โดยการปาฐกถานี้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการ Decentralizing Lanna: ออกจากศูนย์กลางล้านนา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ณ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จัดโดย พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, หน่วยวิจัยศิลปวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท