ชุมนุมเข้าวันที่ 10 'สมัชชาคนจน' หวังเจรจาอย่างเสมอหน้ากับรัฐบาล

'สมัชชาคนจน' หวังเจรจาอย่างเสมอหน้ากับรัฐบาล หลังมีนัดเจรจากับ 3 กระทรวงบ่ายวันนี้ ขณะที่ช่วงสายเดินรณรงค์ไปยูเอ็นเพื่อแสดงความสมานฉันท์เนื่องในวันผู้หญิงชนบทสากลของสหประชาชาติ เย็นวันนี้เตรียมคุยผู้แทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน

15 ต.ค.2562 เข้าสู่วันที่ 10 ของสมัชชาคนจน ที่ชุมนุมข้างกระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา และเป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังการรัฐประหารปี 2557 เพื่อเรียกร้องการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล โดยเรียกร้องให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นประธานการแก้ไขปัญหา นั้น

ล่าสุดวันนี้ (15 ต.ค.62) ช่วงสายที่ผ่านมา สมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 เรียกร้องว่า วันนี้...“เราต้องได้เจรจาอย่างเสมอหน้ากับรัฐบาล”

แถลงการณ์ ระบุว่า หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง เทวัญ ลิปตพัลลพ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการเจรจาแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน พวกเรายังไม่เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เห็นได้จาก การที่ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการได้นัดหมายกับสมัชชาคนจน ว่าจะแจ้งกำหนดการในการเจรจาระหว่างพวกเรากับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 12.30 น.

"พวกเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการเคลื่อนไหวกดดัน เพื่อให้เกิดการเจรจา กับรัฐบาล จนกระทั่งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาชี้แจงเหตุผลถึงความล่าช้าในการเจรจา และได้ยืนยันต่อที่ชุมนุมของสมัชชาคนจนว่า ในวันนี้ (15 ต.ค.62) เวลา 13.00 น. ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้รัฐมนตรี 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน มาร่วมเจรจากับพวกเรา ณ อาคารคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เดิม)

พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำยืนยันจาก สุภรณ์ อัตถาวงศ์ จะเป็นการยืนยันถึงความจริงใจของรัฐบาลที่มีต่อพวกเรา ในการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พวกเราขอขอบคุณ สุภรณ์ที่ให้ความร่วมมือในการประสานงานให้เกิด การเจรจาดังกล่าว แต่หากว่า ในวันนี้ยังไม่เกิดการเจรจา หรือรัฐบาลมีเจตนายื้อเวลาให้นานออกไป พวกเราคงต้องมีปฏิบัติการพิเศษ อันเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อกดดันให้รัฐบาลเปิดการเจรจาแก้ไขปัญหาจนกว่าจะได้ข้อยุติ" แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 9.15 น. ที่ผ่านมา สมัชชาคนจนการเดินรณรงค์จากที่ชุมนุมสมัชชาคนจนไปบริเวณหน้าอาคารสหประชาชาติเพื่อแสดงความสมานฉันท์จากผู้หญิงสมัชชาคนจนถึงพี่น้องผู้หญิงชาวนาทั่วโลก เนื่องในวันผู้หญิงชนบทสากลของสหประชาชาติ (The United Nation International Day of Rural Women)

จากนั้น เวลา 12.00 น. ตามประกาศที่สมัชชาคนจนระบุไว้ว่า จะรวมตัวด้านหน้าเวที ณ ที่ชุมนุมสมัชชาคนจน ข้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเคลื่อนขบวนส่งผู้แทนสมัชชาคนจนเข้าร่วมการเจรจากับผู้แทน 3 กระทรวง ดังกล่าว

ตามกำหนดการ เวลา 18.30 น. ผู้แทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เยี่ยมให้กำลังสมัชชาคนจน ณ ที่ชุมนุมสมัชชาคนจน ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ตามด้วยการจัดกิจกรรม เวทีวัฒนธรรม

สำหรับประเด็นปัญหาข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจนนั้น ไทยพีบีเอส ได้สรุป 5 กลุ่มปัญหา 37 กรณี ของสมัชชาคนจนที่ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ 

5 กลุ่มปัญหา 37 กรณี

สำหรับการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ "สมัชชาคนจน" ยังคงเรียกร้องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากนโยบายรัฐ จำนวน 5 กลุ่มปัญหา 37 กรณี

1.กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ราชพัสดุ พื้นที่ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ ที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ และกรณีผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า

1.1 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ราชพัสดุ
– ดอนหลักดำ ตำบลบ้านโนน อำเภอซาสูง จังหวัดขอนแก่น
– ตำบลหนองยายโต๊ะ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
– ดงคัดเค้า ตำบลอุ้มเหม้า อำเภอธาตุพนม และตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม
1.2 กรณีปัญหาปัญหาที่ราชพัสดุหนองน้ำขุ่น อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
1.3 กรณีปัญหาผู้เดือดร้อนจากการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อำเภอปากน้ำโพ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
1.4 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกหนองกุง อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
1.5 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกภูกระแต บ้านไผ่ล้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
1.6 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์กุดทิง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
1.7 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์บะหนองหล่ม ตำบลท่าสะอาด อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ
1.8 กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกหนองเหล็ก ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์
1.9 กรณีผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
– กรณีปัญหาป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ (บ้านเก้าบาตร) ตำบลลานางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
1.10 กรณีปัญหาการเตรียมประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ากุดทิง ในที่สาธารณประโยชน์กุดทิง ตำบลโนนสมบูรณ์ ตำบลบึงกาฬ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

2.แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีปัญหาโครงการก่อสร้างเขื่อน ฝาย และอ่างเก็บน้ำ

2.1 แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีปัญหาเขื่อนที่สร้างแล้ว หรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย
1) กรณีปัญหาโครงการก่อสร้างเขื่อนโป่งขุนเพชร
2) กรณีปัญหาเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี
3) กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี
4) กรณีปัญหาเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ จ.ร้อยเอ็ด และจ.สุรินทร์
5) กรณีปัญหาเขื่อนหัวนา จ. ศรีสะเกษ
2.2 แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีปัญหาเขื่อนที่ยังไม่สร้าง ประกอบด้วย
1) กรณีปัญหาโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ จังหวัดชุมพร
2) กรณีปัญหาเขื่อนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่

3.แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีปัญหาได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ

3.1 โครงการอุตสาหกรรมบางสะพาน จ.ประจวบคิรีขันธ์
3.2 กรณีปัญหาการเวนคืนที่ดินเพื่อโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน – ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดนบริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) – ถนนเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

4.แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร

4.1 กรณีปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำของเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคิรีขันธ์

5.แนวทางการเจรจาแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน

5.1 ปัญหานายจ้างใช้สิทธิปิดงานเฉพาะสมาชิกสหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทย
5.2 กรณีปัญหาการเลิกจ้างแกนนำในการก่อตั้งสหภาพแรงงาน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำนวน 9 คน ตามคำพิพากษาศาลฎีกา
5.3 ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานของบริษัท มิกาซ่า อินดัสตรี้ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
5.4 ปัญหาการตรวจพบสารตะกั่วในเลือดพนักงาน บริษัท ไทยหัวเวย แบตเตอรี่ จำกัด สูงกว่าค่าที่กำหนด
5.5 กรณีบริษัท ไอพีบี จำกัด และบริษัท ไทยโควะพรีซีชั่น จำกัด ร่วมกันชดใช่ค่าเสียหายจากการละเมิด และจากการเลิกจ้าง นางสาววิศัลย์ศยา พุ่มเพชรสา ต้องได้รับอุบัติเหตุจากการทำงานลูกกลิ้งเฉือนนิ้วกลางข้างขวาข้อที่สองเกือบขาดต้องหยุดพักรักษานานกว่า 20 วัน และนิ้วไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
5.6 กรณีปัญหาปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน
1) กรณีบริษัทซี.ที. ปิโตรแอนด์ทรานส์ จำกัด ปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน
2) กรณีบริษัท พี ดับบลิวเค จิวเวลลี่ จำกัด ปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน จำนวน 653 คน
3) กรณีบริษัทโกบอล เซอร์กิต อีเลคทรอนิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน จำนวน 145 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท