Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกา สั่ง จตุพร-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง ชดใช้กว่า 21 ล้าน คดีเผาตึกย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมพาย้อนดูเหตุเพลิงไหม้บริเวณดังกล่าวเกิดหลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม และเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่

ภาพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน ภาพวันที่ 20 พ.ค.53

16 ต.ค.2562 วันนี้ (16 ต.ค.62)เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ 1762/2554 ที่ ประสงค์ กังวาฬวัฒนา เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน), อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, กระทรวงมหาดไทย, ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต รมว.มหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และอดีต รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์, จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-10 สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการสลายการชุมนุม นปช. ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ซึ่งต่อมาเกิดเหตุการณ์เผาอาคารในหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยสำนวนนี้เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีเผาอาคารพาณิชย์ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน และอาคารดอกหญ้า

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 8-10 (แกนนำ นปช.) ร่วมกันชำระเงินจำนวน 30,509,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พ.ค. 2553 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 638,710 บาท ให้แก่โจทก์ กับให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 50,000 บาท วันนี้มีเพียงผู้รับมอบฉันทะจากโจทก์และทนายความจำเลยที่ 8-10 เดินทางมาฟังคำพิพากษา

โดยศาลฎีกาได้พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันชำระค่าอาคารพาณิชย์ที่พิพากษาพร้อมทรัพย์สินที่โจทก์เสียหาย จำนวน 21,356,650 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พ.ค. 2553 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับค่าขาดผลประโยชน์ 1,200,000 บาท เดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 พ.ค. 2554) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระค่าอาคารพาณิชย์ที่พิพากษาพร้อมทรัพย์สินที่โจทก์เสียหายเสร็จแก่โจทก์ แต่ทั้งนี้ ให้เสียค่าเสียหายได้ไม่เกิน 24 เดือน ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนทรัพย์สินโจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความรวม 100,000 บาท

(ที่มา : โปลิศนิวส์)

สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. โดย ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตั้งแต่ เม.ย.-พ.ค.53 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งผู้ชุมนุม นักข่าว อาสาสมัครมนุษยธรรม ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งวันที่ 19 พ.ค.53 เวลา 13.20 น. แกนนำ นปช. ลงมติตัดสินใจประกาศยุติการชุมนุม พร้อมทั้งยอมเข้ามอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยเดินไปทางที่แกนนำแจ้งโดยเฉพาะบริเวณวัดปทุมวนาราม ขณะที่สถานการณ์การชุมนุมรอบนอก ก็มีการประกาศยุติการชุมนุมตามที่แกนนำ นปช.ประกาศ โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ มีการประกาศยุติการชุมนุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ ไทยรัฐ รายงานช่วง 15:36 น. วันที่ 19 พ.ค.53 ว่า พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมาพูดคุยกับประชาชนที่ยังอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังมีประชาชนบางส่วนเกิดความไม่พอใจและผิดหวังที่มีการประกาศยุติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ โดยพยายามทำลายสิ่งของและเผาทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่รอบบริเวณนั้น

พล.ต.ต.วิชัย ในวันดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้ประชาชนทุกคนยุติการชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  โดยยืนยันว่าตำรวจจะไม่ทำร้ายประชาชนเด็ดขาดเพียงแค่ขอให้ยอมยุติการชุมนุมและสลายตัวรวมทั้งไม่ทำลายวัตถุสิ่งของอาคารสถานที่

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net