สมาคมแอมเนสตี้ฯ ฟ้องศาลปกครองกรณีมหาดไทย ไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้ง 'เนติวิทย์' เป็นกรรมการ

ตัวแทนสมาคมแอมเนสตี้ฯ ฟ้องศาลปกครองกลางเอาผิดนายทะเบียนสมาคม กทม. และ รมว.มหาดไทย ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบ/ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปมไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้ง เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นกรรมการสมาคมฯ 

ที่มาภาพ Netiwit Chotiphatphaisal

16 ต.ค.2562 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานว่า วันนี้ (16 ต.ค.62) ตัวแทนสมาคมแอมเนสตี้ฯ เดินทางไปศาลปกครองกลางเพื่อดำเนินการฟ้องคดีกรณีนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร (อธิบดีกรมการปกครอง) ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในกรณีมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้ง เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นกรรมการสมาคมฯ และฟ้องร้องดำเนินคดีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยวินิจฉัยอุทธรณ์ของสมาคมฯ ล่าช้าเกินกำหนดระยะเวลา ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 82 วรรคท้ายกำหนด

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า เนติวิทย์ เป็นสมาชิกสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555 เมื่อมีการเปิดรับสมัครกรรมการสมาคมฯ แทนตำแหน่งที่ว่างลงเมื่อปี 2561 เนติวิทย์ได้สมัครเข้าเป็นกรรมการสมาคม ประเภทเยาวชน จากการตรวจสอบพบว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นกรรมการสมาคมตามข้อบังคับของสมาคมแต่อย่างใด และได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 ให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561

หลังจากนั้นทางสมาคมฯ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนกรรมการต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร แต่ได้รับแจ้งว่าไม่อาจรับจดทะเบียนและออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดได้ เนื่องจาก เนติวิทย์ มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมหรือขัดต่อคุณสมบัติการเป็นกรรมการ เมื่อมีการอุทธรณ์ไปนายทะเบียนสมาคมจึงรับจดทะเบียนกรรมการ 3 คนยกเว้นเนติวิทย์

ทางสมาคมฯ จึงได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้รับคำชี้แจงเหตุผลเพิ่มเติมว่า เนติวิทย์ ถูกดำเนินคดีอาญา ในข้อหา “ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ข้อ 12” จำนวน 4 คดี ดังนั้นจึงพิจารณาเห็นว่า พฤติการณ์ของ เนติวิทย์ อาจขัดกับการบริหารกิจการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นแนวทางที่เป็นตัวอย่างให้กับบุคคลและเยาวชนทั่วไป เป็นพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม หรือขัดต่อคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ

“จากการพิจารณาของคณะกรรมการสมาคมฯ เห็นว่า นายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร (อธิบดีกรมการปกครอง) ใช้ดุลพินิจและอำนาจหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 29 วรรคสองที่ระบุว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” สำหรับข้อหาคดีอาญาจำนวน 4 คดีเรื่องฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 นั้น ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องแล้ว จำนวน 2 คดี และคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ทำให้คดีอาญาที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาต่อเนติวิทย์ไม่อาจดำเนินคดีได้อีกต่อไป และศาลไม่อาจพิพากษาและลงโทษให้เนติวิทย์ฯ มีความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวได้อีกอีก ดังนั้นการที่นายทะเบียนสมาคมฯ หยิบยกเหตุผลว่า นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ถูกดำเนินคดีอาญาดังกล่าวเป็นเหตุให้ไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคมฯ จึงเป็นการใช้ดุลพินิจและออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้วย”

"วันนี้มาดำเนินการฟ้องร้องพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา และอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ใหญ่รังแกฉัน ไม่ยอมให้ผมเป็นกรรมการแอมเนสตี้เพราะกล่าวหาว่าผมเป็นภัยความมั่นคง เรียบร้อยแล้ว ไม่ยอมปล่อยให้รังแกกันอย่างเดียวหรอก" เนติวิทย์ โพสต์ ผ่านเฟสบุ๊ค Netiwit Chotiphatphaisal

ข้อมูลพื้นฐาน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เริ่มดำเนินงานในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี พ.ศ. 2536 และจดทะเบียนเป็น “สมาคมนิรโทษกรรมสากล” เมื่อปีพ.ศ. 2545 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย” ในปีพ.ศ.2555 โดยดำเนินกิจกรรมด้านการส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจและรณรงค์เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางโดยประสานความร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ ปัจจุบันแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยมีสมาชิกกว่า 1,000 คน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อ พ.ศ. 2520

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท