'ธนาธร' ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน "คดีหุ้นวีลัค" ยันตอนนี้ยังไม่มีข้อกฎหมาย-หลักฐานใดมาเอาผิดได้ ชี้บริษัทวีลัครับจ้างทำหนังสือนิตยสารบนสายการบิน แต่หยุดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกา จึงไม่เป็นสื่อแล้ว พร้อมโพสต์ขอโทษทักษิณหลังพาดพิงในศาล
18 ต.ค.2562 วันนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับการไต่สวนคดีหุ้นวีลัค มีเดีย จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องหุ้นวีลัค ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของธนาธร สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเข้ารับการไต่สวนในวันนี้ ธนาธรยังได้เปิดเผยชุดเอกสารคดีคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาสู่สาธารณะเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์อีกด้วย
รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า บรรยากาศบริเวณโถงหน้าศาลรัฐธรรมนูญ มีประชาชนผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจนายธนาธร และมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีแกนนำพรรคคนสำคัญที่เดินทางมาร่วมให้กำลังใจคือ นายชัยธวัช ตุลาธน รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนี้ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมทั้งคนขับรถของธนาธร ร่วมเป็นพยานการไต่สวนในวันนี้ด้วย
ธนาธร กล่าวว่า วันนี้ตนมั่นใจอย่างเต็มที่ เพราะพวกเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของตน หากดูกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ไม่มีเอกสารใดสักชิ้น ที่จะมาหักล้างข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นผมจึงคิดว่าต้องดูอีกฝ่ายมากกว่า ว่าจะเอาหลักฐานอะไรมาหักล้างข้อเท็จจริงที่เรานำเสนอไป เอกสารต่างๆ พยาน ที่อยู่ การเดินทาง ตนได้ส่งหลักฐานไปให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดแล้ว จนถึงวันนี้ตนอยากเรียนพี่น้องสื่อมวลชน และประชาชน ว่ายังไม่มีหลักฐานใดๆ มาโต้แย้งสิ่งที่พวกเรายื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างมีน้ำหนักเพียงพอเลย
ต่อประเด็นคำถามที่ว่า วีลัคเป็นสื่อหรือไม่นั้น ธนาธร กล่าวว่า ตนได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่า บริษัทวีลัครับจ้างทำหนังสือนิตยสารบนสายการบิน แต่หยุดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีการจัดการ ไม่มีพนักงาน ดังนั้นบริษัทหยุดดำเนินการไปแล้วจึงไม่เป็นสื่อแล้ว หากตีความแบบนี้ทุกอย่างก็น่าจะจบ
"ผมอยากเตือนความจำให้ทุกท่านฟัง จำกรณีคุณภูเบศวร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต2 สกลนคร ที่ถูกตัดสิทธิ์การเป็น ส.ส. เพราะมีผู้ที่ไปยื่นให้ศาลฎีกา ว่าคุณภูเบศวร์ ถือหุ้นสื่ออยู่ในบริคณห์สนธิ ในบริคณห์สนธิที่คุณภูเบศวร์ถือหุ้นอยู่นั้น มีข้อหนึ่งระบุไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการทำหนังสือพิมพ์ แต่ข้อเท็จจริงคือบริษัทนั้นทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง แต่ศาลฎีกา บอกว่าไม่เป็นไร ดูแค่ตัวบริคณห์สนธิว่ามีวัตถุประสงค์ ก็ถือว่าทำสื่อแล้ว พอเราเอามาตรฐานนี้ไปยื่นต่อ ส.ส. ฝั่งรัฐบาล 30-40 คน ศาลรัฐธรรมนูญ กลับบอกว่าจะดูแต่ตัวอักษรในเอกสารไม่ได้ ต้องดูว่าบริษัทนั้นกระทำกิจการจริงหรือไม่ นี่คือศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกต่อ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล" ธนาธร กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ที่ถามธนาธรว่าเชื่อหรือไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นธรรมต่อคดีของตน ธนาธรกล่าวว่าตนไม่ทราบเช่นกัน แต่ขอให้ทุกคนรอติดตามต่อไป และคิดว่าทุกคนจะทราบเองในไม่ช้า
โดยวันนี้ ธนาธรและพยานในคดีรวมทั้งสิ้น 10 ปาก จะให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญที่นัดไต่สวน และคาดว่าจะใช้เวลาทั้งวันกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด หลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยต่อไป ซึ่งคาดว่าศาลจะอ่านคำวินิจฉัยไม่เกินสิ้นปีนี้
สำหรับเอกสารเกี่ยวกับคดีวีลัคของ ธนาธร นั้น ก่อนหน้านี้พรรคอนาคตใหม่ได้เผยแพร่ให้ดาวน์โหลดเพื่ออ่านไว้ตามนี้
อย่างไรก็ตามระหว่างการไต่สวนคดีตอนหนึ่ง ธนาธร มีการพาดพิงถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ต่อมา ธนาธร ทวิตผ่านทวิตเตอร์ @Thanathorn_FWP ว่า "เมื่อกลับมาฟังสิ่งที่ผมพาดพิงถึงคุณทักษิณในระหว่างการไต่สวนวันนี้ ผมยอมรับว่าตนเองกระทำไม่เหมาะสมที่กล่าวถึงบุคคลที่สามเช่นนั้น จึงขออภัยมาที่นี้ ที่ผ่านมามีความพยายามกำจัดนักธุรกิจที่จะมาทำงานการเมือง เช่นคุณทักษิณ ผมจึงพยายามจะทำให้ดีกว่าที่กฏหมายกำหนดเพื่อแสดงเจตนาตนเองให้ชัด"
เมื่อกลับมาฟังสิ่งที่ผมพาดพิงถึงคุณทักษิณในระหว่างการไต่สวนวันนี้ ผมยอมรับว่าตนเองกระทำไม่เหมาะสมที่กล่าวถึงบุคคลที่สามเช่นนั้น จึงขออภัยมาที่นี้ ที่ผ่านมามีความพยายามกำจัดนักธุรกิจที่จะมาทำงานการเมือง เช่นคุณทักษิณ ผมจึงพยายามจะทำให้ดีกว่าที่กฏหมายกำหนดเพื่อแสดงเจตนาตนเองให้ชัด
— Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) October 18, 2019
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)