ชิลีขยายเคอร์ฟิว หลังเหตุจลาจลบานปลายมีผู้เสียชีวิตนับสิบ

เหตุประท้วงรอบล่าสุดของชาวชิลีแสดงความไม่พอใจค่าครองชีพและอัตราอาชญากรรมพุ่งสูง และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีชิลีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อโต้ตอบการประท้วงนี้และถือเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศเคอร์ฟิวนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดยุคเผด็จการปิโนเชต์ อย่างไรก็ตามเหตุดังกล่าวบานปลายเป็นการจลาจลและมีผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 11 ราย

เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลควบคุมสถานการณ์ในซานดิเอโก ประเทศชิลี ภาพถ่ายเมื่อ 19 ต.ค. ที่มา: Jorge Morales Piderit/Wikipedia

ในประเทศชิลีมีการขยายการประกาศเคอร์ฟิวจากรัฐบาล หลังจากที่มีเหตรุนแรงจากการปล้นสะดม และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุเผาโรงงานสิ่งทอเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) โดยมีการประท้วงและการก่อจลาจลในชิลีจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 รายจากข้อมูลการแถลงของ คาร์ลา รูบิลาร์ ผู้ว่าการกรุงซานติอาโก โดยการเสียชีวิต 5 รายล่าสุดมาจากเหตุการณ์ที่มีคนจุดไฟเผาโรงงานสิ่งทอใกล้กับกรุงซานติอาโก การประท้วงในคร้ังนี้มีขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเริ่มมาจากความไม่พอใจเรื่องการขึ้นค่าโดยสารการขนส่งมวลชน และต่อมาก็ขยายกลายเป็นการแสดงความไม่พอใจการขึ้นค่าครองชีพและเรื่องความเหลื่อมล้ำ

การประท้วงในชิลีส่งผลกระทบทำให้เกิดความชะงักงันอย่างใหญ่หลวง ในวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมามีธนาคาร โรงเรียนและห้างร้านจำนวนมาก ยังคงปิดตัวเพราะสถานการณ์ยังไม่สงบ มีการเริ่มประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาในซานติอาโกและกำลังมีแผนการขยายไปถึงในเมืองอื่นๆ ทั้งทางตอนเหนือและทางตอนใต้ของประเทศ

เหตุการณ์นี้มีต้นตอมาจากการที่กลุ่มนักเรียนมัธยมฯ ประท้วงการขึ้นค่ารถไฟฟ้าในซานติอาโกด้วยการร่วมกันขัดขืนไม่ยอมจ่ายค่าโดยสาร จนต่อมาทำให้เกิดการประท้วงเข้ายึดกุมพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าอย่างฉับพลันรวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กระทั่งต่อมาในวันที่ 18 ต.ค. สถานการณ์ก็ยกระดับขึ้นกลายเป็นการประท้วงต่อต้านไปตามพื้นที่ต่างๆ ของซานติอาโก มีการยึดสถานีรถไฟฟ้าและทำลายทรัพย์สินจนทำให้สถานีรถไฟฟ้าใช้งานไม่ได้ทั้งหมด ในช่วงราวเที่ยงคืนของวันนั้น ประธานาธิบดี เซบาสเตียน ปิเญรา ก็ประกาศสถานการณ์ฉุกเฺฉิน และแต่งตั้งพลตรี จาร์เวียร์ อิตูร์เรียกา เดล แคมโป ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รวมถึงมีการวางกำลังทหารในหลายพื้นที่ และต่อมาก็มีการประกาศเคอร์ฟิว โดยในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้มีการจำกัดการเดินทางและการชุมนมุในประเทศเป็นเวลา 15 วันในเบื้องต้นและทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรของชิลีได้

ในการประท้วงที่ชิลีมีประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชุมนุมพากันเคาะหม้อเพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ประท้วง มีผู้ประท้วงบางส่วนที่สวมหน้ากากมีอาวุธเป็นไม้กระบองและก้อนหินปะทะกับตำรวจปราบจลาจล นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่มีกลุ่มก่อจลาจลจุดไฟเผารถเมล์

อย่างไรก็ตามมีการประท้วงบางส่วนที่กลายเป็นการจลาจลและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตโดยที่ตัวเลขยังไม่แน่นอนเพราะในวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีรายงานเรื่องที่มีคนเสียชีวิต 3 รายแต่ไม่ได้มีรายละเอียดว่าเสียชีวิตจากอะไร แต่ในวันเสาร์ก็มีเหตุที่ห้างค้าปลีกสัญชาติสหรัฐฯ วอลล์มาร์ทเกิดเหตุเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 21 ต.ค. โดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่ทางการชิลีว่า มีเหตุการณ์รุนแรงในระดับร้ายแรงเกิดขึ้น 70 เหตุการณ์แล้ว มี 40 เหตุการณ์ที่เป็นการปล้นสะดมซุเปอร์มาร์เก็ตและธุรกิจอื่นๆ มีคนที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนของตำรวจ 2 ราย และมีผู้ถูกจับกุมแล้วมากกว่า 1,400 ราย นอกจากซานติอาโกแล้ว ยังมีการวางเคอร์ฟิวกับเมืองอื่นๆ คือ วัลปาไรโซ, โคคิมโบ และ บิโฮบิว ด้วย

เรียบเรียงจาก

Chile protests: Cost of living protests take deadly toll, BBC, 21-10-2019

Chile's president declares state of emergency after riots over metro fare, France24, 19-10-2019

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/2019_Santiago_protests

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท