พรรคอนาคตใหม่เกิดงูเห่า? ส.ส.ชลบุรีโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ สวนมติพรรคอย่างจงใจ ไม่แก้ตัวว่าผิดพลาด

รับเงิน รับผลประโยชน์ไหม คงไม่มีหลักฐาน แต่ก็มีข่าวอีกทางว่าอนาคตใหม่อาจแตกเป็นเสี่ยง เพราะ ส.ส.ไม่พอใจแกนนำ “แรง ไม่ค่อยประนีประนอม” แถมกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ หากถูกยุบก็จะมีบางส่วนตั้งพรรคใหม่ บางส่วนไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ

ข่าวนี้น่าจะจริง เข้าใจได้ พรรคอนาคตใหม่มีปัญหาภายใน ถูกโวยตั้งแต่ตอนสมัครรับเลือกตั้ง ว่าศูนย์กลางพรรคเข้าไปกำหนดตัวผู้สมัคร ไม่ปล่อยให้ฟรีโหวตอย่างที่ตกลงกัน เรื่อยมาจนการสรรหาผู้สมัครนายก อบจ. ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ซึ่งให้ 2 ทีมแข่งขัน ทีมที่แพ้ก็โวยว่า ถูกหลอกมาเชือด ทั้งที่รู้อยู่แล้วจะเลือกใคร

ความขัดแย้งเหล่านี้เข้าใจได้ พูดให้สุด ๆ ไปข้าง พรรคอนาคตใหม่ชนะเลือกตั้งเพราะใคร เพราะตัวผู้สมัครหรือ ไม่ใช่เลย ผู้สมัครแทบทุกคนประชาชนไม่รู้จัก 6.3 ล้านเสียงได้จากกระแสประชาธิปไตย จากจุดยืนของพรรค จาก “ฟีเวอร์” ผู้นำ แม้อาจบวกความอุตสาหะของ ส.ส.เขตบางคน แต่ลองลงพรรคอื่นก็สอบตกชัวร์

เมื่อพรรคเชื่อมั่นว่าชนะเพราะ “ฟีเวอร์” จากจุดยืน แนวคิด ความโดดเด่นของแกนนำ พรรคก็ต้องให้ความสำคัญ ยึดมั่นการเดินไปในแนวทางนี้ มากกว่าที่จะคล้อยตามความเห็นของ ส.ส. หรือแคร์คุณสมบัติส่วนบุคคลของผู้สมัคร

ยกตัวอย่างผู้สมัครนายก อบจ. นักการเมืองท้องถิ่นไม่น้อย อยากใส่เสื้ออนาคตใหม่ อาศัยฐานเสียงเดิมบวกกระแสพรรค น่าจะชนะได้ไม่ยาก แต่อนาคตใหม่กลับคิดหนัก เพราะพรรคหาเสียงจากกระแสนิยม ไม่ใช่ฐานหัวคะแนนแบบเก่า การเลือกคนหน้าใหม่ที่ไม่มีคอนเนคชัน ไม่มีฐานเสียงเก่าเลย ไม่ว่าแพ้หรือชนะ อาจดีกว่าในระยะยาว

เช่นเดียวกับการแสดงจุดยืนทางการเมืองระดับชาติ ที่ว่าพรรคไม่ค่อยฟัง ส.ส. ถามหน่อยอะไรคือจุดเด่นของอนาคตใหม่ ที่แตกต่างจากเพื่อไทย จาก 6 พรรคฝ่ายค้าน ก็คือสิ่งที่ ส.ส.บางคนตั้งแง่ว่า “แรง ไม่ประนีประนอม” นั่นเอง ย้อนไปดูได้ จุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิด “อนาคตใหม่ฟีเวอร์” คือคำแถลงวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งแสดงจุดยืนประชาธิปไตยมั่นคง และแสดงจุดต่างจากทักษิณ-เพื่อไทย อย่างชัดเจนในหัวเลี้ยวหัวต่อ

อย่าเข้าใจผิด แม้ 6.3 ล้านเสียง บางส่วนมาจากเขตที่เพื่อไทยไม่ส่ง บางส่วนมาจากคนเคยเลือก ปชป. แต่กระแสหลักที่ทำให้อนาคตใหม่ฟีเวอร์คือ จุดยืนประชาธิปไตย “ไม่ประนีประนอม”

ซึ่งจนวันนี้ กระแสก็ยังไม่ตก แม้อนาคตใหม่ผิดพลาด บกพร่อง มือไม่ถึง ฯลฯ ในบางเรื่อง แต่ตราบใดที่ยังร้อนแรงเป็นแนวหน้าประชาธิปไตย เมื่อไหร่ที่ถูกกระทำ กระแสปกป้องก็ล้นหลาม

พูดอย่างนี้ไม่ใช่อวยอนาคตใหม่ถูกหมด เพราะหลายครั้งก็พลาด ไม่รัดกุม การมีจุดยืนเข้มแข็ง ไม่จำเป็นต้องแข็งกร้าวในเวลาจัดการความขัดแย้งภายใน ต้องมีศิลปะ หว่านล้อม ถนอมน้ำใจ บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องยึดหลักการจนนำไปสู่การประจันหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เช่นให้ 2 ทีมดีเบตแล้วโหวตคัดออก)

ถ้าพรรคอนาคตใหม่แตก ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ พรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งจากองค์ประกอบหลากหลาย ผ่านไประยะหนึ่งก็มักแตกกัน ทั้งด้วยปัญหาแนวคิด อุดมการณ์ หากถูกยุบพรรค อนาคตใหม่อาจแตกเป็นทีมธนาธร-ปิยบุตร ทีมประนีประนอม หรือไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ รอแจกกล้วย

แต่นั่นไม่สามารถทำลายพลังอนาคตใหม่ แม้รัฐบาลอาจพอใจ ว่ามือฝ่ายค้านลดลง แต่ถามว่ามวลชน 6.3 ล้านจะแตกไหม ประชาชนต้องการให้อนาคตใหม่ “ประนีประนอม” หรือไม่

เผลอ ๆ วันนี้อาจมีคนมากกว่า 6.3 ล้านเสียอีก ที่รักอนาคตใหม่แบบ “ไม่ประนีประนอม

เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/content/322001