Skip to main content
sharethis

กลุ่มสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน ร้องกองปราบเอาผิดหนุ่มแว่นหัวร้อน ข้อหา ม.112 ด้าน ตร.ปล่อยกลับบ้าน รอพิสูจน์ป่วยจิต พ่อ-แม่พูดไม่ตรงกัน

ราเชน ตระกูลเวียง ประธานกลุ่มสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน

24 ต.ค.2562 ความคืบหน้าจากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวีดิโออุบัติเหตุบน ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ของผู้ใช้เฟสบุ๊ค 'โต้ เจ็ทโด้' ขณะขับรถบรรทุกส่งของชนกับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ป้ายแดง และเกิดมีปากเสียงโดยเฉพาะเจ้าของรถเก๋งฮอนด้าที่ต่อว่าฝ่ายคนขับรถบรรทุกส่งของในหลายประเด็น รวมทั้งต่อว่าประเทศไทยด้วย ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล ได้เชิญตัว รชฎ คนขับฮอนด้า ซีวิคป้ายแดง มารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า ขณะที่มีการระดมประชาชนผู้ไม่พอใจมาเฝ้าที่หน้าโรงพักเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ต.ค.62) นั้น

ล่าสุดวันนี้ (24 ต.ค.62) ราเชน ตระกูลเวียง ประธานกลุ่มสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน เดินทาง เข้าพบตำรวจกองปราบปราม เพื่อขอให้ ดำเนินคดีกับ รชฏ ในความผิดตามมาตรา 112 และข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่ขับรถชนคู่กรณี แล้วลงมาด่าทอคู่กรณี โดยมีเนื้อหาบางช่วงตำหนิคนไทยทั้งประเทศ และยังพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์

ราเชน ได้นำหลักฐานซีดี ที่รวบรวมคลิปภาพเหตุการณ์ และนำเอกสารที่เป็นภาพจากเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความซึ่งแกะมาจากคำพูดของ นายรชฎ มามอบให้กับตำรวจด้วย พร้อมกล่าวว่าตนมาวันนี้เพื่อแจ้งความกับ นายรชฏ ในฐานะคนไทยที่ต้องการปกป้องสถาบัน และคดีนี้เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งการมาแจ้งความครั้งนี้ ยังเพื่อป้องปรามคนที่คิดจะทำพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งถือเป็นสิ่งไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนใดรับได้

ปล่อยกลับบ้าน รอพิสูจน์ป่วยจิต พ่อ-แม่พูดไม่ตรงกัน

ขณะที่ สภ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณลานหน้า สภ.ฯ เนื่องจากมีเศษก้นบุหรี่ ขวดเหล้า และขยะถูกทิ้งเกลื่อนหน้าโรงพัก หลังเมื่อเช้ามืด เวลา 04.00 น. ประชาชนจำนวนมากกว่า 500 คน ที่ไม่พอใจ รชฏ รวมตัวกันด่าทอ หน้าโรงพักได้พากันเดินทางกลับ

พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ไม่มีการควบคุมตัวหนุ่มแว่นหัวร้อน ไว้ที่โรงพัก แต่เบื้องต้นวันนี้ พ.ต.อ.กัมปนาท  ผู้กำกับการ สภ.พุทธมณฆล จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลแขวง จ.นครปฐม เพื่อส่งอัยการดำเนินการส่งฟ้องศาล และเปรียบเทียบปรับในข้อหา ดูหมิ่นซึ่งหน้าโดยในข้อหานี้มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ แต่หากรับสารภาพก็จบคดี และยอมเสียค่าปรับในชั้นโรงพัก

โดยเบื้องต้นการสอบปากคำผู้ต้องหาเมื่อคืน ผู้ต้องหามีอาการ ค่อนข้างเครียด และพบว่ามีปัญหาสุขภาพจิต ทั้งนี้จะต้องรอหลักฐานใบรับรองจากแพทย์อีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางด้านพ่อและแม่ของหนุ่มแว่นหัวร้อน ได้ให้ข้อมูลอาการป่วยของผู้ต้องหา ไม่ตรงกัน

 

ที่มา : ช่อง one31 ข่าวสดออนไลน์ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net