Skip to main content
sharethis

จากที่ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีความระหองระแหง เมื่อสัปดาห์ที่่ผ่านมา อีนักยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ และชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เข้าพบปะหารือกันและเห็นว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศไม่ควรปล่อยให้ระหองระแหง ทั้งนี้แม้ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้เรื่องค่าชดเชยกรณีญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็ส่งจดหมายขอให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อให้ความขัดแย้งสองชาติได้รับการแก้ไข

นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี อีนักยอน พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโสะ อาเบะ ที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2019 (ที่มา: opm.go.kr)

อีนักยอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้เข้าพบกับชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วในช่วงเดียวกับที่มีพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ โดยอีนักยอนเข้าพบกับอาเบะ พร้อมยื่นจดหมายของประธานาธิบดีมุนแจอินให้ และมีการหารือกัน 21 นาทีเมื่อ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ จะไม่ใช่หัวหน้ารัฐบาล แต่ก็มีบทบาทใกล้เคียงกับตำแหน่งรองประธานาธิบดี

ด้านโชเซยอง รมช.กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยว่าในการหารือดังกล่าวนายกรัฐมนตรีสองประเทศตกลงกันว่าทั้งสองประเทศยังคงเป็นเพื่อนบ้านสำคัญและไม่ควรจะปล่อยให้มีความสัมพันธ์ระหองระแหงแบบนี้ต่อไป นอกจากนี้เห็นควรว่าจะมีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างประเทศในระดับที่ไม่ได้มาจากรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจระหว่างคนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ทั้งสองคนมีจุดยืนร่วมกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นั้นมีความสำคัญต่อความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา ในประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ

มีนักวิเคราะห์มองว่าถึงแม้ทั้งสองประเทศจะยังคงไม่ได้ข้อยุติในเรื่องความขัดแย้งในสมัยที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีและบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่การหารือในสัปดาห์ที่แล้วจะเป็นแนวทางไปสู่การเจรจากันโดยผู้นำระดับสูงเพื่อคลี่คลายความสัมพันธ์ไม่ให้จมดิ่งลงไปกว่านี้ได้

จากคำแถลงของนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเสนอว่าพวกเขาจะติดต่อสื่อสารกันในเรื่องการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศต่อไป นอกจากนี้ยังกล่าวขอบคุณผู้นำเกาหลีใต้ที่ส่งสารแสดงความเสียใจกรณีพายุฮากิบิสที่สร้างความเสียหายต่อชาวญี่ปุ่น

สำหรับความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องการขอค่าชดเชยที่ญี่ปุ่นทำการบังคับใช้แรงงานช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น อาเบะยืนยันว่าพวกเขาได้ทำการชดเชยแล้วตามสนธิสัญญาว่าด้วยความสัมพันธ์พื้นฐานและการทำข้อตกลงเจรจาเรื่องการชดเชยปี 2508 (1965 Treaty on Basic Relations and Claims Settlement Agreement) และขอให้ทั้งสองประเทศรักษาสัญญาที่ให้ไว้ร่วมกัน

อีนักยอนเปิดเผยว่าถึงแม้เรื่องการเรียกค่าชดเชยจะยังไม่ได้พูดถึงกันจริงจังในการหารือครั้งนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเปิดทางให้มีการเจรจา นอกจากนี้เขายังพูดถึงจดหมายจากประธานาธิบดีมุนแจอินว่าเนื้อความในจดหมายนั้นระบุถึงการขอให้ทั้งสองฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันและทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศแก้ไขไปได้ แต่ในจดหมายก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะมีการจัดประชุมระดับซัมมิทใดๆ

ความสัมพันธ์ที่ถดถอยระหว่างสองประเทศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เกิดผลกระทบในหลายมิติ เช่น  มาตรการเรื่องการกีดกันทางการค้า ไปจนถึงกระทบกับเรื่องความมั่นคง เช่นการปฏิเสธจะต่อสัญญาการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในข้อตกลงทางด้านความมั่นคงและข่าวกรองการทหารทั่วไป (GSOMIA) ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการสอดส่องและวิเคราะห์ภัยจากขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

ผู้เชี่ยวชาญระบุด้วยว่าการพบปะหารือล่าสุดจะเป็นการปูทางไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ได้ คิมซุกฮยุน ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยยุทธศาสตร์ภายนอกของสถาบันเพื่อยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ (INSS) กล่าวว่าการที่ทั้งสองนายกฯ สามารถบรรลุการหารือได้เป็นเพราะพวกเขาปล่อยให้ "ประเด็นทางประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขในทางประวัติศาสตร์" และทำงานร่วมกันในภาคส่วนอื่นๆ เช่นความร่วมมือไตรภาคีระหว่างเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ยังคีโฮ ศาตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซงกงเฮก็ตั้งข้อสังเกตว่า การที่อาเบะพูดย้ำถึงเรื่องขอให้สองประเทศรักษาสัญญาไว้ร่วมกันเป็นการแสดงให้เห็นว่าอาเบะยังคงมีจุดยืนว่าญี่ปุ่นให้การชดเชยแก่เกาหลีผ่านข้อตกลงปี 2508 ไปแล้ว และการหารือในครั้งนี้ก็ทำได้ไม่ดีพอในแง่ที่ว่าไม่สามารถทำให้เกิดแผนการประชุมซัมมิทร่วมกันได้

เรียบเรียงจาก

Lee Nak-yeon and Abe agree S. Korea-Japan relations cannot remain in current state, HanKyoreh, 25-10-2019

 

เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น จะเป็นอย่างไรหลังขัดแย้งกันจนยกเลิกความร่วมมือด้านข่าวกรอง, 29 ส.ค. 2562

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net