สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรค CNRP ที่ประกาศจะกลับกัมพูชาผ่านไทยในวันที่ 9 พ.ย. นี้ ตอบคำถามทางอีเมล์ แจง ประยุทธ์เบรคไม่ให้เข้าประเทศไทยไม่ได้แปลว่าไม่มีความเป็นไปได้ ถ้ากลับเข้าประเทศได้อยากจะเริ่มต้นประชาธิปไตยอีกครั้ง ฟื้นฟูพรรคฝ่ายค้านกลับมา ประเมิน ถ้าฮุน เซน ข่มขู่ประชาชนได้ผล ก็จะไม่มีมวลชนออกมาสนับสนุน สมาคมการค้าชายแดนประเมิน ไม่น่ากระทบการค้า

สม รังสี (ที่มา:Facebook/Sam Rainsy)

7 พ.ย. 2562 ประชาไทสอบถามไปยังอีเมล์ของสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ได้ประกาศว่าจะเดินทางกลับกัมพูชาในวันที่ 9 พ.ย. ที่จะถึงนี้ที่เป็นวันประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส และยังเรียกร้องให้กองทัพกัมพูชาหันปลายกระบอกปืน สนับสนุนประชาชนในการโค่นล้มนายกฯ ฮุน เซน และพรรคประชาชนกัมพูชาที่เป็นพรรครัฐบาล

ประชาไทสอบถามถึงความเห็นความเห็นของเขากับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับหนังสือของสม รังสี ที่ขอเดินทางเข้าไทยเพื่อเป็นทางผ่านไปกัมพูชา ถ้ากลับกัมพูชาได้แล้วจะทำอะไรกับการเมืองในประเทศ และความเป็นไปได้เรื่องการได้รับการสนับสนุนจากมวลชน โดยได้รับคำตอบดังนี้

“จากมุมมองของประเทศไทยฝั่งเดียว ผมเข้าใจจุดยืนของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา และขออภัยในความลำบากใจใดๆ ที่ผมได้สร้างขึ้น แต่ผมเห็นว่าท่าทีของนายกฯ ไทยที่ได้รับการรายงานออกมานั้นไม่ได้มีสำนวนในทางที่พูดถึงความเป็นไปได้ (ของการเดินทางเข้าไทย)”

“ผมหวังที่จะรีสตาร์ตประชาธิปไตยในกัมพูชาและการฟื้นฟูพรรค CNRP ในฐานะพรรคฝ่ายค้านที่จงรักภักดีและชอบธรรม”

“มาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัวในการมาทักทายนักการเมืองที่พวกเขาเลือกที่จะสนับสนุน แต่ถ้าการข่มขู่ของฮุน เซนตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ผล ก็จะไม่มีมวลชนออกมาสนับสนุนฝ่ายค้าน” อดีตหัวหน้าพรรค CNRP ตอบผ่านอีเมล์

จดหมายของสม รังสีถึงประยุทธ์ จันทร์โอชาเมื่อ 31 ต.ค. 2562 ระบุุถึงเส้นทางและเที่ยวบินที่จะใช้ (ดูภาพขนาดใหญ่)

สม รังสีออกจากกัมพูชาในปี 2558 หลังถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาททางอาญา โดนเรียกค่าชดเชยจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยศาลกัมพูชาได้รื้อฟื้นคดีดังกล่าวขึ้นมาแม้ว่าสม รังสีจะได้รับอภัยโทษแล้วก็ตาม นอกจากนั้นเขายังถูกตัดสินโทษจำคุก 5 ปีจากคดีอื่นอีกคดีด้วย ส่วนพรรค CNRP ที่เป็นพรรคที่ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถูกคำสั่งศาลให้ยุบพรรคในปี 2560 จากความผิดโทษฐานวางแผนโค่นล้มรัฐบาลพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) สมาชิกพรรคมากกว่า 100 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังจากนั้น พรรค CPP จึงครองอำนาจทางการเมืองและที่นั่งในรัฐสภาแต่เพียงพรรคเดียว

รัฐบาลกัมพูชามีความตื่นตัวกับการกลับประเทศของสม รังสี ในเอกสารที่สม รังสีส่งถึงประยุทธ์นั้นระบุว่าจะเดินทางผ่านเส้นทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กัมพูชาเตรียมรับมือด้วยการส่งกองกำลังทหารอาวุธครบมือไปประจำตามจุดชายแดน มีการซ้อมปฏิบัติการด้วยกระสุนจริง มีการกระจายป้ายประกาศจับสม รังสี และสมาชิกพรรครวม 8 คนทั้งในฝั่งกัมพูชาและไทย โดยฮุน เซน นายกฯ กัมพูชาแสดงท่าทีจริงจังว่าพร้อมจับกุมตัวสม รังสี ด้านสม รังสีระบุเมื่อ 5 พ.ย. ว่าพร้อมถูกจับกุมและพร้อมตายเพื่อเดินทางไปให้ถึงกัมพูชา

ในส่วนผลกระทบการค้าชายแดนนั้น เมื่อ 6 พ.ย. วิมาน สิงหพันธ์ จากสมาคมการค้าชายแดน จ.ตราด หนึ่งในพื้นที่ค้าขายชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ข้อมูลกับประชาไทว่ายังไม่มีการแจ้งข้อมูลจากทางการไทยอย่างเป็นทางการเรื่องการเดินทางกลับของสม รังสีและสมาชิกพรรค CNRP แต่ประเมินว่าการค้าชายแดนจะไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ หน่วยงานของกัมพูชาก็มีการสอบถามเรื่องความเคลื่อนไหวของแรงงานกัมพูชาซึ่งกระทำเป็นปกติอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 ได้พบปะหารือกับ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ทหารภูมิภาคที่ 5 กัมพูชา ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา โดย พล.ท.ธรรมนูญได้ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดด่านแน่นอน ทั้งนี้ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชามีภาพของแกนนำพรรค CNRP จำนวน 8 คนถูกติดไว้เป็นป้ายประกาศจับ โดยนอกจากการแจกจากทาง ตม. ที่ปอยเปตแล้ว สื่อกัมพูชายังพบป้ายประกาศลักษณะเดียวกันที่ชายแดนบริเวณช่องอานม้า จ.พระวิหาร ตรงข้าม อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีอีกด้วย

ประชาไทแก้ไขข้อความในส่วนต้นของคำตอบของสม รังสี จากคำว่า "จากมุมมองส่วนตัวของผมต่อประเทศไทย" เป็น "จากมุมมองของประเทศไทยฝั่งเดียว" ให้ถูกต้องตามคำตอบภาษาอังกฤษใจความว่า "From the point of view of Thailand alone..." แก้ไขวันที่ 7 พ.ย. 2562 เวลา 14.43 น.