ภาพประกอบจากเว็บไซต์ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า

10 พ.ย. 2562 สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มป้อม ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา กลางดึกวันที่ 6 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย ซึ่งนับเป็นความสูญเสียผู้เสียชีวิตมากที่สุดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2562 สื่อมวลชนได้รายงานว่ากลุ่ม 'บีอาร์เอ็น' ได้ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกถล่มโหดป้อม ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 15 ศพนั้น (อ่านแถลงการณ์นี้ตามสื่อต่างๆ ได้เช่น [1] [2] [3])

มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2562 ว่า ฮาร่า ชินทาโร่ อดีตอาจารย์สอนภาษามลายู มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ โพสต์เฟสบุ๊ค Hara Shintaro(原新太郎) ระบุว่า 

ผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ถูกรายงานว่าเป็น 'แถลงการณ์' ของ BRN นั้นเป็นของจริงหรือไม่ เพราะ 1.เพจที่มาของ 'แถลงการณ์' ฉบับนี้พิมพ์ชื่อองค์กรผิด ชื่อ BRN เป็น Barisan Revolusi National ส่วน BRN ในแถลงการณ์ที่เป็นของจริงทั้งหดใช้ชื่อเป็น Barisan Revolusi Nasional (คำสุดท้ายสะกดตามวิธีการสะกดภาษามลายู) 2.ตามปกติ องค์กรนี้ไม่เคยสื่อสารเกี่ยวกับเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังใช้ความเป็นองค์กรลับเป็นจุดแข็งในปฏิบัติการ ดังนั้นการออกมาแถลงการณ์แบบนี้ไม่เข้ากับลักษณะขององค์กร 3.แถลงการณ์ฉบับนี้ใช้คำว่า ดารุลฮัรบี ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ผมไม่เคยเห็นในเอกสารหรือแถลงการณ์ที่เป็นทางการขององค์กรดังกล่าว

4.ก่อนหน้านี้ แถลงการณ์ที่เป็นทางการขององค์กรดังกล่าวมีภาษามลายูเป็นต้นฉบับ (และบางฉบับมีฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ) แต่ไม่เคยปล่อยแถลงการณ์เป็นภาษาไทยภาษาเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่า 'แถลงการณ์' ที่ถูกรายงานฉบับนี้เป็นของจริงหรือของปลอม จึงขอมอบให้กับพิจารณาญาณของทุกท่านครับ ที่ผมระบุข้างบนเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว

ควบคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยโจมตี ชรบ.ลำพะยา

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2562 ว่าทหารตำรวจกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อม ตรวจค้น พื้นที่ 19 จุด ในอำเภอโคกโพธิ์ ปัตตานี และอำเภอเมือง ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ เพื่อติดตามกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ ที่คาดว่าอาจมีส่วนร่วมในการบุกโจมตีป้อม ชรบ.ที่ตำบลลำพะยา ซึ่งขยายผลจากผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้

หมู่บ้านต้นหยี ในตำบลลำพะยา ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 5 กิโลเมตร เป็นเป้าหมายของการตรวจค้นมากถึง 6 จุด ผลจากการปิดล้อมตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 6 ราย พร้อมกับหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตี ชรบ. เสียชีวิต 15 ราย หลักฐานสำคัญที่ตรวจยึดได้ เป็นผ้าพันแผลที่ใช้แล้ว และยังไม่ถูกใช้ ผ้าพันแผลที่ถูกใช้มีคราบเลือดติดอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจ ว่ารอยคราบเลือดจะตรงกับเลือดของคนร้ายที่บาดเจ็บจากการยิงตอบโต้ของ ชรบ. หรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีเป้สนาม อุปกรณ์สนาม กางเกงดำ เสื้อดำ ที่เปรอะเปื้อนดิน และเสื้อยืดลายทหาร ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการร่วมชั่วคราว ในวัดลำใหม่ พบบางรายมีหมายจับและมีหมาย พรก. ฉุกเฉิน แต่จะเน้นการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุโจมตีป้อมจุดตรวจ ชรบ. ในผู้ต้องสงสัย 6 ราย เป็นชาวบ้านจากบ้านต้นหยี 4 ราย และหลักฐานบางส่วนโดยเฉพาะผ้าพันแผลที่ถูกใช้มีคราบเลือดติดก็ได้จากการตรวจค้นที่หมู่บ้านนี้

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านต้นหยี ระบุว่าช่วงปี 2547-2551 หมู่บ้านต้นหยีเคยเป็นหมู่บ้านสีแดง มีแนวร่วมอยู่ราว 85 เปอร์เซ็นต์ แต่ช่วงหลัง เขาได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ประกาศห้ามกลุ่มก่อเหตุ อาร์เคเค อยู่ในหมู่บ้าน และดึงชาวบ้านจำนวนมากออกจากการเป็นแนวร่วม จนปัจจุบันแทบไม่เหลือใครที่มีความคิดเป็นแนวร่วม

สำนักข่าวไทยระบุว่าจากปฏิบัติการนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสเพิ่ม คนร้ายที่บาดเจ็บจากการถูกยิงตอบโต้ กำลังหลบซ่อนตัวในพื้นที่เป้าหมาย ที่กำลังจะตรวจค้น และมีแนวร่วมเตรียมเคลื่อนย้ายให้หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามกระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการหลบหนี หนึ่งในพื้นที่ ที่คาดว่ากลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการหลบหนีกบดาน คือ เขานางจัน อันเป็นภูเขารอยต่อจังหวัดยะลาและสงขลา ซึ่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา วางกำลังตามจุดต่างๆ ที่เป็นเส้นทางขี้นลงตามแนวเขานางจัน

นับจากวันก่อเหตุ คืนวันที่ 5 พ.ย. 2562 ตอนเช้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน รวมควบคุมตัววันที่ 9 พ.ย. 2562 นี้ได้เป็น 7 คน ซึ่งทุกคนล้วนยังเป็นผู้ต้องสงสัยที่ต้องรอผลพิสูจน์อีกหลายอย่างว่ามีส่วนร่วมในเหตุการณ์คืนนั้น จริงหรือไม่