'กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม' เรียกร้องเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท/เดือน ให้สอดคล้องกับการครองชีพในปัจจุบัน-สร้างความมั่นคงให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต
13 พ.ย. 2562 ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคมได้เดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปจำนวน 10,670,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรทั้งหมด เป็นสังคมสูงวัย โดยรัฐบาลได้ให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท หรือเพียงวันละ 20 บาท เป็นรายได้ที่ต่ำเกินไป ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้ผู้สูงอายุยากจนข้นแค้น อัตคัด ขัดสน ทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส มีผู้สูงอายุกว่า 3 ล้านคน ตกอยู่ในสภาพอดอยาก ไร้ที่พึ่ง ไร้บ้าน เจ็บป่วย ขาดแคลน
ในขณะที่รัฐบาลนำเงินงบประมาณมหาศาลไปใช้ในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และนำไปจ่ายเป็นเงินเดือนสองตำแหน่งให้นายพลในกองทัพ เป็นค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองไม่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ-สังคม นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในสังคมไทย กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคมจึงได้รวมตัวกันที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท ให้สอดคล้องกับการครองชีพในปัจจุบันนี้ อันเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต เป็นไปตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้ กลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคม จ.สมุทรปราการ จึงขอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 3,000 บาท โดยทันที
ทั้งนี้สุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้สูงวัยใส่ใจสังคมในครั้งนี้