คนอยาก 'ลอยประยุทธ์กับกระทง' ถูกสอดส่องและห้ามปรามอย่างใกล้ชิด

กิจกรรม ลอยกระทง ของ พะเยาว์ อัคฮาด ถูก ตร.นอกเครื่องแบบติดตามการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ในส่วนของกิจกรรมทางภาคเหนือทำกระทงเชิงสัญลักษณ์ไปขาย ซึ่งมีภาพของ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, รถถัง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกด้วยเหตุผลเพียงว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องในวันลอยกระทง พะเยาว์ อัคฮาด นักกิจกรรมทางการเมืองและมารดาของ กมนเกด อัคฮาด ผู้เสียชีวิตจากกรณี 6 ศพวัดปทุมฯ ในช่วงการสลายการชุมนุมปี 2553 นัดหมาย จัดกิจกรรม “เรียนเชิญทุกท่านค่ะ ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม ลอยสาปส่งสิ่งชั่วร้าย ในวันลอยกระทงค่ะ ที่สวน 60 พรรษา เคหะร่มเกล้า เวลา 20.00 น. พร้อมเตรียมกระทงเผด็จการมาลอยสาปส่งด้วย ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันก่อนลอยกระทง พะเยาว์ แจ้งว่า "ตำรวจมาเยือนถึงร้านกาแฟสองรอบ แล้วบอกว่าลอยได้ครับแต่พวกผมรอเก็บ"

ภาพจากเฟสบุ๊กไลฟ์ของ อานนท์ นำภา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเพิ่มเติมว่า กิจกรรมของ พะเยาว์ นั้น ในตอนค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 2 คน ได้มาที่ร้านกาแฟของพะเยาว์ซึ่งอยู่ในตลาดร่มเกล้า เพื่อมาสังเกตการณ์การทำกิจกรรมลอยกระทง จนกระทั่งเวลา 20.30 น. ทนายอานนท์ นำภา ได้ติดตามมาสมทบที่ร้านกาแฟและเริ่มถ่ายทอดสดกิจกรรมผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปที่สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

เมื่อพะเยาว์และลูกชายเดินทางไปยังจุดทำกิจกรรม ตำรวจนอกเครื่องแบบสองนายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขับนำหน้ารถยนต์ของพะเยาว์ และอำนวยความสะดวกในการจอดรถในสถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า ทั้งยังช่วยหยุดรถตอนที่พาพะเยาว์ข้ามถนนมายังสวนสาธารณะ ตลอดช่วงเวลาที่พะเยาว์เดินถือกระทงเข้าไปในสวนสาธารณะมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของ สน.ร่มเกล้า ติดตามถ่ายภาพและวีดิโอ จนไปถึงบริเวณบึงกลางสวนสาธารณะซึ่งเป็นจุดลอยกระทง โดยมีผู้ให้ความสนใจถ่ายภาพกับกระทงและถ่ายภาพพะเยาว์ แม้กิจกรรมนี้ไม่ได้มีผู้เข้าร่วมนอกจากพะเยาว์ ลูกชาย และทนายอานนท์ แต่ก็มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 7-8 คน ติดตามอยู่รอบบริเวณจุดลอยกระทง

การทำกิจกรรมใช้เวลา 20 นาทีโดยประมาณ ภายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมช่วง 21.30 น. ทางตำรวจได้เชิญพะเยาว์ไปพูดคุยและกินกาแฟ แต่พะเยาว์ปฏิเสธ โดยบอกว่าจะไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงขับรถจักรยานยนต์ตามมายังร้านดังกล่าว และยังนั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ โต๊ะที่พะเยาว์นั่ง จนกระทั่งเวลา 22.30 น. พะเยาว์ได้เรียกพนักงานคิดเงิน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าได้จัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้ว และยืนยันจะขับรถตามไปส่งที่บ้าน ทั้งนี้ ทนายอานนท์ซึ่งขอแยกตัวกลับไปก็ถูกเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพคนขับรถแท็กซี่ รวมถึงป้ายทะเบียนไว้ด้วยเช่นกัน

ตำรวจแพร่ห้ามขายกระทงล้อการเมือง อ้างประเทศกำลังสงบสุข

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังรายงานด้วยว่า ที่ จ.แพร่ ก็มีกิจกรรมทำลอยกระทงที่มีรูปของพล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, รูปรถถัง และรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการลอยสิ่งไม่ดีออกไปและชี้ให้เห็นถึงการลิดรอนสิทธิของประชาชนที่เกิดขึ้นในช่วงหลังรัฐประหาร โดย ประเสริฐ หงวนสุวรรณ สมาชิกชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือเพื่อสังคมประชาธิปไตย – CAN จ.แพร่ ได้จัดทำกระทงวางขายที่บริเวณท่าน้ำสีชุม อ.เมือง จ.แพร่ อันเป็นสถานที่ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนได้เดินทางมาลอยกระทง เวลาประมาณ 17.15 น. ประเสริฐพร้อมกับเพื่อนได้นำกระทงที่จัดทำขึ้นจำนวน 30 อัน ไปวางขายในราคาอันละ 30 บาท และมีการประกาศเชิญชวนให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเข้ามาซื้อกระทง พร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเชิญชวนให้คนมาซื้อ เมื่อวางขายไปได้ประมาณ 25 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารโทรศัพท์สอบถาม ประเสริฐว่า การขายกระทงเป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบเพียงว่าขายได้ 2 อันแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารก็ได้วางสายไป

หลังวางขายได้ 40 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาจอดรถอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนและทำการถ่ายรูปของ ประเสริฐและเพื่อน ๆ ที่ขายกระทงอยู่ ต่อมา ยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 3 นาย นำรถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดด้านหน้า พร้อมกับเข้ามาพูดคุยหยอกล้อเรื่องการขายกระทงดังกล่าว

จนกระทั่ง 18.10 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับกระทงที่วางขาย และทำการถ่ายรูปกระทงอีก จากนั้นก็ได้เดินอยู่บริเวณดังกล่าว คอยถ่ายรูปการขายกระทงไว้โดยตลอด ต่อมา เวลาประมาณ 18.25 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ซึ่ง ประเสริฐทราบว่าเป็นสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองแพร่ เข้ามาพูดคุยด้วย ระบุว่า เข้าใจว่าการขายกระทงเป็นลักษณะการล้อเลียนการเมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และอาจจะเป็นการหมิ่นเหม่โดยการนำรูปของบุคคลเหล่านี้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มาใช้ในกระทง ทางด้าน ประเสริฐยืนยันว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และบุคคลเหล่านี้ก็เป็นบุคคลสาธารณะ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานต่อว่า ระหว่างที่สารวัตรสืบสวนกำลังพูดคุย มีผู้มาขอซื้อกระทงแต่ถูกสารวัตรสืบสวนขัดขวาง พร้อมกับขอถ่ายรูปกับประเสริฐไว้ ระหว่างที่รอผู้กำกับ สภ.เมืองแพร่เดินทางมา ทางสารวัตรสืบสวนได้ขอให้ ประเสริฐและเพื่อนเก็บกระทงไว้ในถุงก่อนยังไม่ให้ขาย แต่เมื่อทีมขายกระทงขอตั้งกระทงไว้เฉย ๆ ยังไม่มีการขาย สารวัตรสืบสวนก็ยืนยันว่าไม่ได้ เดี๋ยวจะมีนักข่าวมา หากมีการออกข่าวไปแล้วทางตำรวจจะเดือดร้อน แม้จะเป็นรูปบุคคลสาธารณะ แต่เป็นผู้นำประเทศ เมื่อประเสริฐยืนยันว่าจะขอตั้งกระทงไว้ จึงมีการถกเถียงกันมากขึ้น ทางสารวัตรสืบสวนจึงได้พูดว่า “งั้นไปสถานีตำรวจ จะไปเลยไหมตอนนี้”

ต่อมาเวลาประมาณ 18.35 น. ผู้กำกับ สภ.เมืองแพร่ได้เดินทางมาถึง พร้อมกับเข้าพูดคุยว่าการขายของแบบนี้มันไม่ควร บ้านเมืองกำลังสงบ ๆ และสอบถามว่ากำลังทำเพื่ออะไร ผู้กำกับได้ย้ำถึงความไม่เหมาะสม และอ้างว่าบ้านเมืองกำลังสงบ ขอร้องให้เก็บกระทงไป โดยมีการเอ่ยว่าทางตำรวจจะเป็นคนซื้อทั้งหมดเอง สุดท้ายประเสริฐและเพื่อน จึงได้เก็บกระทงและกระดาษรูปภาพข้อความกลับ และประกาศยุติการขาย โดยขายไปได้ 5 อัน และกระทงที่เหลือ 25 อัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้มีการรับซื้อไว้อย่างที่กล่าวระหว่างการถกเถียง

ภาพกิจกรรมที่อื่นที่มีเผยแพร่ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค

นอกจาก 2 ที่นี้ ยังมีผู้นำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะทหารการเมืองนำไปใส่กระทงและลอยอีกด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านั้น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงวันลอยกระทง ระหว่าง 28 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2562 จำนวน 1,229 ตัวอย่าง พบว่าบุคคลแวดวงการเมืองที่ประชาชนอยากเดินทางไปลอยกระทงด้วยมากที่สุด ได้แก่ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท