ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ทำการคุมขังเด็กผู้อพยพมากเป็นประวัติการณ์ถึงราว 69,550 รายในปี 2562 นี้ เทียบกับปีงบประมาณที่แล้วเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 42 รวมตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงเด็กวัยรุ่น แพทย์เด็กและนักพัฒนาการเด็กวิจารณ์ว่าการคุมขังเด็กหรือการพรากจากครอบครัวหรือผู้ดูแลพวกเขาตั้งแต่ยังเล็กส่งผลเสียต่อพัฒนาการและอาจจะทำให้เกิดเผลใจแบบฝังจำได้
ข้อมูลของทางการสหรัฐฯ เปิดเผยให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ทำการคุมขังผู้อพยพที่เป็นเด็กมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยมีตัวเลขอยู๋ที่ 69,550 ราย รวมตั้งแต่ทารก, เด็กเล็ก, เด็กโต ไปจนถึงวัยรุ่น นอกจากนี้ยังมีจำนวนเด็กที่ถูกพรากจากครอบครัวจำนวนมากถูกคุมขังอยู่ในสถานกักกันมากกว่าในปีที่แล้วและมากกว่าในที่อื่นๆ ของโลกด้วย
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ต้องขังเด็กที่เป็นผู้อพยพจำนวนมากที่สุดในช่วงสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่มีนโยบายคุมเข้มเรื่องผู้อพยพ ถึงแม้ว่าทางการสหรัฐฯ เองจะยอมรับว่าการคุมขังเด็กเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเด็ก
สื่อเดโมเครซีนาวระบุว่าจำนวนตัวเลขเด็กและเยาวชนที่อยู่ในสถานกักกันผู้อพยพของสหรัฐฯ นั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้เคยมีตัวเลขการคุมขังเด็กในที่อื่นๆ ได้แก่ออสเตรเลียในปี 2556 มีจำนวนเด็กที่ถูกคุมขังจากการพยายามเข้าประเทศผ่านทางน่านน้ำราว 2,000 ราย ในแคนาดามีนโยบายแยกเด็กจากครอบครัวเช่นกันแต่จะใช้เป็นมาตรการสุดท้ายเท่านั้น มีเด็กที่ถูกคุมขังในแคนาดาอยู๋ที่ 155 รายในปี 2561 ในสหราชอาณาจักรมีจำนวนเด็กที่ถูกส่งเข้าสถานกักกันผู้ลี้ภัย 42 รายในปี 2560 ข้อมูลเหล่านี้สื่อต่างประเทศรวบรวมจากบัทนึกของทางการประเทศนั้นๆ
แจ็ค ชองคอฟฟ์ ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อพัฒนาการเด็กจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวต่อสภาคองเกรสในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ประสบการในช่วงวัยเด็กตอนต้นมีความสำคัญในแง่ของการที่เด็กกำลังมีการเจริญเติบโตทางสมองและร่างกายของพวกเขา และการที่พรากตัวผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็กโดยหลักๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กเอง ส่วนหนึ่งเพราะสมองของเด็กจะขาดการได้รับสิ่งกระตุ้นในทางบวกซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กต้องการและทำให้เด็กถูกกระตุ้นให้เกิดความเครียดที่จะส่งผลยับยั้งพัฒนาการ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้เกิดแผลใจแบบฝังจำด้วย
สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา ก็ประณามเรื่องการคุมขังเด็กด้วยสาเหตุเดียวกันโดยระบุว่า ถึงแม้ว่าเด็กจะถูกคุุมขังแค่เพียงเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถสร้างแผลใจและสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพจิตในระยะยาวได้
เรียบเรียงจาก
U.S. Government Detained Record Number of Migrant Children in 2019, Democracy Now!, 13-11-2019
https://www.democracynow.org/2019/11/13/headlines/us_government_detained_record_number_of_migrant_children_in_2019
US Detained About 70,000 Migrant Children in 2019: Report, Telesur, 13-11-2019
https://www.telesurenglish.net/news/US-Detained-Around-70000-migrant-Children-in-2019-Report-20191113-0024.html
US held record number of migrant children in custody in 2019, AP, 12-11-2019
https://apnews.com/015702afdb4d4fbf85cf5070cd2c6824
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)