ประธานบริหารเนชั่นแจงเสนอข่าวอนาคตใหม่ตามข้อเท็จจริง หลังช่อชี้นักการเมืองใช้เนชั่นเป็นเครื่องมือ

19 พ.ย. 2562 สืบเนื่องจากกรณีการแถลงข่าวของพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีที่มีนักการเมืองใช้ เนชั่นเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมชี้ให้เห็นถึงข่าวปลอมในช่องหลายเดือนที่ผ่านมา

พรรณิการ์ ระบุว่า ในประเด็นความเป็นเจ้าของสื่อของนักการเมือง ตามเจตนารมรณ์รัฐธรรมนูญที่ห้ามไม่ให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งถือครองหุ้นสื่อ เพื่อใช้ให้เป็นคุณแก่ตัวเองและใช้เป็นโทษแก่คนอื่น แต่ในไทยมีนักการเมืองเกี่ยวข้องกับเจ้าของสื่อ แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้คือ กรณี วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาออกจากผู้บริหารเครือเนชั่น ก่อนให้ฉาย บุนนาค สามีดำรงตำแหน่งผู้บริหารแทน เกิดคำถามว่าขณะที่การถือหุ้นสื่อ ของส.ส.หลายสิบคน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ปัญหาเกิดจากใบบริคนห์สนธิ บางกรณีนักการเมืองแสดงหลักฐานทุกอย่างแล้วว่าโอนหุ้นก่อน แต่ยังมีคดี แต่กรณีวทันยา กฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้ และเครือเนชั่น แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทำการอันเป็นคุณแก่บางพรรค และเป็นโทษแก่บางพรรคอย่างเป็นระบบ

พรรณิการ์กล่าวต่อว่า ทีมงานของพรรคได้สรุปการเสนอข่าวของเนชั่น ที่เสนอข่าวอนาคตใหม่เฉลี่ยวันละ 9 ข่าว 36 นาที เฉลี่ยเป็นเบรกเช้า เที่ยง เย็น ช่วงละ 12 นาที หมายความว่าจะมีข่าวอนาคตใหม่ 1 เบรกเต็มๆ ในทุกช่องข่าวหลักของเนชั่น นอกจากนี้ได้เชิญบุคคลมาสัมภาษณ์เพื่อชี้นำความเห็นเชิงลบ ทั้งที่เราเพิ่งจะตั้งพรรคมาหนึ่งปีกว่าๆ ยังไม่มีอำนาจรัฐ

“เราพบรูปแบบการนำเสนอข่าวที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยพวกเขาหยิบยกเอาข้อมูลในเพจข่าวปลอม มาแผยแพร่ในรายการทีวี รวมทั้งเพจ ปอกเปลือก ซึ่งเป็นเพจที่สถาบันทิศทางไทยมักแชร์ในช่วงก่อตั้ง หมายความว่าข่าวปลอมเหล่านี้ เริ่มต้นจากเพจข่าวปลอมที่ไม่มีตัวตน” พรรณิการ์ กล่าว

โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ข่าวปลอมมีอยู่เยอะและเป็นอันตรายต่อสังคม แต่อย่างน้อยมันไม่เคยถูกยกมาเป็นข่าวในโทรทัศน์ซึ่งเป็นช่องทางที่เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ตัวอย่างเช่น “ชำแหละแถลงการณ์ ธนาธร โอนหุ้น ส่อนิติกรรมอำพราง” “ธนาธรอันตรายคล้ายฮิตเลอร์” หรือ “ธนาธรสารภาพคิดการใหญ่” หรือ วิจารณ์ยับกินอาหารหรู ซึ่งกรณีกินอาหารหรูมีการยืนยันแล้วว่ามื้อนั้นเฉลี่ยคนละ 600 บาท ก่อนถูกขยายความต่อไป เช่นเดียวกับข่าว ธนาธร คล้ายฮิตเลอร์ ซึ่งในเนื้อหาไม่มีข้อเท็จจริง มีเพียงความเห็นของพิธีกรรายการเท่านั้น มีคนแสดงความเป็นห่วงหลายคน อย่าง 4 สมาคมสื่อที่ออกแถลงการณ์ กรณีสื่อสำนักนี้ปล่อยคลิปเสียง หากสื่ออ้างเสรีภาพเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไร้ขอบเขต สร้างความเกลียดชัง สื่อจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร เราต้องการเรียกร้องเรื่องนี้ไปยังสังคมว่า เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญนี้จะได้รับความเชื่อถือจากสังคมได้อย่างไร หากมีการดำเนินการลักษณะนี้

พรรณิการ์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งศูนย์ต่อต้านเฟกนิวส์ แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นว่าศูนย์นี้ต่อต้านเฟกนิวส์จริง หรือแค่แก้ต่างทำลายข่าวที่เป็นโทษกับรัฐบาลกันแน่ หลังจากวันนี้พรรคอนาคตใหม่จะนำข้อมูลจากเพจข่าวปลอมทั้งหมดกว่า 100 หน้า จะนำไปมอบให้ศูนย์ต่อต้านเฟกนิวส์ โดยจะมอบให้ถึงมือพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งหลังยื่นเรื่องแล้วพรรคจะเฝ้าดูว่าเจ้ากระทรวงจะสั่งการหรือดำเนินการอย่างไรบ้าง หรือท่านจะต่อต้านข่าวที่เป็นโทษของรัฐบาลเท่านั้น

ล่าสุดวันนี้ สมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเครือเนชั่น เนื่องจากต้องการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่พรรคอนาคตใหม่และบุคลากรในพรรคได้กระทำขึ้น

สมชาย กล่าวว่า การนำเสนอข่าวของเครือเนชั่น เป็นการนำเสนอตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามกระแสข่าว เพียงแต่ด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานที่เจาะลึก หาข้อมูลมายืนยัน จึงทำให้เป็นหลักฐานผูกมัดพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ รู้สึกว่าเครือเนชั่น เป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่

สำหรับความสัมพันธ์ของบุคลากรในเครือเนชั่น กับสถาบันทิศทางไทยนั้น เป็นการกระทำโดยส่วนตัว ด้วยความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ และเป็นการกระทำที่เปิดเผย เพราะสถาบันทิศทางไทยเป็นองค์กรสาธารณะไม่แสวงหากำไร โดยมีคณาจารย์มาร่วม อาทิ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล, ดร.สุวินัย ภรณวลัย, ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ , ดร.นักรบ ระวังการณ์, ดร.แสงเทียน อยู่เถา, ดร.วีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล, ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ,ฑีญา เผ่าสวสัดิ์ และหาญศักดิ์ หาญสมวงศ์ เป็นต้น 

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวดังกล่าวของ พรรณิการ์ และพรรคอนาคตใหม่ ทางเครือเนชั่น กำลังพิจารณาในการดำเนินคดีกับ พรรณิการ์ และพรรคอนาคตใหม่ ต่อไป

เรียบเรียงจาก : ข่าวสดออนไลน์  , ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท