Skip to main content
sharethis

สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนแสดงความผิดหวังต่อคําตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหลังงริบที่นั่ง 'ธนาธร' ในรัฐสภาของผู้นําพรรคฝ่าย ค้านไทย

20 พ.ย. 2562 จาก จาการ์ตา อินโดนีเซีย สมาชิกรัฐสภาอาเซียนแสดงความผิดหวังต่อคําตัดสินของศาลในวันนี้ซึ่งเพิก ถอนสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และเรียกร้องให้หยุดนํา กฎหมายมาเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งสมาชิกพรรคฝ่ายค้านและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

ธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามมาตรา 98(3) ตามรัฐธรรมนูญ ในข้อหามีหุ้นสื่อ ขณะที่ลงสมัครเลือกตั้งในเดือนมีนาคม ในวันที่ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ ธนาธร หยุดพักการ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกรัฐสภาระหว่างการพิจารณาคดี แต่ตอนนี้สถานะการเป็นสมาชิกรัฐสภาของเขาถูกเพิก ถอน ธนาธร กล่าวว่าเขาขายหุ้นสื่อไปเมื่อเดือนมกราคม 2562

“การตัดสินในวันนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งในปีนี้ ผู้มีอํานาจของไทยก็ยังไม่พร้อมจะมี ประชาธิปไตยที่โปร่งใสและเป็นอิสระ” Charles Santiago สมาชิกรัฐสภามาเลเซียและประธานกลุ่มสมาชิก รัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR) กล่าว

“คดีนี้ควรได้รับการพิจารณาจากบริบทที่กว้างกว่า ที่สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านและพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคอนาคตใหม่ ถูกเลือกปฏิบัติโดยสถาบันที่ว่ากันว่าเป็นอิสระ สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่านี่คือความพยายามของ หลายฝ่ายในการปิดปากพรรคการเมืองที่สั่นคลอนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากพรรคพยายามจะ แก้ไขรัฐธรรมนูญ

พรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นลําดับที่สามในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ที่ นั่ง 80 ที่ในรัฐสภา ในฐานะฝ่ายค้าน พรรคได้ตั้งคําถามอย่างสม่ําเสมอต่อบทบาทของทหารในการเมืองไทย ตั้งแต่นั้นมาผู้มีอํานาจก็ใช้กฎหมายกลั่นแกล้งพรรคและสมาชิกพรรค

ณ ปัจจุบัน สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ถูกฟ้องกว่า 27 คดี ซึ่งรวมถึงคดีที่ฟ้องพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค และ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการของพรรค คดีที่อยู่ระหว่างการฟ้องเหล่านี้รวมถึงคดีหมิ่นศาล ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และข้อหายุยงปลุกปั้น หนึ่งในคดีเหล่านี้อาจนําไปสู่การยุบพรรคได้

คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาก็เป็นเหตุมาจากคําร้องของคณะกรรมการเลือกตั้งซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ต่อการจัดการการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม องค์กรภาคประชาสังคมก็ตั้งคําถามกับความเป็นอิสระของศาล รัฐธรรมนูญเช่นกัน เพราะมีคําสั่งคสช.ซึ่งขยายเวลาการดํารงตําแหน่งของผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ การตัดสิน ของศาลรัฐธรรมนูญเองก็ถูกมองว่าลําเอียงต่อทหารและพันธมิตรของทหาร ซึ่งรวมถึงข้อเท็จจริงที่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ยื่นคําร้องต่อสมาชิกรัฐสภาคนอื่นๆ 41 คน ซึ่งต่างมีหุ้นในสื่อ กลับไม่มีสมาชิกรัฐภาคนใดถูกสั่งพัก การปฏิบัติหน้าที่

APHR กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวอ้างว่าการปกครองของรัฐบาลทหารได้สิ้นสุดไปแล้ว คดีความจํานวนมาก ที่ดําเนินต่อสมาชิกฝ่ายค้านแสดงให้เห็นว่ายังคงมีการจํากัดเสรีภาพในการแสดงออกและความไม่อดทนอดกลั้น ต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อรัฐบาลและอิทธิพลของทหาร

“ภายใต้การแสดงตนว่าเป็นประชาธิปไตย ระบอบการปกครองซึ่งกดขี่ของไทยยังคงโจมตีสมาชิกฝ่ายค้านด้วยคดี ความเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคอนาคตใหม่ตกเป็นเป้าเพราะผลเลือกตั้งที่น่าตกใจของพรรคและการต่อต้านทหารซึ่ง มีอํานาจ การริบที่นั่งในสภาของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่คือการริบเสียงของผู้ที่ไปเลือกตั้ง การโจมตีพรรคฝ่าย ค้านพรรคใดก็ตามคือการโจมตีโดยตรงต่อเสรีภาพในการพูดและประชาธิปไตย” Eva Sundari อดีตสมาชิก รัฐสภาอินโดนีเซียและสมาชิก APHR กล่าว

ในเดือนสิงหาคม APHR ออกข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทย เรียกร้องให้ผู้มีอํานาจฟื้นคืนประชาธิปไตยและเคารพ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน

APHR กังวลว่าการตัดสินในวันนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนของแนวโน้มและความเป็นไปที่น่ากังวลในระดับภูมิภาคที่ ผู้มีอํานาจพยายามปิดปากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านโดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือและใช้ตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ และ วันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 1000 วันที่สมาชิกวุฒิสภา Leila de Lima ถูกกักตัว

“ข้อหาต่อสมาชิกวุฒิสภา Leila de Lima เป็นข้อหาที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองและเป็นผลมาจากการ ทํางานของเธอในการหยุดสงครามต้านยาเสพติดอันกระหายเลือดของ Duterte ข้อหาทุกอย่างควรถูกยกฟ้อง เธอต้องได้รับการปล่อยตัวทันทีและต้องได้รับอนุญาติให้ทําหน้าที่ในฐานะวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งในสภา ของชาติ” Mu Sochua อดีตสมาชิกรัฐสภากัมพูชาและสมาชิก APHR กล่าว

“สมาชิกรัฐสภากําลังถูกไล่ล่าและจําคุกเพียงเพราะทํางานเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลอํานาจบริหาร และนี่เป็น ภยันตรายต่อทุกคน ในฐานะสมาชิกรัฐสภาด้วยกัน เราจะดําเนินการสนับสนุนในทุกระดับต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่า เพื่อนร่วมงานของเราในระดับภูมิภาคสามารถทํางานโดยปราศจากความกลัวและการถูกโต้กลับ”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net