Skip to main content
sharethis

มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และเครือข่ายร้องศาลรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่กำหนดให้ชายหญิงต่างเพศเท่านั้นสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการเลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน

22 พ.ย. 2562 วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และเครือข่ายร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ครอบครัว บรรพ 6 มรดกขัดกับรัฐธรรมนูญ หรือไม่

สืบเนื่องจากวันที่ 29 พฤศจิกายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันสิทธิความหลากหลายทางเพศ มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และคู่รักเพศเดียวกัน ที่ถูกปฏิเสธสิทธิในการสมรส ถือโอกาสนี้เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การขับเคลื่อนครั้งสำคัญ ด้วยการดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 46 บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงและได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย...โดยต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน...มาตรา 48....ในกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ยื่นคำร้องตามวรรคหนึ่ง หรือไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ผู้ถูกละเมิดมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลได้...

เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ครอบครัว บรรพ 6 มรดก ที่กำหนดให้ชายหญิงต่างเพศเท่านั้นสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย การปฏิเสธให้หญิงรักหญิง ชายรักชาย หญิงข้ามเพศ ชายข้ามเพศ สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นการเลือกปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 27 ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน วรรคสอง ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน วรรคสาม การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคมความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือเหตุอื่นใด จะกระทำมิได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เพิ่มทรัพย์ แซ่อึ้ง พร้อมคู่ชีวิต พวงเพชร เหมคำ จากอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนได้ไปยื่นคำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาว่าการไม่ให้คู่รักหลากหลายทางเพศจดทะเบียนสมรสนั้นขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังจากครบรอบตามกำหนดจากการไปยื่นเรื่องกับผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อใช้กลไกการแก้ไขกฎหมายตามรัฐธรรมนูญอีกช่องทางหนึ่งของภาคประชาชนโดยมีเพื่อนๆ จากภาคีองค์กร/บุคคลจากความหลากหลายทางเพศมาให้กำลังใจ ซึ่งหลังจากยื่นเรื่องคราวนี้แล้ว ก็ต้องรอให้ทางศาลฯ รับเรื่องไว้พิจารณาก่อน แล้วจึงจะตัดสินอีกทีหลังจากนี้ ซึ่งกำหนดเวลาในการพิจารณาตัดสินก็ขึ้นอยู่กับทางศาลรัฐธรรมนูญ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net