Skip to main content
sharethis

โครงการคอสต์ออฟวอร์ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ ตลอดช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 ในปี 2544 จนถึงปัจจุบันว่าเป็นสงครามที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 801,000 ชีวิต และมีราคาที่ต้องจ่ายกว่า 6.4 ล้านล้านดอลลาร์ฯ


ที่มาภาพ: Capt. Charlie Emmons/U.S. Army/Flickr/cc

โครงการคอสต์ออฟวอร์ซึ่งเป็นจากสถาบันวัตสันเพื่อกิจการนานาชาติและสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ นำเสนอรายงานสองฉบับที่ระบุถึงการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากปฏิบัติการ "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เหตุการณ์ก่อการร้ายตึกเวิร์ดเทรดฯ และเพนทากอนวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา โดยระบุว่าได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตอย่างน้อย 801,000 ชีวิต และเกิดความสูญเสียทางทรัพย์สินกว่า 6.4 ล้านล้านดอลลาร์

แคเทอรีน ลุตซ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการคอสต์ออฟวอร์และศาตราจารย์ของมหาวิทยาลัยบราวน์กล่าวว่า จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วเพราะมีสงครามจำนวนมากที่ยังคงเกิดขึ้นและสงครามเหล่านี้ก็ไม่ได้จบลงถึงแม้ว่าทหารสหรัฐฯ จะถอนทัพออกจากพื้นที่เหล่านั้นแล้ว

ลุตซ์ ผู้เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมเขียนรายงายระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิตกล่าวอีกว่า ถึงแม้จะมีทหารเสียชีวิตจากการสู้รบน้อยลงและสหรัฐฯ จะใช้งบประมาณไปกับเรื่องนี้น้อยลงไม่มากนัก ผลกระทบทางการเงินก็จะยังคงเลวร้ายเท่ากับหรืออาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จนถึงขั้นว่าผู้คนอาจจะยังต้องจ่ายให้กับราคาของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายนี้ไปจนถึงยุคศตวรรษที่ 22

ในรายงานที่ชื่อ "ความเสียหายต่อมนุษย์ในสงครามยุคหลัง 9/11" ระบุถึงการเสียชีวิตของผู้คนในพื้นที่สงครามใหญ่ๆ โดยแบ่งออกเป็นหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของพลเรือน, กลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม คนทำงานเอ็นจีโอ นักข่าว ทหารสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ทางการของประเทศที่เกิดสงคราม กองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน รวมถึงแบ่งประเภทตามพื้นที่ 6 พื่นที่คือ อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน, อิรัก, ซีเรียกับพื้นที่ครอบครองของไอซิส, เยเมน และพื้นที่อื่นๆ

ในตำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 800,000 รายนี้ มีเกือบร้อยละ 42 เป็นพลเรือน โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 335,745 ราย และนี้เป็นตัวเลขของการ "เสียชีวิตโดยตรง" เท่านั้น ยังไม่นับการเสียชีวิตด้วยผลกระทบจากสงครามทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการขาดการเข้าถึงอาหารและน้ำ การไม่สามารถเข้าถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือโรคภัยไข้เจ็บที่มีสาเหตุมาจากสงคราม

เดวิด ไวน์ หนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดของคอสต์ออฟวอร์ประเมินว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากสงครามอาจจะมีจำนวนมากกว่าตัวเลขที่เสียชีวิตโดยตรง 4 เท่า นั่นหมายความว่าคนในอัฟกานิสถาน, อิรัก, ซีเรีย, ปากีสถาน และเยเมน อาจจะมียอดเสียชีวิตรวมกันมากถึง 3.1 ล้านราย เทียบกันแล้วมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ ถึง 200 เท่า

ในรายงานอีกฉบับหนึ่งที่มีชื่อว่า "รายจ่ายและหนี้สินงบประมาณสหรัฐฯ จากสงครามยุคหลัง 9/11 ผ่านปีงบประมาณที่ 2563" ระบุเอาไว้ว่าทางการสหรัฐฯ ใช้งบประมาณไปกับสงครามรวมถึง 6.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไวน์ระบุว่าแทนทที่พวกเขาจะนำงบประมาณเหล่านี้ไปใช้กับการพัฒนาโรงเรียน แก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาโลกร้อน หรือพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุขพวกเขากลับใช้มันไปกับสงคราม

ไวน์สรุปว่าทุกครั้งที่ใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ หรือผู้แทนพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้เกิดสงครามไม่จบไม่สิ้นพวกเขาควรจะผลักดันให้รัฐบาลใช้วิธีการทางการทูตเพื่อให้มีการยุติสงครามได้อย่างมีความรับผิดชอบแทนการถอยทัพแต่เพียงอย่างเดียวเช่นกรณีที่เกิดขึ้นจากการถอนทัพในทางตอนเหนือของซีเรีย ไวน์ย้ำอีกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของสหรัฐฯ ในการที่จะฟื้นฟูแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสงครามและทำให้แน่ใจว่าสงครามเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ราคาที่ต้องจ่ายให้กับสงครามเหล่านี้รวมจากค่าใช้จ่ายสำหรับสงครามในต่างแดน ดอกเบี้ยจากการกู้ยืมองค์กรโอซีโอ แผนงบประมาณสงครามของเพนทากอน การดูแลรักษาทางการแพทย์และความพิการของทหารผ่านศึกหลังสงคราม ค่าใช้จ่ายที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิต้องใช้ไปกับการป้องกันและตอบโต้การก่อการร้าย

นอกจากเรื่องความสูญเสียชีวิตและความสูญเสียทางการเงินแล้ว หนึ่งในผู้ร่วมเขียนรายงาน เนตา ครอว์ฟอร์ด ระบุว่าสถาบันใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ยังขาดความโปร่งใสในการรายงานราคาที่ต้องจ่ายให้กับสงคราม อย่างไรก็ตามรายงานขจองพวกเขามีการนำเสนอต่อการประชุมแถลงข่าวที่จัดโดยคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้านการทหาร ลุตส์มองว่าทางการสหรัฐฯ เริ่มใช้เนื้อหารายงานของพวกเขาในกระบวนการตัดสินใจทางนโยบายบ้างแล้ว เช่นในวุฒิสภาซึ่งส่งผลให้มีคำสั่งยกเลิกการใช้กำลังทหารเกิดขึ้นจริง


เรียบเรียงจาก
The So-Called War on Terror Has Killed Over 801,000 People and Cost $6.4 Trillion: New Analysis, Common Dreams, 13-11-2019
https://www.commondreams.org/news/2019/11/13/so-called-war-terror-has-killed-over-801000-people-and-cost-64-trillion-new-analysis

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net