'ชวน หลักภัย' ปธ.สภาฯ แจงเหตุสอบสวนกรณีคุกคามทางเพศใน สนง.เลขาธิการสภาฯ ล่าช้าเพราะ ขรก.หญิงไม่มาชี้แจง ย้ำต้องยึดตาม กม.ไม่ปกป้องใคร ด้าน 'วัชระ เพชรทอง' ระบุ ขรก.หญิง ยืนยันไม่เคยถูกเรียก 

24 พ.ย. 2562 จากกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประพฤติมิชอบ ว่าปัญหาพบว่าผู้ร้องคือนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมมาให้ข้อเท็จจริง แต่กลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้

ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย.) นายชวนได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าอาจจะมีความเข้าใจผิด ซึ่งความคืบหน้าการตรวจสอบ เรื่องเรียน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประพฤติมิชอบนั้น ตนได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง และได้สอบถามฝ่ายตรวจแล้วว่าทำไมถึงล่าช้า แต่ปัญหาพบว่าผู้ร้องซึ่งเป็นข้าราชการหญิงซึ่งอ้างว่าได้รับความเสียหายนั้นไม่ยอมมาให้ข้อเท็จจริง แต่กลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้ เลยต้องส่งให้กรรมการเจ้าของเรื่องพิจารณา หลังจากนี้หากผู้ร้องไม่มาอีกก็ต้องเร่งดำเนินการ

"ยืนยันว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยไม่ละเว้นเพราะต้องยึดความจริง ถ้าที่ร้องมาเป็นความจริงก็ต้องยึดตามกฎหมายไม่อาจไปปกป้องใครได้"

ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของเรื่องร้องเรียน ระบุถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของความล่าช้าในการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงต่อ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่าเนื่องจากผู้ร้องคือตนไม่ได้มาให้ข้อเท็จจริง แล้วกลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้นั้น ถือว่าเป็นความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตนและประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก เพราะความจริงตนได้ไปให้การกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มี นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภาเป็นประธาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. 2562 เวลา 10.15 น. ที่อาคารสุขประพฤติ ตรงกำหนดระยะเวลาตามหนังสือที่คณะกรรมการได้นัดไว้ โดยมีพยานคือ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เป็นพยานได้เพราะไปด้วยกัน และนายวิลาศ ยังเป็นผู้ให้การกล่าวโทษนายสรศักดิ์ เพียรเวช เพิ่มเติมในวันดังกล่าวอีกด้วย ทั้งยังได้ยืนยันความผิดของนายสรศักดิ์ พร้อมส่งพยานเอกสารการคุกคามทางเพศของนายสรศักดิ์ ที่กระทำต่อข้าราชการสุภาพสตรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสรศักดิ์เพิ่มเติมให้กับนายนัฑ ผาสุข รวมทั้งได้ขอคัดค้านกรรมการสืบสวนอย่างมีเหตุผลและมีเอกสารของทางราชการรองรับว่ากรรมการสืบข้อเท็จจริงทุกคนในเรื่องนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับนายสรศักดิ์และได้ส่งพยานหลักฐานเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อกรรมการแต่ละคน ตั้งแต่นายนัฑ ผาสุข ว่าเกี่ยวพันกับนายสรศักดิ์อย่างไร โดยให้เอกสารกับมือของกรรมการทุกคนเป็นรายบุคคลครบทั้งคณะอีกด้วย

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ตนมีพยาน 2 คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การในประเด็นของการคุกคามทางเพศครบทุกถ้อยกระบวนความที่ให้ข้อมูลกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงชุดนี้ ได้เห็นจนสามารถชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของ ก.ร.ได้ทันที และได้ขอให้ทบทวนคำสั่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมดังเหตุผลที่กล่าวมา ซึ่งบัดนี้ได้ครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ทั้งนี้ระหว่างให้ข่าวต่อสื่อมวลชน นายวัชระได้โชว์ภาพของตนเองและของนายวิลาศ ในขณะที่ไปร่วมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการสืบสวนฯชุดที่มีนายนัฑเป็นประธานเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วย และเรียกร้องขอให้ตั้งกรรมการสอบผู้ที่รายงานเท็จต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยด่วน และมีการยื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อนายชวน หลีกภัย ในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ที่สภาผู้แทนราษฎร 

"พวกเขากล้าแม้กระทั่งรายงานเท็จต่อนายชวน หลีกภัย ที่เป็นถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ สำหรับข้าราชการบางคนในยุคสมัยนี้"

นอกจากนี้นายวัชระยังระบุว่าตนได้รับโทรศัพท์จากเลขานายชวนแจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดที่ให้สัมภาษณ์ไปเช่นนั้น และผู้ที่ไม่มาให้ข้อมูลคือข้าราชการหญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ ดังนั้นตนจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้าราชการหญิงคนดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่านับแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ เพื่อไปให้ข้อมูลเลย

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ | ไทยรัฐออนไลน์