หญิงลาวถูกจำคุก 5 ปี ปรับ 20 ล้านกีบ ฐานไลฟ์เฟสบุ๊ควิจารณ์รัฐบาลกรณีเขื่อนแตก

ทางการลาวตัดสินจำคุก 5 ปี ปรับ 20 ล้านกีบหญิงไลฟ์เฟสบุ๊ควิจารณ์ความล่าช้าของรัฐบาลกรณีเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยแตก จนประชาชนเดือดร้อน โดยเป็นโทษที่หนักที่สุดของข้อหาหมิ่นประมาทรัฐบาล องค์กรสิทธิฯ นานาชาติสะท้อน รัฐบาลลาวไม่เปิดรับคำวิจารณ์ใดๆ ขอนานาชาติร่วมประณาม

ห้วยเฮือง ไซยะบูลี (ที่มาภาพ: Facebook/ Houayheuang Xayabouly)

26 พ.ย. 2562 สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียรายงานเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ว่าทางการลาวมีคำสั่งตัดสินจำคุกห้วยเฮือง ไซยะบูลี หรือ หมวย หญิงชาวลาวอายุ 30 ปี ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลลาวบนเฟสบุ๊คไลฟ์กรณีการตัดสินใจล่าช้าหลังเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เมืองสนามไซ แขวงอัตตะปือแตกเมื่อ 23 ก.ค. 2561

หญิงชาวลาวถูกจับกุม หลังโพสต์วิจารณ์รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมช้า

หมวยถูกจับเมื่อ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาหลังวิจารณ์ว่ารัฐบาลลาวตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างล่าช้าจนทำให้ประชาชนถูกทิ้งและตัดขาดซึ่งความช่วยเหลือ ไลฟ์วิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมจำนวนมากกว่า 150,000 ครั้ง หมวยถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาหมิ่นประมาทประเทศตามกฎหมายอาญามาตรา 117 และรับสารภาพระหว่างถูกขังในคุกแขวงจำปาสัก 

นอกจากโทษจำคุก 5 ปีแล้ว หมวยยังถูกปรับเป็นจำนวน 20 ล้านกีบ (ราว 68,200 บาท) โดยทั้งโทษจำคุกและปรับจำนวนดังกล่าวเป็นโทษสูงสุดของข้อหาดังกล่าว 

“สืบเนื่องจากกฎหมายอาญาของลาว เธอ (หมวย) มีความผิดฐานรณรงค์ต่อต้าน หมิ่นประมาท และมุ่งหมายจะโค่นล้มพรรค (คอมมิวนิสต์แห่งประเทศลาว/พรรคประชาชนปฏิวัติลาว) รัฐ และรัฐบาล นั้นคือเหตุผลที่เธอถูกลงโทษเช่นนั้น” เจ้าหน้าที่แขวงจำปาสักกล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย

อันเดรีย จอเกตตา จากสหพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล (FIDH) กล่าวว่าการจำคุกเป็นเวลานานเช่นนั้นเป็นความพยายามทำให้ชาวลาวหวาดกลัวและยอมเชื่อฟังรัฐบาล สะท้อนว่าการวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงออกซึ่งความไม่พอใจใดๆ ที่รัฐบาลรับได้ และเรียกร้องให้ประชาคมนานาประเทศประณามการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลลาว

“พวกเราไม่ได้ตื่นตกใจกับโทษจำคุกที่หนักหนาของหมวยเพราะพวกเราได้เห็นคนอื่นๆ ในลาวถูกจำคุกเป็นเวลาหลายปีเพียงเพราะไปใช้สิทธิแห่งเสรีภาพในการแสดงออกของพวกเขา” 

“ประชาคมนานาชาติควรประณามโทษจำคุกที่ไม่เป็นที่ยอมรับนี้อย่างแข็งขัน เรียกร้องให้ปล่อยตัวหมวยและคนอื่นๆ ที่ถูกคุมขังเพียงเพราะวิจารณ์รัฐบาล นอกจากนั้นยังต้อง (เรียกร้อง) ทำให้มั่นใจว่าโครงการพัฒนาและช่วยเหลือ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนภาคประชาสังคมในลาว” จอเกตตากล่าว

FIDH เคยแถลงข่าวในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 117 ว่ากฎหมายดังกล่าวมีบทลงโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับเป็นเงิน 5-20 ล้านกีบ (ราว 17,000-69,000 บาท) ต่อผู้ที่ "มีกิจกรรมโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านหรือให้ร้ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" หรือส่งต่อข่าวลือที่เป็นเท็จ สร้างความไม่เป็นระเบียบด้วยคำพูด การเขียน ตีพิมพ์ โดยสื่อหนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ วิดีโอ ภาพถ่าย เอกสาร หรือสื่ออื่นๆ ซึ่งจะก่อเกิดความเสียหายต่อลาว หรือมีเจตนาเพื่อบ่อนทำลายหรือทำให้อำนาจทางการอ่อนแอลง

ในหน้าเฟสบุ๊คของ Xayabouly Houayheuang มีการระบุถึงเรื่องเกี่ยวน้ำท่วม และการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายโพสต์ สำหรับวิดีโอไลฟ์สดวิจารณ์รัฐบาลลาวนั้นมีผู้ชมแล้วมากกว่า 161,000 วิว และมีผู้คนแสดงความคิดเห็น มีปฏิกิริยาโต้ตอบและแชร์ต่อในหลักพัน

ในวิดีโอห้วยเฮืองพูดว่า ในสภาพการณ์ฉุกเฉินตอนนี้เธอยังไม่ต้องการอาหารและน้ำดื่ม แต่เมื่อวันที่ 4 ก.ย. มีน้ำไหลบ่าอย่างหนักทำให้ผู้คนต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ทำไมทางการถึงไม่มีเฮลิคอฟเตอร์ช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้ เธอกล่าวอีกว่าเธอไม่สามารถทนเงียบต่อไปได้อีกแบบในอดีต ยุคสมัยที่รัฐบาลทำให้ผู้คนปิดตาปิดปากได้จบลงแล้ว

การจับกุมห้วยเฮืองเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่มีกรณีการหายตัวไปของ อ็อด ไชยะวง นักกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยชาวลาวที่อาศัยอยู่ในไทย เขาเคยร่วมการประท้วงเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในลาวโดยเฉพาะกับคนที่เป็นเหยื่อการรุกไล่ยึดที่ดินทำกินโดยรัฐบาลและคนที่เป็นเหยื่ออุทกภัยเพราะเขื่อนถล่นและต้องอาศัยอยู่ในที่พักพิงโทรมๆ โดยไม่มีอะไรให้หาเลี้ยงตัวเองได้ นอกจากนี้ยังเคยเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวคนงานลาว 3 คนที่ถูกตัดสินจำคุกในปี 2560 เพราะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

UN กังวลกรณีผู้ลี้ภัยลาวหายตัวในไทยไม่คืบ ขอให้รัฐบาล 2 ชาติชี้แจงเพิ่มเติม

มีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าวิกฤตโลกร้อนทำให้อากาศในแถบภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีฤดูแล้งที่ยาวนานขึ้นรวมถึงมีพายุหนักขึ้นหลังจากนั้น มีการประเมินจากศูนย์ประสานานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์อาเซียนประเมินว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 572,000 ราย จากการสำรวจจนถึงวันที่ 11 ก.ย. และมีอย่างน้อย 14 รายที่เสียชีวิตจากอุทกภัย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท