Skip to main content
sharethis

'กรมป่าไม้' เปิดโอกาสรังวัดที่ดินใหม่ นักวิชาการตั้งคำถาม 'ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา จะได้รับโอกาสแบบนี้มั้ย' 
'วีระ' ร้อง กมธ.ป.ป.ช.ติดตามตรวจสอบ 'เรืองไกร' เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบ 'สิระ' แจ้งบัญชีราคาที่ดิน ขณะที่ 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบ 3 ส.ส.รัฐบาลถือครองที่ดิน ภ.ท.บ.5
 

27 พ.ย.2562 ความคืบหน้ากรณีที่ดินเขาสนฟาร์มบุกรุกป่าหรือไม่ของ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จน ปารีณา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ และเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ขอให้ตรวจสอบเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตปฏิรูปที่ดิน โดยยืนยันว่าครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวโดยสุจริตและเปิดเผยเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว รวมทั้งยังอ้างแผนที่ตรวจสอบคลาดเคลื่อน จนต่อมาวานนี้ (26 พ.ย.62) กรมป่าไม้ ยอมรังวัดแนวเขตที่ดินป่าสงวนของเขาสนฟาร์ม อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นั้น

วันนี้ (27 พ.ย.62) ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งคำถามถึงมาตรการของรัฐต่อ ปารีณา ผ่านเฟสบุ๊ค 'Chainarong Setthachua' ว่า ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา จะได้รับโอกาสแบบนี้ไหม ตอนปฏิบัติกับชาวบ้านมีทั้งลวงชาวบ้านทั้งหมู่บ้านว่าจะให้สิทธิในที่ดินทำกินและให้ยืนแปลง จับจีพีเอส เอาไปเป็นหลักฐานดำเนินคดีเพื่อเอาชาวบ้านเข้าคุกให้ได้ จนชาวบ้านติดคุกระนาว เช่น ที่บ้านจัดระเบียบ อ.ภูพาน จ.สกลนคร หรือการบีบบับคับข่มขู่ให้ยอมรับสารภาพว่าบุกรุกและให้เซ็นคืนที่ดินเพื่อนำไปเป็นหลักฐานจับชาวบ้านขังคุก ดังกรณีของอุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ บางกรณีสนธิกำลัง บังคับอพยพ และเผาบ้านเรือน ดังกรณีของปู่คออี้และกะเหรี่ยงที่แก่งกระจาน

"ผมสรุปได้แค่ว่าการปฏิบัติการของรัฐกรณีป่าไม้ที่ดินคือการที่รัฐก่ออาชญากรรมกับคนจน และคนจนไม่มีโอกาสที่จะร้องขอความเป็นธรรม นอกจากเดินเข้าคุก ถูกยึดที่ดิน ถูกโค่นยางพารา ถูกเผาบ้าน และบังคับให้อพยพ" ไชยณรงค์ โพสต์

'กรมป่าไม้' เปิดโอกาสรังวัดที่ดินใหม่

วานนี้ (26 พ.ย.62)  ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วได้รายงานต่อ วราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และมอบหมายให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ดินเขาสนฟาร์ม ของน.ส.ปารีณา ชุดของกรมป่าไม้ให้ประสานกับทาง สปก.พิจารณาตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด เพื่อความรอบคอบ และเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันมากที่สุด

อรรถพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เร่งประสานกับทางสปก. ให้เร่งตรวจสอบและเข้าไปรังวัดที่ดินทั้งในส่วนของกรมป่าไม้ และของสปก.อีกรอบ โดยให้ทำงานให้สั้นที่สุด และอาจจะลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อยืนยันเอกสาร

“การที่ต้องรีเช็กตรวจแนวเขตที่ดินใหม่ ไม่ได้ซื้อเวลาแต่เพื่อให้ความเป็นธรรมตามที่น.ส.ปารีณา ระบุมา เพราะเรื่องนี้จะมีผลต่อการดำเนินคดีด้วย ถ้าไม่ตรวจให้ชัดเจนก่อน ซึ่งรายงานนายวราวุธ แล้ว ว่าอาจต้องเลื่อนการแจ้งความแต่คงไม่ให้ช้าเกินไป” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

'วีระ' ร้อง กมธ.ป.ป.ช.ติดตามตรวจสอบ

วันนี้ สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นคำร้องต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบและติดตามการดำเนินคดีการบุกรุกป่าสงวนกว่า 1,700 ไร่ของ ปารีณา เนื่องจากเป็น ส.ส.ของพรรคแกนนำรัฐบาลที่มีอิทธิพล อาจทำให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ประกอบกับมีพฤติการณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวเกษตรและสหกรณ์ ที่ส่อว่าอาจจะมีความพยายามช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญา เช่นเดียวกับที่มีการตรวจพบการครอบครองที่ดินเพียง 691 ไร่ ทั้งที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุเองว่ามีการครอบครองกว่า 1,700 ไร่ ตอนนี้กลับลดลง ดังนั้นใครพูดอะไรไว้ทุกอย่างได้ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว

“ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส สั่งการให้กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.ไปรังวัดพื้นที่ใหม่อีกครั้งก็ขอให้ทำอย่างถูกต้อง เพราะถ้าวัดแล้วกลายเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ตามที่มีคนอยากให้เป็น เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ปารีณา ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบก็เตรียมรับผลการกระทำ อย่าคิดว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วจะไม่มีใครทำอะไรได้ รัฐมนตรีอย่าคิดว่าจะไม่ติดคุก” วีระ กล่าว

วีระ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่มีความพยายามทำให้พื้นที่ป่าสงวนที่มีการบุกรุก กลายเป็นพื้นที่ ส.ป.ก เพื่อไม่ให้ น.ส.ปารีณา ได้รับโทษทางอาญา เพราะขณะนี้พนักงานสืบสวนคดีนี้รู้สึกอึดอัด เพราะมีข่าวการแทรกแซงจากผู้บังคับบัญชาในระดับสูง ส่วนตัวมั่นใจหากพนักงานสอบสวนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา จะทำให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน จึงขอให้กรรมาธิการฯ เร่งตรวจสอบเรื่องนี้

'เรืองไกร' เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบ 'สิระ' แจ้งบัญชีราคาที่ดิน

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ สิระ เจนจาคะ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ พบว่ามีพิรุธเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน ที่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 2 แปลง ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี โดยเป็นที่ดินที่อยู่ติดกันแปลงละ 50 ไร่ แต่กลับมีการแสดงราคาต่อ ป.ป.ช.แตกต่างกันถึง  90 ล้านบาท  เเปลงเเรก คือ เลขที่ 97 แสดงราคา 100,000,000 บาท และแปลงที่ 2  เลขที่ 98 แสดงราคา 10,000,000 บาท จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดราคาจึงแตกต่างกันถึง 90,000,000 บาท

"เรื่องนี้เหตุอันควรสงสัยที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบตามหน้าที่และอำนาจต่อไปว่า การยื่นบัญชีที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นของคู่สมรสของนายสิระ เป็นไปโดยความถูกต้องครบถ้วนตามความใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 114 ประกอบมาตรา 105 และมาตรา 110 หรือไม่" เรืองไกร กล่าว

ศรีสุวรรณร้อง ป.ป.ช.สอบ 3 ส.ส.รัฐบาลถือครองที่ดิน ภ.ท.บ.5

สำนักข่าวไทย ยังรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน (27 พ.ย.62) ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช .ตรวจสอบเอาผิด สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กรณีครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 2 แปลงรวม 200 ไร่  ใน หมู่ที่ 8 ต.ห้วยยูง  จ.กระบี่ เกียรติ เหลืองขจรวิทย์  ส.ส. ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. 3 จำนวน 67 แปลงและที่ดิน ภ.ท.บ. 5 จำนวน 13  แปลง  133 ไร่  และ อนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ มีที่ดิน ภ.ท.บ. 5 จำนวน 2 แปลง 498 ไร่   ซึ่งน่าจะขาดคุณสมบัติของการมีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายในทางทุจริตต่อหน้าที่ และขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่   จากการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.ของ ส.ส.ทั้ง 3 คน กรณีเข้ารับตำแหน่งปรากฏชัดเจนว่ามีทรัพย์สินและมีรายได้ต่อปีเป็นจำนวนมาก จึงเป็นการขัดต่อพ.ร.ฎ กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกรปี 2535  และขัดต่อมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่กำหนดอัตรารายได้ของผู้ยากไร้ไว้ คือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปีเท่านั้น

ดังนั้น ส.ส.ทั้ง 3 คน ถือเป็นตัวแทนประชาชนฝ่ายนิติบัญญัติย่อมรู้ตัวว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติของการได้สิทธิ์ในการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. และ ภ.ท.บ. 5 มาตั้งแต่ต้น แต่กลับไม่ยอมสละที่ดินดังกล่าวคืนให้รัฐ เพื่อนำไปจัดสรรให้กับผู้ยากไร้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เท่ากับว่าอาจมีเจตนาที่จะทุจริตต่อหน้าที่ตาม กฎหมายป.ป.ช. พ.ศ.2561 และอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรงในข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 9 และยังเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักในข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 17 และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมทั่วไปในข้อ 21 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 บัญญัติ

ศรีสุวรรณ กล่าวว่า จะยื่นคำร้องไปยังกรมป่าไม้ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.). ให้เอาผิด ส.ส.ทั้งหมดที่ตนยื่นคำร้อง ต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบส.ส.เพิ่มเติมอีก 2-3 คน ที่น่าจะเข้าข่ายกรณีเดียวกัน ซึ่งตนจะเดินทางไปร้องให้ตรวจสอบในคราวเดียวกันด้วย   จาก ส.ส.ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติย่อมรู้ตัว  กฎหมายไม่ได้ประโยชน์ให้เข้าครอบครอง หรือเข้ามาทำกินในที่ดินของรัฐ แต่เมื่อยึดถือและครอบครอง ก็ถือว่ามีเจตนาที่จะละเมิดฝ่าฝืนกฎหมาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net