Skip to main content
sharethis

เผยเส้นทางค้ามนุษย์เวียดนาม-อังกฤษ หลังโศกนาฎกรรมดับ 39 ศพในตู้คอนเทนเนอร์

ชายคนหนึ่งในหมู่บ้านในชนบทห่างไกลทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม รู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจว่า หนึ่งใน 39 ศพที่พบในตู้คอนเทนเนอร์ในประเทศอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจจะเป็นลูกชายของเขา ที่ต้องการไปทำงานหาเงินในประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกับคนอีกจำนวนมากในหมู่บ้านที่ไปเป็นแรงงานต่างด้าว

ทางการเชื่อว่า ชาวเวียดนามที่ต้องการอพยพเข้าประเทศอังกฤษอย่างผิดกฎหมาย ต้องเดินทางเป็นระยะทางกว่า 9,000 กิโลเมตร จากเวียดนาม เข้าสู่ประเทศจีน รัสเซีย และทวีปยุโรป ก่อนจะข้ามช่องแคบเข้าสู่ประเทศอังกฤษจากท่าเรือ ซีบรูเกอะ (Zeebrugge) ประเทศเบลเยียม

ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียของ ฮิวแมนไรต์ วอตช์ กล่าวว่า ความต้องการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ และประเทศที่มั่งคั่งอื่น ๆ ในยุโรปได้กลายเป็นแหล่งทำเงินชั้นดีของแก๊งค์ลักลอบค้ามนุษย์ กลุ่มคน หรือแก๊งค์ค้ามนุษย์เหล่านี้มีเส้นสายภายในอย่างดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ และมีการคอรัปชั่น ทำให้พวกเขาสามารถลักลอบขนแรงงานจากเวียดนามเข้ายุโรปได้

โรเบิร์ตสันบอกว่าหลายครอบครัวยอมจ่ายเงินให้แก๊งค์ค้ามนุษย์ประมาณ 30,000-40,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 900,000 ถึง 1,200,000 บาท

ส่วน เปาโล คัมพาน่า ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์บอกว่า การลักลอบนำคนเข้าเมือง ไม่มีผู้บงการคนใดคนหนึ่งที่ควบคุมทุกอย่าง แต่จะมีกลุ่ม แก๊ง หรือหน่วยงานย่อย ๆ ที่ตั้งกันขึ้นมาเอง คอยควบคุมแต่ละขั้นตอนของการลักลอบนำคนเข้าเมือง ซึ่งบางแก๊งเก็บค่าบริการสูงกว่าที่อื่น และโฆษณาว่าพวกเขาดูแลแรงงานต่างด้าวดีกว่าที่อื่นด้วย

คัมพาน่าบอกว่า แรงงานที่ต้องการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ต้องตัดสินใจเองว่าจะเชื่อแก๊งค์ไหน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากและเต็มไปด้วยความเสี่ยง เพราะข้อมูลที่พวกเขาได้รับ มักจะมาจากการบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น

เมื่อมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว แรงงานที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ก็มักจะลงเอยในธุรกิจสีเทา หรืออุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมาย

แทมซิน บาร์เบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้พลัดถิ่นชาวเวียดนามในประเทศอังกฤษ บอกว่า ชาวเวียดนามหลายคนยอมรับความเสี่ยงเพื่อจะมาอังกฤษ พวกเขาเชื่อว่า เมื่อมาถึงแล้ว จะสามารถได้งานในไร่กัญชา ที่ให้ค่าตอบแทนสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ

บางคนได้งานในธุรกิจทำเล็บ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอังกฤษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บ้างทำงานในธุรกิจร้านอาหาร เป็นพนักงานทำความสะอาด ในขณะที่บางคนต้องทำงานเป็นโสเภณี และถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้งานทำ หลายคนต้องติดอยู่ในกับดัก ถูกใช้แรงงานอย่างหนักและไม่เป็นธรรม ไม่ต่างจากทาส

ฟิล โรเบิร์ตสัน แห่งฮิวแมนไรต์ วอตช์ กล่าวว่าค่าจ้างของพวกเขามักจะต้องถูกหักไปใช้หนี้สิน หรือนำไปชำระเงินกู้ที่พวกเขาหยิบยืมมา เพื่อจ่ายให้แก๊งค์ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ก่อนที่จะส่งเงินที่เหลือกลับไปให้ครอบครัวที่เวียดนาม

หากพวกเขาไม่เชื่อฟัง หรือไม่ทำตามคำสั่งของแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ครอบครัวที่เวียดนามก็มักจะต้องเป็นผู้ชดใช้ แรงงานต่างด้าวเหล่านี้จะอยู่อย่างหวาดกลัว พวกเขาไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัวว่าจะถูกจับ หรือถูกส่งกลับประเทศ โดยที่ยังมีหนี้สินกองโตที่ยังชดใช้ไม่หมด

เขามองว่าการหาความยุติธรรมให้กับผู้อพยพเข้าเมืองที่เสียชีวิตในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของยุโรปแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ควรจะกดดันให้เวียดนามเข้ามาจัดการกับกระบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากภายในประเทศด้วย

ในขณะเดียวกัน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ร่วมมือปรับปรุงและหาช่องทางที่ปลอดภัยสำหรับการเคลื่อนย้ายแรงงาน แทนที่จะมุ่งกดดันหรือโยนความผิดให้ผู้อพยพเข้าเมืองเพียงฝ่ายเดียว

ILO แนะว่าหากประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกัน จะทำให้การจับคู่ระหว่างประเทศที่ขาดแคลนแรงงานกับแรงงานต่างด้าวเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ควรจะโยกค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการขนย้ายแรงงานให้เป็นภาระของผู้ว่าจ้างมากขึ้น ออกมาตรการที่จะทำให้การอพยพเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายมีราคาถูกลงและสลับซับซ้อนน้อยลง

หากประเทศต่าง ๆ ยังมองว่าการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เป็นปัญหาและภาระของผู้อพยพเพียงฝ่ายเดียว ก็ยิ่งจะทำให้แรงงานต่างด้าวถูกบีบให้ต้องหันไปพึ่งแก๊งค้ามนุษย์มากขึ้น และแบกรับความเสี่ยง ที่อาจนำไปสู่จุดจบในชีวิตของใครอีกหลายคน

ที่มา: VOA, 1/11/2019

ไต้หวันทลายแก๊งหลอกคนงานต่างชาติเปิดซิมแบบเติมเงินฟรี

หน่วยต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กรมคดีอาญาของไต้หวัน แต่ละเดือนสั่งปิดเลขหมายโทรศัพท์ที่มีปัญหานับร้อยเบอร์ แต่จากการวิเคราะห์และตรวจสอบพบว่า มีร้านขายซิมโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินหรือพรีเพดการ์ด อาศัยวิธีแจกฟรีแก่แรงงานต่างชาติ แล้วขอถ่ายเอกสารสำคัญ ซึ่งสามารถนำไปยื่นขอเปิดซิมจากค่ายโทรศัพท์ได้ถึง 5 ค่าย ค่ายละ 1 เบอร์ แต่แจกคืนให้แรงงานต่างชาติเพียงเบอร์เดียว อีก 4 เบอร์นำไปขายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคาเบอร์ละ 1,500-3,000 เหรียญ ตำรวจทลายแก๊งแจกซิมฟรี จับชาวเวียดนามที่เป็นหัวโจกพร้อมพวก 12 คน จ้างแรงงานหญิงเวียดนามเป็นพนักงานเร่แจกซิมตามที่ต่างๆ แล้วนำเอกสารสำคัญของเหยื่อไปยื่นขอเปิดซิมจากค่ายโทรศัพท์เดือนละกว่า 10,000 เลขหมาย ยึดของกลางเป็นซิมการ์ดค่ายต่างๆ ที่ยังไม่ได้แจก 2,000 ใบ หากนำไปขายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะได้เงินไม่ต่ำกว่า 3 ล้านเหรียญไต้หวัน

โฆษกตำรวจแถลงว่า จากการวิเคราะห์เลขหมายโทรศัพท์ที่มีปัญหาพบว่า นายหยิน อายุ 45 ปี อดีตแรงงานชาวเวียดนาม ต่อมาแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันตั้งรกรากอยู่ในนครเถาหยวนและยึดอาชีพขายซิมโทรศัพท์มือถือแก่เพื่อนร่วมชาติ โดยร่วมมือกับนายหลิน อายุ 42 ปี ชาวไต้หวัน จ้างหญิงเวียดนามทั้งผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และที่เป็นแรงงานต่างชาติหลบหนีจากนายจ้างจำนวนมาก เร่แจกซิมโทรศัพท์มือถือฟรี ตามโรงพยาบาลในนครเถาหยวนและไทจง สถานที่ชุมนุมของแรงงานต่างชาติ อาทิ ร้านค้าหน้าหรือหลังสถานีรถไฟในเมืองต่างๆ โดยหลอกล่อให้แรงงานต่างชาติว่าเป็นซิมแจกฟรีแถมค่าโทรศัพท์ 50-100 เหรียญ โดยผู้รับต้องแสดงบัตรประจำตัวสำคัญ 2 ใบ ส่วนใหญ่ได้แก่บัตรถิ่นที่อยู่หรือ ARC และบัตรประกันสุขภาพ พนักงานหญิงชาวเวียดนามจะนำไปสแกนหรือใช้มือถือถ่ายเก็บไว้ จากนั้นนำไปยื่นขอเปิดซิมจากค่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ค่าย ค่ายละ 1 เลขหมาย แต่แจกคืนให้แรงงานต่างชาติเพียงเบอร์เดียว ที่เหลืออีก 4 เบอร์นำไปขายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคาเบอร์ละ 1,500-3,000 เหรียญ

ตำรวจตรวจพบว่า นายหยินยึดอาชีพธุรกิจโทรศัพท์มาเป็นเวลานานถึง 10 ปีแล้ว ปัจจุบัน จ้างคนชาติเดียวกัน ซึ่งมีตั้งแต่หญิงเวียดนามที่มาแต่งงานหรือที่เรียกกันว่าผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ รวมถึงแรงงานหญิงเวียดนามที่หลบหนีนายจ้างหลายสิบคน ไปเร่แจกซิมฟรีแก่แรงงานต่างชาติ แล้วนำหลักฐานของคนงาน รวมกับใบยื่นขอเปิดซิมจากค่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ค่าย ซึ่งมีทั้งที่คนงานลงนามเองและที่พนักงานเซ็นชื่อแทน ซึ่งเป็นการปลอมแปลงเอกสาร ประมาณ 10,000 เลขหมายต่อเดือน ตำรวจกำลังตรวจสอบแหล่งที่ไปของเลขหมายโทรศัพท์เหล่านี้ คาดว่าจะเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ที่มา: Radio Taiwan International, 1/11/2019

McDonald's ปลด CEO หลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพนักงาน

บริษัทร้านอาหารจานด่วน McDonald's แถลงปลด Steve Easterbrook จาก CEO บริษัท ตามที่คณะกรรมการบริการลงมติว่าเขาได้ละเมิดนโยบายบริษัทและไร้วิจารณญาณจากการทความสัมพันธ์แบบยินยอมพร้อมใจกับพนักงานคนหนึ่ง บริษัทขอยืนยันว่า การปรับเปลี่ยนตำแหน่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผลประกอบหรือฐานะการเงินของบริษัทแต่อย่างใด ทั้งนี้มีอีเมลถึงพนักงาน McDonald's ว่าความสัมพันธ์ของ Easterbrook กับพนักงานเป็นความผิดพลาดที่ละเมิดนโยบายบริษัท และเพื่อให้เป็นไปตามค่านิยมของบริษัท Easterbrook เห็นพ้องกับคณะกรรมการว่าสมควรลาออกจากตำแหน่ง

ที่มา: businessinsider.com, 5/11/2019

Microsoft ญี่ปุ่นให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ กระตุ้นผลงานดีขึ้น 40%

สำนักงานของบริษัท Microsoft ในญี่ปุ่น ชูผลสำเร็จหลังจากเปิดโอกาสให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ช่วยกระตุ้นผลงานเพิ่มขึ้น 40% ตามรายงานของ CNN และ Forbes

Microsoft ญี่ปุ่น เริ่มต้นโครงการ Work Life Choice Challenge เมื่อเดือน ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ และให้หยุดงานในวันศุกร์เพิ่มอีก 1 วัน พบว่า พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 40% ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทยังใช้ไฟฟ้าลดลง 23% ใช้กระดาษพิมพ์เอกสารลดลง 59% และเมื่อถามความเห็นพนักงานพบว่ากว่า 90% ชอบที่จะทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มากกว่าทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งสอดรับกับการศึกษาแนวคิด Work-life Balance ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ทาง Microsoft ญี่ปุ่น จะทำการทดลองปรับสมดุลการทำงานนี้อีกครั้งในช่วงฤดูหนาวปีนี้ โดยคงเวลาการทำงานไว้ที่ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมการทำงานที่โหดร้าย ซึ่งเรียกว่า คาโรชิ หรือ การเสียชีวิตเพราะทำงานหนักเกินไป หลังจากเหตุพนักงานบริษัทญี่ปุ่นฆ่าตัวตายในวันคริสต์มาสเพราะทำงานล่วงเวลามากเกินไป เมื่อปี 2015 และเหตุการณ์คล้ายกันอีกครั้งเมื่อปี 2017 ทำให้ผู้นำญี่ปุ่นออกมาตรการปฏิรูปการทำงานในญี่ปุ่น ด้วยการจำกัดชั่วโมงทำงานล่วงเวลาไม่ให้เกิน 720 ชั่วโมงต่อปี และการปรับวิถีการทำงานจาก 5 วันเป็น 4 วันต่อสัปดาห์ในบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง

ที่มา: VOA, 6/11/2019

กลุ่ม NGO เรียกร้องรัฐบาลไต้หวันห้ามเรือประมงจ้างลูกเรือในต่างประเทศ เนื่องจากตกเป็นเครื่องมือขบวนการค้ามนุษย์ได้ง่าย

แนวร่วมกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนลูกเรือประมงต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่ม NGO ของไต้หวัน กล่าวเรียกร้องว่า การว่าจ้างลูกเรือประมงในต่างประเทศโดยตรง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน เป็นต้นเหตุของฆาตกรรมกลางทะเลและเป็นเครื่องมือของขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะลูกเรือประมงจากประเทศอาเซียน ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด ดังนั้นไต้หวันควรจะปฏิบัติตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 188 หรือ C188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมงโดยเร็ว เพื่อยกมาตรฐานกฎหมายให้เทียบเท่าระดับสากล จึงจะช่วยคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของแรงงานต่างชาติอย่างเต็มที่ได้ตามความคาดหวังของนานาชาติ

แนวร่วมกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนลูกเรือประมงต่างชาติยังระบุว่าองค์การแรงงานระหว่างประเทศได้จัดการประชุมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ลูกเรือประมง หรือโครงการ Sea forum for Fisher ณ เกาะบาหลี อินโดนีเซีย เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเรียกร้องรัฐที่เป็นเจ้าของตลาดและรัฐที่เป็นเจ้าของเรือ จะต้องนำอนุสัญญา C188 ว่าด้วยแรงงานประมงทะเลเป็นพื้นฐานในการปรับแก้กฎหมายเพื่อกำหนดแนวทางและแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาแรงงานบังคับและค้ามนุษย์ในงานด้านประมง ภายในเวลา 1 ปี จึงเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานดำเนินการปรับแก้กฎหมายตามอนุสัญญา C188 ด้วย

ที่มา: Radio Taiwan International, 8/11/2019

'Dell' ตั้งเป้าต้องมีพนักงานหญิง 50% ภายในปี 2030

บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่า 'Dell' ออกแถลงการณ์ตั้งเป้าหมายว่าจะจ้าง พัฒนา และรักษาพนักงานเพศหญิงไว้ ให้ภายในปี 2030 พนักงานทั่วโลกมีสตรีคิดเป็นสัดส่วน 50% ของพนักงานบริษัท และในตำแหน่งระดับผู้จัดการจะต้องเป็นผู้หญิง 40%  โดยในปัจจุบัน ข้อมูลรายงานความหลากหลายและการมีส่วนร่วมปี 2019 พนักงานหญิงทั่วโลกของ Dell คิดเป็นสัดส่วน 30% และ 23% อยู่ในระดับหัวหน้า

ที่มา: CNET, 12/11/2019

พนักงาน McDonald’s ในอังกฤษเรียกร้องขอค่าแรงให้พ้นจากระดับยากจน

พนักงานของร้าน McDonald’s ในกรุงลอนดอนหกแห่ง รวมทั้งในเมืองอื่น ๆ ของอังกฤษหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าแรงที่สามารถช่วยให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ การประท้วงของพนักงาน McDonald’s ในอังกฤษนี้มีขึ้นพร้อมกับการประท้วงในสหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมันนี บราซิล และชิลี โดยคนงานของ McDonald’s ในอังกฤษต้องการให้ขึ้นค่าจ้างเป็น 15 ปอนด์ต่อชั่วโมง หรือมากกว่าระดับที่ได้อยู่ในปัจจุบันราว 30% ทั้งนี้เพื่อให้พ้นจากระดับค่าแรงที่ยากจน

นอกจากนั้น พนักงานของ McDonald’s ยังต้องการให้มีการประกันเวลาทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับผลัดทำงานสี่สัปดาห์ และให้ทางบริษัทยอมรับสถานะของสหภาพแรงงานของพวกตนด้วย

ที่มา: VOA, 13/11/2019

กระทรวงแรงงานไต้หวันยืนยัน การนำเข้าแรงงานภาคเกษตรไม่ได้หยุดชะงักตามข่าวลือ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ แรงงานไทยอาจเป็นชุดแรก

เพื่อจะแก้ไขภาวะขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตร กระทรวงแรงงานได้อนุมัติโครงการทดลองนำเข้าแรงงานต่างชาติภาคการเกษตร 2 ประเภท ประเภทละ 400 คน ได้แก่ฟาร์มโคนมและจ้างเหมาบริการภาคเกษตร ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ปีนี้ แต่เนื่องจากภาคการเกษตรเป็นงานใหม่ ประเทศผู้ส่งออกยังลังเลเกี่ยวกับสัญญาจ้างงาน ส่งผลให้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีแรงงานชาติใดเดินทางมาทำงานในภาคการเกษตรเลยแม้แต่คนเดียว จึงมีข่าวลือว่า การนำเข้าแรงงานภาคเกษตรหยุดชะงัก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสวี่หมิงชุน รมว. กระทรวงแรงงานแถลงว่า ประเทศผู้ส่งออกแรงงานต้องการจะคุ้มครองสิทธิประโยชน์แรงงานของตน จึงมีความจำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจ้างงานเกษตรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สำนักงานแรงงานไทยและอินโดนีเซีย ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปดูฟาร์มโคนมและพื้นที่เกษตรแล้ว ขณะนี้มีนายจ้างผ่านการรับรองเอกสารการจ้างแรงงานไทยมาทำงานในฟาร์มโคนมไปแล้วหลายราย คาดว่าจะมีแรงงานไทยเดินทางมาทำงานในภาคการเกษตรในไต้หวันเป็นชุดแรกในไม่ช้านี้ ขณะที่อินโดนีเซียกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาสัญญาจ้าง ส่วนเวียดนามและฟิลิปปินส์ตกลงจะอนุญาตให้แรงงานของตนเดินทางมาทำงานในภาคการเกษตร อยู่ในขั้นตอนปรับปรุงสัญญาจ้าง

ที่มา: Radio Taiwan International, 15/11/2019

เวียดนามแก้กฎหมายแรงงานปรับเพิ่มอายุเกษียณ

เวียดนามได้แก้กฎหมายแรงงานปรับเพิ่มอายุเกษียณจากเดิมที่ 60 ปี สำหรับผู้ชาย และ 55 ปีสำหรับผู้หญิง เปลี่ยนเป็น 62 ปี และ 60 ปี ตามลำดับ โดยกฎหมายแรงงานดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 ม.ค. 2021 นอกจากนี้ ตำแหน่งงานที่สามารถเกษียณก่อนกำหนดได้ อนุญาตสำหรับผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายหรือทำงานที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก นแกจากนี้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในระดับสูงสามารถเกษียณได้ไม่เกิน 5 ปี หลังอายุเกษียณตามจริง

ที่มา: xinhuanet.com, 21/11/2019

WeWork ประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 2,400 คน

บริษัทสตาร์ทอัพชื่อดัง WeWork ประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 2,400 คน เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายขององค์กร ทั้งนี้ WeWork ระบุว่าพนักงานที่ถูกปลดจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย รวมถึงจะได้รับความช่วยเหลือต่างๆ สำหรับการหางานใหม่

ที่มา: CNN, 21/11/2019

ผลสำรวจชี้พนักงานในอังกฤษ 2 ใน 5 ราย เคยโกหกว่าป่วยเพื่อลางาน

Com Res เผยผลสำรวจคนอังกฤษจำนวน 2 ใน 5 ราย มักจะโกหกเพื่อลาป่วย นอกจากนี้สำนักสถิติแห่งชาติเผยว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนทำงานมักจะลาป่วยอย่างน้อยปีละ 4 วัน (ตัวเลขนี้ยังไม่รวมจำนวนวันป่วยหลอก) และเหตุผลที่พวกเขาใช้เมื่อต้องการหยุดงานในปี 2018 คือ เป็นหวัด ปวดหลัง มีปัญหาทางจิตใจ เป็นต้น แบบสำรวจนี้ สอบถามคนที่มีอายุเกินกว่า 16 ปี จำนวน 3,655 ราย

ที่มา: BBC, 21/11/2019

ILO ชวนทั่วโลกยุติความรุนแรงทางเพศในที่ทำงาน

25 พ.ย. 2019 เนื่องในวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล ILO ชวนทั่วโลกยุติความรุนแรงทางเพศในที่ทำงาน ร่วมกันหยุดพฤติกรรมนี้ในที่ทำงาน และรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 190

"ความรุนแรงและการล่วงละเมิดถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดข้อหนึ่งในการทำงาน ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ อีกต่อไป มาทำงานร่วมกันและรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 190 กันเถอะ" เลขาธิการ ILO กล่าว

“เนื่องในวันสากลนี้ โลกกำลังยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาการข่มขืน การใช้ความรุนแรงและการคุกคามผู้หญิงทุกรูปแบบ การใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงเป็นหนึ่งในรูปแบบการเลือกปฏิบัติที่เป็นปัญหาแพร่หลายที่สุด เป็นการบ่อนทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเสรีภาพของผู้หญิง

ความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกของการทำงานไม่คำนึงถึงอาชีพหรือตำแหน่ง ไม่มีการยกเว้นประเทศ ภาคส่วนหรืออาชีพใดๆ

การใช้ความรุนแรงและการล่วงละเมิดสามารถและต้องยุติลง เมื่อเดือน มิ.ย. 2019 รัฐบาลและองค์กรของนายจ้างและแรงงานจากทั่วโลกได้รับรองอนุสัญญาความรุนแรงและการล่วงละเมิด (ฉบับที่ 190) และข้อแนะประกอบ (ฉบับที่ 206) เป็นครั้งแรกที่เรามีข้อตกลงระหว่างประเทศที่กำหนดสิทธิของคนทำงานทุกคนให้ปราศจากการถูกใช้ความรุนแรงและล่วงละเมิด ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นรูปธรรมและปฏิบัติจริง

ดังนั้น ในวันสากลนี้ เพื่อขจัดความรุนแรงต่อสตรี ILO จึงขอเรียกร้องให้มีการรับรองอนุสัญญาฉบับนี้ให้กว้างขวางที่สุด เพราะการรับรองจะช่วยเร่งดำเนินการในประเทศให้มีการยอมรับ บังคับใช้กฎหมายในระดับชาติ สร้างระบบการป้องกันและวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกของการทำงานมีค่าใช้จ่ายมหาศาลต่อมนุษย์ สังคมและเศรษฐกิจ ความรุนแรงและการล่วงละเมิดถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดข้อหนึ่งต่องานที่มีคุณค่า ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ อีก โปรดมาร่วมกันให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ 190 ให้เป็นจริงสำหรับทุกคน”

ที่มา: ILO, 25/11/2019

ขนส่งลอนดอนไม่ต่อใบอนุญาตกิจการ 'UBER'

หน่วยงานด้านการขนส่งแห่งกรุงลอนดอนกล่าวว่าจะไม่ต่อใบอนุญาตสำหรับกิจการของ UBER บริษัทที่ให้เรียกรถรับส่งผ่านแอปพลิเคชั่น ทางการกรุงลอนดอนให้เหตุผลว่าการตัดสินใจนี้มีให้ความสำคัญกับความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง

หลังจากทราบข่าว บริษัท UBER ระบุว่ากรณีนี้แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจผิดพลาดของกรุงลอนดอน และจะยื่นอุทธรณ์ในช่วงเวลารอการตัดสินช่วงอุทธรณ์ UBER จะยังคงสามารถดำเนินกิจการต่อได้ ที่นครหลวงของอังกฤษ

ที่มา: VOA, 26/11/2019

'Audi ' ลดงานหลายพันตำแหน่ง-ปรับแผนเน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

แบรนด์รถยนต์ชื่อดังอย่าง 'Audi ' ประกาศเมื่อวันอังคาร (26 พ.ย.) ว่าจะลดตำแหน่งงาน 9,500 ตำแหน่ง ภายในปี 2568 หรือราวร้อยละ 10 ของตำแหน่งงานทั่วโลก แต่จะสร้างงานเพิ่ม 2,000 ตำแหน่ง ในส่วนของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

Audi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรถยนต์ Volkswagen ระบุว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีเงินทุนเพิ่มขึ้น 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 10 ปี สำหรับลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต โดยออดี้ตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 675,000 คันต่อปี ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัท Volkswagen ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Audi, Porsche, Bugatti, Skoda และ Lamborghini ลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริด โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 70 รุ่น ภายในปี 2571 ส่วนออดี้เพิ่งเปิดตัว e-Tron รถเอสยูวีไฟฟ้าคันแรกเมื่อเร็วๆ นี้ โดยผลิตจากโรงงานในกรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม

ที่มา: VOA, 27/11/2019

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net