Skip to main content
sharethis

'ไอลอว์' เปิดคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. และ คำสั่ง คสช.ที่ 2/2562 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว. ในฐานจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ 250 เสียงในสภา พบ 6 ใน 10 สรรหาเองนั่งเป็น ส.ว.เอง 

โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ เปิด 10 รายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. และ คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 2/2562 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว. ในฐานจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ไขข้อข้องใจให้กับคนในสังคมว่า ใครกันเป็นคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ส่งรายชื่อให้ คสช.

โดยมีรายละเอียดที่ ไอลอว์ เผยแพร่ ดังนี้

ในที่สุด คสช. ก็ยอมเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ทั้ง 10 คน พร้อมด้วยคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว. ที่วิษณุนำทีมเอง หลังจากที่กระบวนการนี้ทำเสร็จตั้งแต่ต้นปี 62 และไอลอว์ยื่นหนังสือขอข้อมูลไปนานกว่า 7 เดือน

ก่อนหน้านี้ในความรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา ส.ว. ได้รับรู้เพียงแค่ขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 แต่กระบวนการในรายละเอียดที่ฝ่าย คสช. ดำเนินการไม่มีใครทราบว่า มีขั้นตอนอย่างไร เราจึงยื่นหนังสือสอบถามรายละเอียดส่วนนี้ไปกับทาง กกต. และคสช. ตั้งแต่ 11 มีนาคม 2562 https://ilaw.or.th/node/5209

จนกระทั่งวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 หรือเวลาผ่านมากว่า 241 วัน สำนักงานเลขาธิการกองทัพบก ได้ติดต่อกลับมายังไอลอว์ให้ไปรับเอกสารเกี่ยวกับการสรรหา ส.ว. ทั้งหมด ของ คสช. เอกสารที่ได้รับมามีทั้งหมด 63 หน้า

เอกสารสองฉบับที่ได้รับมา คือ คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. และ คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 2/2562 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว. ทั้งสองฉบับนี้ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ไขข้อข้องใจให้กับคนในสังคมว่า ใครกันเป็นคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ส่งรายชื่อให้ คสช. ซึ่งคำสั่งทั้งสองฉบับไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน

ก่อนหน้านี้มี "ข่าวลือ" ตามสื่อมวลชนต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เอง พร้อมด้วยรายชื่อ "บิ๊กเนม" ของ คสช. ทั้งหลายนั่งเป็นกรรมการ เช่น วิษณุ เครืองาม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ฯลฯ เมื่อเราได้เห็นคำสั่งอย่างเป็นทางการแล้วก็พบว่า ข่าวลือก่อนหน้านี้ไม่ได้ผิดนัก แต่ก็ยังมีอีกหลาย "บิ๊กเนม" ที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน

ในคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 269 (1) จำนวนทั้งหมด 10 คน ได้แก่

1. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองหัวหน้า คสช. และรองนายกรัฐมนตรี) เป็นประธาน

2. พรเพชร วิชิตชลชัย (ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) กรรมการ

3. พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร (รองหัวหน้า คสช.) กรรมการ

4. พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย (รองหัวหน้า คสช.) กรรมการ

5. พลตำรวจอดุลย์ แสงสิงแก้ว (รองหัวหน้า คสช.) กรรมการ

6. พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง (รองนายกรัฐมนตรี) กรรมการ

7. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี) กรรมการ

8. วิษณุ เครืองาม (รองนายกรัฐมนตรี) กรรมการ

9. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ (รองนายกรัฐมนตรี) กรรมการ

10. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา (ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) กรรมการ

ซึ่งทั้ง 10 คนเป็นข้าราชการทหารตำรวจถึง 7 คน และเป็นคนที่ทำงานกับ คสช. และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งหมด แต่ใน "เอกสารสรุปข้อมูล" ระบุว่า คสช. ได้ประชุมเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เพื่อคัดเลือกคนที่จะทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหา ส.ว. แต่ ในวันประชุมดังกล่าว พรเพชร วิชิตชลชัย ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการสรรหา ส.ว. ตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลไว้ ทำให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว. ทำงานกันเพียง 9 คนเท่านั้น

ในส่วนของคำสั่ง คสช. ที่ 2/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภา ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้การคัดเลือก ส.ว. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้แต่งตั้งคณะทำงานทางธุรการเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการคัดเลือก โดยไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อต่อสาธารณชน และให้ทำบัญชีแยกประเภทตามมาตรา 296 (1) (ก) และ (ข) แล้วส่งผลการตรวจสอบให้ คสช. ภายในเดือนเมษายน 2562 ดังนี้

1. วิษณุ เครืองาม (รองนายกรัฐมนตรี) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

2. พีรพิชญ์ วงศ์วัฒนศานต์ (อดีตคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ และนิติกร สำนักงานกฤษฎีกา) เป็นคณะทำงาน

3. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นคณะทำงาน

4. ข้าราชการในสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามที่เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนด จำนวนไม่เกินห้าคน เป็นคณะทำงาน

5. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ (รองเลขาธิการ คสช.) เป็นคณะทำงาน และเลขานุการ

จากคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 2/2562 ทำให้เห็นว่า คณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ก็ยังคงควบคุมโดยวิษณุ เครืองาม ซึ่งเป็นคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เอง อีกทั้งในคำสั่งยังระบุ ไม่ให้คณะทำงาน “เปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อต่อสาธารณะชน” อีกด้วย

ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา และเว็ปไซต์ของสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ใช้รวบรวมกฎหมาย และประกาศ/คำสั่ง ของ คสช. ทั้งหมด จากการสืบค้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ทั้งสองเว็บไซต์ยังไม่ได้เผยแพร่คำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 และ คำสั่ง คสช. ที่ 2/2562

อ่านเรื่องนี้ต่อได้ที่ https://ilaw.or.th/node/5489
ดูคำสั่ง คสช. 1/2562 ได้ที่ https://ilaw.or.th/sites/default/files/NCPO%20order%201-2562.pdf
ดูคำสั่ง คสช. 2/2562 ได้ที่ https://ilaw.or.th/sites/default/files/NCPO%20order%202-2562.pdf
ดูข้อมูล เกี่ยวกับ ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน ได้ที่ https://ilaw.or.th/node/5366

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า  คำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ลงวันที่ 8 ก.พ.2562 นั้น ไทยโพสต์ เคยรายงานการตรวจสอบว่า เมื่อไปตรวจสอบเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษากลับไม่พบคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 ในสารบบของข้อมูล ซึ่งปกติจะเรียงลำดับเลขที่คำสั่งตามประเภท/ชื่อเรื่อง และเล่ม เพื่อความชัดเจนในการตรวจค้นและอ้างอิง ในหน้าเพจของเว็บไซต์ราชกิจจาฯ ระบุว่า ลำดับที่ 164 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (จำนวน 14 ราย....) เล่ม 135 ถือว่าเป็นคำสั่ง คสช.สุดท้ายของปี 2561

อย่างไรก็ตามต่อมา เมื่อสังคมเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเปิดเผยชื่อกรรมการสรรหา ส.ว. ดังกล่าว วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กรรมการสรรหาจะต้องตั้ง 9 คน ไม่เกิน 12 คน โดยมีคุณสมบัติเป็นกลางทางการเมือง ไม่เป็นสมาชิกหรือสังกัดพรรคการเมือง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ โดยคสช. ได้พิจารณาเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2561 ว่าจะตั้งใครเป็นกรรมการสรรหาสว.บ้าง และในที่สุดจึงคิดว่าเพื่อให้ได้คนที่หลากหลายจากสาขาต่างๆ และในที่สุดจึงมีคำสั่งคสช. ที่1/ 2562 ระบุว่ากรรมการมี 10 คน

มาจากคณะรัฐมนตรีคือรองนายกรัฐมนตรี 5 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ วิษณุ เครืองาม และให้ พล.อ.ประวิตรเป็นประธานโดยให้สรรหารายชื่อคนจากสายความมั่นคงเข้ามา อาทิ ตำรวจ ทหาร ปราบยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงโดยเสนอมาประมาณ 50 คน , พล.อ.อ.ประจิน จะหาคนจากสายวงการการศึกษา ยุติธรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสาระสนเทศ และสื่อมวลชนเข้ามา 50 คน , สมคิด จะหาคนมาจากสายเศรษฐกิจ เกษตร การเงิน การคลัง การธนาคาร การลงทุน การค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว มา 50 คน, วิษณุ ก็หาคนมาจากในสายของกฎหมาย ระเบียบราชการ อดีตข้าราชการที่เกษียณไปแล้วมา 50 คน, พล.อ.ฉัตรชัย หามาจากสายเกษตร สาธารณสุข และด้านที่เกี่ยวกับสังคม ประมาณ 50 คน

โดยทั้งหมดนี้ไม่เปิดรับสมัครแต่ก็ได้หลายชื่อมา ขณะเดียวกันคสช. ก็เลือกตัวแทนของคสช. มาอีก 4 คน คือ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รวมถึง พรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะที่พรเพชร รู้จักสนช. หลายคน จะได้มาพิจารณาเสนอชื่อ

อย่างไรก็ตาม กรรมการสรรหาที่กลับมาเป็น ส.ว. ประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย, พล.อ.อ.ประจิน, พล.อ.ธนะศักดิ์, พล.ร.อ.ณรงค์, พล.ต.อ.อดุลย์ และพรเพชร

ขณะที่ผู้มีความใกล้ชิด กรรมการสรรหาได้เป็น ส.ว.อีกหลายคน เช่น พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) น้องชาย พล.อ.ประวิตร, พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม เป็นน้องชายของวิษณุ, สม จาตุศรีพิทักษ์ พี่ชายของสมคิด รวมทั้ง  พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ คู่เขย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ส.ว.เช่นกัน เป็นต้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net