Skip to main content
sharethis

ประยุทธ์ไปเยือนชัยภูมิอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนราชการและ ส.ส.พลังประชารัฐ นำประชาชนมาต้อนรับนับหมื่นคน คุยฟุ้งโครงการต่างๆ ที่จะแจกเป็นของขวัญปีใหม่

เห็นภาพแล้วอดเทียบทักษิณไม่ได้ ประยุทธ์กำลังใช้ทั้งประชานิยม และอดีตนักการเมืองไทยรักไทย เพื่อไทย ช่วงชิงคะแนนคนอีสาน และมีแนวโน้มจะทำสำเร็จเสียด้วย หากดูจากการเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น

เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม แม้อาจมีหลายปัจจัย เช่นตัวบุคคล กลไกอำนาจรัฐ ความลำเอียงขององค์กรที่จัดการ ฯลฯ แต่ปัจจัยหลักคือความเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่ไม่สามารถนำงบประมาณลงพื้นที่ ไม่มีอำนาจแก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้าน ขณะที่เห็นชัดว่ารัฐบาลนี้ยังอยู่อีกนาน

เวทีปราศรัยวันสุดท้ายของพลังประชารัฐ ตามรายงานจาก We Watch ก็เน้นเรื่องนี้ เช่น “พี่น้องจะเลือกคนเข้าไปผลักดันงบประมาณพัฒนาพื้นที่หรือจะเลือกคนเข้าไปด่ากันในสภา” การเลือกสมศักดิ์ คุณเงิน คือการต่ออายุบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมไปถึงการปรากฏตัวของธรรมนัส “เลือกสมศักดิ์ได้ธรรมนัสเอาไหมพี่น้อง”

นี่ต่างจากเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งหาเสียงประจันหน้าใครชนะเป็นรัฐบาล กระนั้น เลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยก็ยังหนาว เพราะประชาชนรู้หมดแล้วว่า 250 ส.ว.ตู่ตั้ง ยังอยู่โหวตตู่เป็นนายกฯ อีก 5 ปี

เพื่อไทยไม่มีทางชนะ พลังประชารัฐขอแค่ 126 เสียงก็ได้เป็นรัฐบาล เมื่อกติกาเป็นอย่างนี้ ก็สร้างความได้เปรียบมหาศาล

“รัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” ผู้รักประชาธิปไตยฟังแล้วเดือดแค้น แต่สำหรับกลไกการเมืองในชนบท ฟังแล้วมีผลตรงข้าม สังคมชนบทต้องพึ่งพิงระบบอุปถัมภ์ พึ่งอำนาจและงบประมาณรัฐ ฉะนั้น เมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ก็ต้องกะเก็งว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล หากเลือกผิดข้าง ก็จะลำบากในการของบขอความช่วยเหลือ

เลือกตั้ง 24 มี.ค.62 คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกติกา ยังคิดว่าเพื่อไทยมีโอกาสชนะ แต่เลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งครั้งหน้า คนส่วนใหญ่รู้แล้วว่าพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลแหงๆ ฉะนั้น กลไกหัวคะแนนในชนบทจะเทไปข้างไหนก็รู้กัน แม้รู้ชัดๆ ว่ามันไม่แฟร์

การเมืองเป็นเรื่องปากท้องประชาชน เอาชนะกันด้วยนโยบาย ใครทำให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นรัฐบาลแล้วอำนวยประโยชน์ได้มากกว่า ก็สมควรชนะ

แต่ไม่ใช่ชนะด้วยการมัดมืออีกฝ่าย ทำอย่างไรก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล ทำให้คนที่จะเลือกท้อใจ คนที่หวังพึ่งรัฐก็หันไปเลือกอีกข้าง เหลือแต่มวลชนที่เด็ดเดี่ยวผูกพันจากการต่อสู้ร่วมกัน 13 ปี

ยิ่งกว่านั้น รัฐธรรมนูญยังมัดมือมัดเท้า พรรคการเมืองเสนอนโยบายประชานิยมไม่ได้ แต่เป็นรัฐบาล คสช.อยู่แล้วแจกได้ไม่อั้น นโยบายที่หาเสียงอย่างค่าแรงขั้นต่ำ 425 ปริญญาตรีเงินเดือน 2 หมื่น ยังไม่ทำก็ได้

การเอาชนะด้วยนโยบาย ที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2540 เลือกตั้ง 2544 มีคุณูปการพัฒนาประชาธิปไตย พรรคไทยรักไทยชนะถล่มทลาย 19 ล้านเสียงในปี 2548 จากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค หรือบัตรทองหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่รัฐประหาร 2 ครั้งก็ไม่กล้าทำลาย

นโยบายไทยรักไทยทำให้ประชาชนตระหนักว่า อำนาจเลือกตั้ง อำนาจเลือกรัฐบาล ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ จากที่เมื่อก่อนไม่มีความหมาย อย่างมากก็ได้พึ่งพิงตามระบบอุปถัมภ์

เมื่อถูกรัฐประหาร ถูกยุบพรรคไทยรักไทย เลือกพรรคพลังประชาชนเข้ามาใหม่ก็ถูกยุบเปลี่ยนรัฐบาล ประชาชนจึงลุกฮือขึ้นต่อต้าน เพื่อทวงอำนาจเลือกรัฐบาล เมื่อถูกปราบ ก็สั่งสมความคับแค้นจนระเบิดเป็นการเลือกพรรคเพื่อไทยถล่มทลาย

รัฐประหาร 2557 ใช้เวลา 5 ปี ทำลายเครือข่ายที่เข้มแข็งของมวลชนประชาธิปไตยในชนบท สถาปนารัฐราชการเป็นใหญ่ ทำลายการกระจายอำนาจ ริบอำนาจ อปท.กลับสู่ส่วนกลาง ทำให้ประชาชนต้องพึ่งพิงรัฐ มหาดไทย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กลไก กอ.รมน. “เข้าถึง พัฒนา” ทุกพื้นที่

ประชานิยมของ คสช. ที่สืบทอดมาเป็นประชานิยมพลังประชารัฐ จึงเป็นประชานิยมที่ไม่ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก นอกจากต้องพึ่งบัตรคนจนไปเรื่อยๆ การเมืองกลับสู่ระบบอุปถัมภ์ พึ่งนักการเมืองทุนท้องถิ่น ผู้รับเหมา เหมือนครั้งก่อนมีรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ต่างกันที่รัฐราชการเป็นใหญ่ รัฐราชการเป็นตัวกำหนด ว่าจะอุปถัมภ์ใครในการเลือกตั้ง

ไม่ผิดหรอกครับ ประยุทธ์กำลังจะชนะทักษิณ หลังจากรัฐประหาร 2 ครั้งทำลายทักษิณ ไม่สามารถกลับสู่อำนาจจากการเลือกตั้ง คดีความจาก lawfare เต็มหลัง แต่ก็ยังชนะใจประชาชนมา 13 ปี

แต่ชัยชนะของประยุทธ์ อยู่บนการทำลายประชาธิปไตย การที่รัฐอนุรักษนิยมกลับมาเป็นใหญ่ กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ อยู่เหนือประชาชน บังคับให้คนอีสานคนชนบทไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องพึ่งพิง รับการสงเคราะห์ อยู่ใต้อำนาจผู้มีพระคุณ

ช่องโหว่อย่างเดียวที่ระบอบประยุทธ์คิดไม่ถึง คือคนรุ่นใหม่คนชั้นกลางในเมืองแตกแถวไปเลือกพรรคอนาคตใหม่ เป็นปลายหอกแหลมคมจนต้องจ้องยุบอยู่นี่ไง

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_3266928

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net