Skip to main content
sharethis

กรณี ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ หลุดว่าสหรัฐแจ้งมายังไทยก่อนโจมตีและลอบสังหารผู้นำทางทหารของอิหร่าน เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ระบุถ้ากระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหัวหน้ารัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ บรรณาธิการสนพ.ฟ้าเดียวกันเทียบกรณีดอน ปรมัตถ์วินัย กับกรณีระเบิดน้ำมันหมูปี 2544 ของทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ โดยชี้ว่าความต่างมีอย่างเดียวคือทินวัฒน์ต้องลาออกแต่ดอนยังอยู่ต่อ

8 ม.ค. 2563 จากกรณีที่ วานนี้ (7 ม.ค.) ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ในทำนองว่า สหรัฐอเมริกาได้ติดต่อมายังไทยก่อนตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. เพื่อแจ้งว่าจะทำการโจมตีอิหร่าน และสังหารนายโซไลมานี ผู้นำทางทหารของอิหร่าน ซึ่งการแจ้งข่าวดังกล่าวก็เพื่อให้ต่างประเทศรับรู้มาตรการของทางสหรัฐ

ก่อนที่เวลาต่อมา ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ โดยบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยว่า ข้อมูลที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้แจ้งไปเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ยืนยันไทยไม่ได้มีการได้รับแจ้งจากสหรัฐให้ทราบถึงการโจมตีอิหร่านก่อนแต่อย่างใด

ล่าสุด ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง การให้สัมภาษณ์กรณีปฏิบัติการของสหรัฐในอิรักเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาว่า สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวาน และวันนี้มาจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่มีใครแจ้งการปฎิบัติการให้ไทยทราบก่อนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามนักการเมืองและนักวิชาการหลายคนก็ได้ออกมาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำพูดดังกล่าวของดอน 

เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการออกมาแสดงท่าทีในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นการนำประเทศไทยเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศได้ ทำให้สงสัยว่าดอนออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้หวังผลอะไร พูดเพื่ออะไร เพราะการพูดในลักษณะเช่นนี้ จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน

เทพไท กล่าวต่อว่า จากกรณีดังกล่าวถ้าเกิดปัญหามีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเป็นประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ทางการทูต นอกจากตัวดอน จะต้องรับผิดชอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ด้วย

ตนเชื่อว่าในกรณีดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอย่างแน่นอน และน่าจะเป็นประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.ต่างประเทศอีกประเด็นหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องวุฒิภาวะของการเป็นรัฐมนตรี เรื่องประสิทธิภาพในการปฎิบัติหน้าที่ เรื่องผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย

ส่วนการที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ หรือกรมสารนิเทศออกมาปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อนนั้น เทพไท กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะดอน เป็นรมว.ต่างประเทศ เป็นเจ้ากระทรวง เป็นผู้บริหารสูงสุดของกระทรวง การพูดย่อมมีน้ำหนักมากกว่าคำแถลงของโฆษกกระทรวงอย่างแน่นอน

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ไม่รู้ว่าเขารู้ล่วงหน้าจริง หรือแค่โม้ แต่พูดจาแบบนี้ จะพากันซวยทั้งประเทศล่ะครับ อิหร่านได้ยินนี่ โกรธแน่ๆ ที่ไม่ช่วยเตือนเค้า ปล่อยให้คนของเค้าตาย นักการทูตจริงๆ เค้าน่าจะระมัดระวังคำพูด ระหว่างที่เกิดความขัดแย้งนานาชาติขึ้น นะครับ"

ธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เปรียบเทียบกรณีดอน ปรมัตถ์วินัย กับกรณีระเบิดน้ำมันหมูของทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ โดยชี้ว่าความแตกต่างระหว่างจะมีอย่างเดียวคือทินวัฒน์ต้องลาออกแต่ดอนยังอยู่ต่อ

โดยธนาพลระบุว่า นักการเมืองไทย อาจารย์ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ เป็นที่รู้จักดีจากการเป็นนักพูด “ต้นตำรับนักพูดเมืองไทย”เป็นบุคคลแรกที่จัดการทอล์คโชว์ในประเทศไทย

ในช่วงสงครามอิรัก วันที่ 17 กันยายน 2544 นายทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (บัญชีรายชื่อ) พรรคไทยรักไทย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ไม่เห็นด้วยที่จะใช้ความรุนแรงสยบความรุนแรง “การสั่งสอนชาวอัฟกันนั้นไม่ยาก ไม่ต้องใช้ขีปนาวุธ ไม่ต้องใช้ F-14 ไม่ต้องใช้ Tomahawk ใช้แค่ระเบิดน้ำมันหมู (Lard Bomb) หรือเครื่องบินพ่นน้ำมันหมูก็พอ” และระบุด้วยว่า ได้ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯแล้ว

หลังการให้สัมภาษณ์ ได้เกิดความไม่พอใจจากบุคคลภายในพรรคไทยรักไทย และภายนอกโดยเฉพาะชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้กรรมการกลางอิสลามยื่นหนังสือถึงพันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อกดดันนายทินวัฒน์ ฯ ให้ลาออกจาก ส.ส.

วันที่ 18 กันยายน 2544 นายทินวัฒน์ ฯ ได้ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.ต่อที่ประชุมพรรคฯโดยกล่าวว่า ไม่คิดว่าหมูเป็นสถาบันที่เป็นศัตรูกับอิสลาม “ผมเป็นคนโชคร้าย แต่มองโลกในแง่ดีมีอารมณ์ขัน คิดว่าสหรัฐฯไม่น่าจะใช้อาวุธ หรืออะไรที่มีต้นทุนสูงในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย มีคนกล่าวหาว่าผมไม่ระวังคำพูด ผมก็อาย เพราะผมเป็นอาจารย์สอนพูด และเป็นเสียเอง ก็ไม่ควรให้อภัยตนเอง ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่ศาสนาใด ผมถือโอกาสขออภัยต่อพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศว่า ไม่มีเจตนาล่วงเกินต่อศาสนา เพียงแต่ต้องการลดความรุนแรงของโลก และจดหมายที่จะ E-mail ถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ได้ส่ง เพราะหลังจากที่ผมพูดไปแล้วเห็นท่าไม่ดี มีคนวิจารณ์มาก จึงได้สั่งให้ลูกน้องเบรกไว้ก่อน” ได้กล่าวในตอนท้าย

 

อ้างอิง: PPTV, ข่าวสด, The Reporter, โพสต์ทูเดย์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net