ที่มาภาพ: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

12 ม.ค. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าจากกรณีกลุ่มประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่มีการนัดหมายรวมตัวทำกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง ที่ข่วงประตูท่าแพ และมีนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง เป็นตัวแทนไปแจ้งจัดการชุมนุมสาธารณะต่อผู้กำกับสภ.เมืองเชียงใหม่ ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2563

ก่อนถึงวันวิ่ง วันที่ 8 ม.ค. ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประกาศจัดกิจกรรมรณรงค์ปัญหาฝุ่นควันที่ประตูท่าแพ ในวันเดียวกันกับกิจกรรมวิ่ง ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป โดยมีกำหนดการนำนักเรียนและข้าราชการมาร่วมรณรงค์ และจัดแถวขบวนรถฉีดน้ำล้างถนน จนเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ก็ได้มีการจัดตั้งเวทีและเต้นท์สำหรับจัดงานดังกล่าวในพื้นที่ข่วงประตูท่าแพด้วย

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ทางพ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับสภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีหนังสือสรุปการดูแลการชุมนุม โดยขอให้กิจกรรมใช้ช่องทางเดินรถด้านซ้ายจำนวน 1 ช่อง และขอให้แจ้งผู้เข้าร่วมให้เดินผ่านจุดคัดกรองหรือจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจัดตั้งไว้เพื่อรักษาความปลอดภัย รวมทั้งขอให้นำแผ่นป้ายต่างๆ มาแสดงต่อพ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รองผู้กำกับสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการชุมนุมด้วย

เมื่อถึงวันวิ่ง ตั้งแต่เวลา 6.00 น. กลุ่มประชาชนเริ่มทยอยมาร่วมกิจกรรมโดยไม่มีแกนนำ มีประชาชนที่เตรียมอาหารและน้ำมาบริการ และมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าติดตามกิจกรรม ตลอดเส้นทางวิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวางกรวยตามทางแยก และมีตำรวจในเครื่องแบบคอยเฝ้าระวังจุดแยก แยกละ 2-3 คน แต่ไม่ได้มีการคัดกรองหรือตรวจบัตรประชาชนผู้เข้าร่วม

เมื่อถึงเวลา 6.30 น. ประชาชนราว 400-500 คน ได้เริ่มออก #วิ่งไล่ลุง จากข่วงประตูท่าแพ โดยวิ่งเรียงแถวใช้ถนน 1 เลน ฝั่งคูเมืองด้านใน ไปถึงประตูช้างเผือก ก่อนวกกลับมายังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และประตูท่าแพ ระยะทางราว 4 กิโลเมตรเศษ โดยเป็นการเปลี่ยนเส้นทางจากเดิมที่กำหนดวิ่งรอบคูเมือง เนื่องจากได้มีการพูดคุยปรับเส้นทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลกิจกรรม

เวลา 7.20 น. ผู้ร่วมวิ่งไล่ลุงเริ่มทยอยวิ่งกลับมารวมตัวที่ข่วงประตูท่าแพ โดยผู้จัดบางส่วนมีการวางป้ายข้อความเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการไว้กลางข่วงท่าแพ

7.45 น. ตำรวจเริ่มประกาศขอใช้พื้นที่ข่วงท่าแพทำกิจกรรมรณรงค์ปัญหาฝุ่นควันและผลกระทบจากไฟป่า ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และมีการตั้งแถวตำรวจในเครื่องแบบหันหน้าเข้าหาประชาชนที่มาทำกิจกรรมวิ่ง ทำให้ประชาชนแสดงความไม่พอใจ มีการโห่ร้องและชูสามนิ้ว

เวลาราว 8.00 น. กลุ่มประชาชนที่เดินทางมาเพิ่มเติม พร้อมกับนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ ได้เริ่มออกวิ่งจากข่วงประตูท่าแพเป็นชุดที่สอง ขณะเดียวกันทีมจัดรณรงค์ปัญหาหมอกควันก็ได้เริ่มขยายกิจกรรมเข้าเต็มพื้นที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ มีผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐในชุดวอร์มสีฟ้าและตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ

เวลาราว 9.30 น. หลังกลุ่มของนายอนุรักษ์วิ่งกลับมาถึงลานประตูท่าแพ ผู้จัดงานรณรงค์ปัญหาหมอกควันยังได้มีการเปิดเพลงด้วยเสียงอันดัง และมีการนำรถดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ่นฉีดละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นควันในบริเวณข่วงประตูท่าแพ ทำให้ผู้เข้าวิ่งไล่ลุงได้รับผลกระทบเนื้อตัวเปียกไปด้วย สร้างความไม่พอใจให้ประชาชนอย่างมาก และได้มีกลุ่มประชาชนเข้ามาเจรจากับเจ้าหน้าที่ ขอให้ผู้จัดงานดังกล่าวยุติการใช้เสียงดังและฉีดน้ำในลักษณะนี้

หลังจากเจรจา ทางตำรวจจึงได้ขอให้งานรณรงค์ปัญหาหมอกควันลดการใช้เสียงเพลงและงดฉีดน้ำ ส่วนทางกลุ่มของนายอนุรักษ์ได้พยายามเจรจาขอเจ้าหน้าที่เข้าไปใช้พื้นที่ประกาศเจตนารมณ์บริเวณป้ายประตูท่าแพ ซึ่งมีเวทีรณรงค์ปัญหาหมอกควันตั้งอยู่ แต่ทางตำรวจไม่อนุญาต และได้มีการตั้งแถวเจ้าหน้าที่ปิดล้อม

จนเวลาราว 10.00 น. หลังการเจรจา กลุ่มของนายอนุรักษ์จึงยินยอมไม่เข้าไปบริเวณดังกล่าว โดยได้ประกาศจะจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ต่อไปในช่วงเดือนหน้า และประกาศยุติกิจกรรม