WHO แถลงกรณีปอดอักเสบจากไวรัส น่าจะมาจากตลาดอาหารทะเลในอู่ฮั่นของจีน

จากกรณีการระบาดของโรคปอดบวมจากเชื้อไวรัสในเมืองอู่ฮั่น องค์การอนามัยโลกแถลงตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นทางการระบาดน่าจะมาจากตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมือง พบคนเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่ตลาดหรือไปจ่ายตลาดแห่งนี้บ่อยๆ ตอนนี้ปิดตลาดแล้ว ยังไม่พบระบาดในที่อื่น เว้นแต่พบชาวจีนในไทยติดเชื้อรายหนึ่งหลังเดินทางมาจากอู่ฮั่น ขณะนี้ไม่มีอาการไข้แล้ว รอกลับบ้าน


ภาพจาก timetrax23

องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 รายจากกรณีการระบาดของเชื้อไวรัสจำพวกโคโรนาไวรัสที่ส่งผลให้เกิดอาการปอดบวม ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะมีต้นเหตุมาจากตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น แต่ในเบื้องต้นไวรัสตัวนี้ยังไม่ระบาดหนักมาก เว้นแต่มีชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่นรายหนึ่งที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้วพบว่ามีเชื่อไวรัสดังกล่าว

ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกยังชื่นชมที่นักวิทยาศาสตร์ของจีนส่งข้อมูลลำดับพันธุกรรมของไวรัสตัวใหม่นี้ให้กับองค์การอนามัยโลกทำให้สามารถใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรคในประเทศอื่นๆ นอกจากจีนได้เร็วขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ในการระบาดของโรคซาร์ส เมื่อปี 2546 จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่ปิดบังข้อมูลการระบาดเป็นเวลานานเกินไป

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกยังแถลงอีกว่าพวกเขายังไม่พบหลักฐานว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวจะสามารถติดต่อกันผ่านมนุษย์คนหนึ่งสู่มนุษย์อีกคนหนึ่งได้ มีการตั้งข้อสังเกตจากการสืบสวนทางระบาดวิทยาเบื้องต้นว่าตลาดหัวหนานน่าจะเป็นต้นเหตุของเชื้อนี้จากการที่คนไข้ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานหรือเป็นขาประจำของตลาดแห่งนี้ โดยที่มีการปิดตลาดอาหารทะเลแห่งนี้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา

จากกรณีคนไข้หลายรายที่ติดเชื้อไวรัสนี้มีรายหนึ่งเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 9 ม.ค. เป็นชายอายุ 61 ปี เขามีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้วคือเป็นโรคตับเรื้อรัง เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการระบบหายใจล้มเหลวและมีปอดบวมอย่างหนัก

มีการสันนิษฐานว่าการติดเชื้อรอบใหม่นี้อาจจะมาจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งโคโรนาไวรัสนี้มีอยู่หลายประเภท ส่วนใหญ่แล้วจะแพร่เชื้อในหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนก ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่ามีโคโรนาไวรัสสองประเภทสามารถทำให้มนุษย์ติดเชื้อได้คือตัวที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) โดยไวรัสจำพวกนี้จะเข้าไปส่งผลกระทบกับเซลส์ที่อยู่ลึกๆ ในปอด ทำให้เกิดการอักเสบ ปอดบวม และอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกและคนทำงานด้านไวรัสวิทยาก็ระบุว่าพวกเขาต้องตรวจสอบต่อไปเพื่อยืนยันว่าการระบาดนี้มาจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จริงหรือไม่ โดยที่จากข้อมูลผู้เชี่ยวชาญด้ายการติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยไชนิสแห่งฮ่องกงก็บอกว่านับตั้งแต่ที่มีรายงานเรื่องการแพร่เชื้อไวรัสนี้เป็นครั้งแรกจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พ้นช่วงระยะ 15 วัน ที่เป็นระยะเวลาขั้นต่ำของการฟักตัวของไวรัสบางชนิด นั่นทำให้เป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนติดเชื้อที่ยังไม่รู้ตัวและอาจจะเริ่มมีอาการอีกภายใน 2-3 วันหลังจากนี้ได้

จากแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ขององค์การอนามัยโลกระบุว่ากลุ่มอาการที่เกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อไวรัสในครั้งนี้มีทั้งอาการไข้ ตามมาด้วยอาการหายใจลำบาก และจากการเอ็กซ์เรย์ก็พบว่าคนไข้จะมีรอยโรคที่ปอดทั้งสองข้าง

ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. อนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการคัดกรองผู้โดยสารของสายการบินที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 3-12 มกราคม 2563 รวมจำนวน 58 เที่ยวบิน ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับการคัดกรอง ทั้งสิ้น 9,122 ราย พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวน จำนวน 8 ราย

มีผู้ป่วยไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน อีก 3 ราย (จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และกรุงเทพมหานคร) และที่สถาบันบำราศนราดูร 1 ราย รวมผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวน (Patient under investigation) รวม 12 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างการติดตาม จำนวน 40 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และหายแล้ว ได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้วจำนวน 8 ราย

แต่มีผู้ป่วย 1 รายที่มีไข้สูงจากการคัดกรองที่สนามบิน และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็นรายแรกของประเทศไทย และมาจากต่างประเทศ รับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้ไม่มีไข้ ไม่มีอาการทางเดินหายใจแล้ว รอกลับบ้าน

ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด 16 คน ไม่พบเชื้อไวรัสนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากประเทศจีนพบว่ามีผู้ป่วยด้วยอาการปอดอักเสบจำนวน 59 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทุกรายมีประวัติสัมผัสกับตลาดค้าสัตว์ และอาหารทะเลแหล่งใหญ่ในเมืองอู่ฮั่น โดยเป็นคนงานหรือคนซื้ออาหารในตลาดดังกล่าว ไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน

นายอนุทิน ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตารวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและควบคุมโรค รวมทั้งการให้การแนะนำ ดูแล ผู้เดินทางชาวจีนขณะพำนักในประเทศไทย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณสุข ทั้งมาตรการเฝ้าระวังและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด สามารถเฝ้าระวังโรค คัดกรองและคัดแยกผู้ป่วย โดยมีการคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต

รวมทั้งการเฝ้าระวัง การวินิจฉัย การดูแลรักษาที่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน และการเฝ้าระวังในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ การปฏิบัติตัวของประชาชน ยังสามารถเดินทางไปประเทศจีนได้ ไม่มีการจำกัดการเดินทาง ซึ่งโรคนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ โดยหลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิต หลีกเลี่ยงที่มีผู้คนจำนวนมาก และไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม หรือมีน้ำมูก เน้นล้างมือบ่อยๆ กินอาหารปรุงสุก

สำหรับผู้ที่มีอาการไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอจาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ และมีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ภายใน 14 วันก่อนเริ่มมีอาการป่วย ต้องรีบไปโรงพยาบาล พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปประเทศจีนให้กับแพทย์ทราบ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป
สงสัยสอบถาม สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422

เรียบเรียงจาก

WHO statement on novel coronavirus in Thailand, WHO, 13-01-2020

Wuhan pneumonia: World Health Organisation links China virus outbreak to single seafood market in Wuhan and says it’s not spreading, South China Morning Post, 13-01-2020

A new virus may be the cause of China’s mysterious pneumonia outbreak, Vox, 13-01-2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท