สมชัย ศรีสุทธิยากร เปิดข้อมูลเด็ดเผย 18 รายชื่อพรรคการเมืองที่มีการกู้เงินเหมือนอนาคตใหม่ โดยมี 6 พรรคที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ชี้หาก กกต. มองว่า การกู้เงินผิดก็ต้องดำเนินการให้เหมือนกันทั้งหมด แต่ถ้ามองว่าไม่ผิด กกต. ต้องรับผิดชอบกรณีชงเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่

14 ม.ค. 2563 สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง  โพสต์เฟสบุ๊คระบุถึงกรณีที่ได้กล่าวไว้วานนี้ว่า จะเปิดเผยข้อมูลว่า ในปัจจุบันมีพรรคการเมืองใดที่กู้เงินบ้าง โดยสมชัยชี้ว่า ตามตรรกะการลงมติของ กกต. ชุดปัจจุบัน พรรคไหนกู้ ถือว่าผิดกฎหมายต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ต้องตัดสิทธิการเมือง ต้องโทษอาญาจำคุก จะกู้ 1,000 บาท 1 ล้าน หรือกู้ 100 ล้าน แปลว่ากู้เหมือนกัน เหมือนลอกข้อสอบจะข้อเดียวหรือสิบข้อ จับได้ก็ต้องปรับตก ไม่มีข้อยกเว้น

สมชัย ระบุด้วยว่า นอกจากพรรคอนาคตใหม่ ยังมีพรรคอื่นกู้ยืมเงินอีก โดยเอกสารงบการเงิน ลงวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ที่ทุกพรรคนำส่ง กกต. ภายในเดือนพ.ค.2562 มีถึง 18 พรรค (รวมพรรคอนาคตใหม่) ที่ปรากฏรายการเงินกู้ในเอกสารงบการเงินดังกล่าวดังนี้  

1.พรรคพลังศรัทธา มีรายการเงินกู้ระยะสั้น 300,000 บาท 

2.พรรคพลังชาติไทย เงินกู้ระยะสั้น 113,988 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล)

3.พรรคไทยธรรม เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 1,000 บาท 

4.พรรครวมพลังประชาชาติไทย เงินกู้จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 5,000,000 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล)

5.พรรครวมใจไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 45,697.86 บาท

 6.พรรคอนาคตใหม่ เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 161,200,000 บาท

7.พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 226,000 บาท

8.พรรคพลังไทยรักชาติ เงินกู้ยืมหัวหน้าพรรค 85,000 บาท

9.พรรคเมืองไทยของเรา เงินกู้ยืมระยะสั้น 542,750 บาท

10.พรรคเพื่อชีวิตใหม่ เงินกู้ยืมระยะยาว 50,000 บาท

11.พรรคเงินเดือนประชาชน เงินกู้ยืมจากกรรมการบริหารพรรค 822,183.70 บาท

12.พรรคไทรักธรรม เงินกู้ยืมกรรมการบริหารพรรค 4,376,000 บาท

13.พรรคพลังประชาธิปไตย เงินยืมจากหัวหน้าพรรค 5,584,290 บาท 

14.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เงินกู้ยืม 542,125 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล)

15.พรรคพลังท้องถิ่นไท เงินกู้ยืมระยะสั้น 1,427,000 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล)

16.พรรคไทยรักษาชาติ เงินยืมจากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค 1,738,868.92 บาท 

17.พรรคประชาธิปไตยใหม่ เงินกู้ยืมระยะสั้น 4,216,600 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล) 

18.พรรคชาติพัฒนา เงินกู้ยืม 2,000,000 บาท (พรรคร่วมรัฐบาล)

สมชัยย้ำด้วยว่า ทั้งหมดนี้ ถือเป็นความปรากฏ ที่นายทะเบียนต้องรับรู้และหากพบว่าเป็นความผิดต้องชงเรื่องต่อ กกต. เพื่อมีมติดำเนินการ หากมองว่าการกู้เงินของพรรคการเมืองเป็นความผิด แต่มีการปล่อยปละละเลย นายทะเบียนฯ ต้องรับผิดชอบเป็นอันดับแรก และ กกต. อาจต้องร่วมรับผิดในฐานะไม่กำกับดูแลงานให้ถูกต้องด้วยกฎหมาย

“แต่หากบอกว่าไม่ผิด กรณีชงเรื่อง เงินกู้อนาคตใหม่ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบของนายทะเบียนพรรคการเมือง และกกต. 5 ใน 7 ที่ลงมติส่งฟ้องยุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรับผิดชอบต่อมติที่ตนเองลง” สมชัย ระบุ