Skip to main content
sharethis

15 ม.ค. 2563 วานนี้(14 ม.ค.) หัสดิน​ จริยา นักศึกษาสำนักวิชาสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ยื่นหนังสือถึง ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้ตรวจสอบการปิดกั้นการใช้เสรีภาพและละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษา โดยเจ้าหน้าที่ส่วนกิจการนักศึกษา และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

กรณีนี้สืบเนื่องจาก การจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2563 ซึ่งในครั้งนั้นทางมหาวิทยาลัยได้ออกประกาศ ไม่อนุญาติให้จัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย ต่อมา หัสดิน พบว่า เจ้าหน้าที่ส่วนกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวนักศึกษา ในกลุ่มไลน์ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เขายืนยันว่าจะเข้าร่วมงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

นักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ซัด จนท. มหา’ลัย ละเมิดสิทธิ หลังถูกนำข้อมูลส่วนตัวให้คนนอกดู

โดยตอนหนึ่งในหนังสือ ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2563 ในไลน์กลุ่ม “ศอ.ปส. มวล.” หรือ “หัวหน้างานพิทักษ์ทรัพย์สินและรักษาความปลอดภัย” มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งมีสมาชิก 40 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนกิจการนักศึกษา รปภ. และนักศึกษาช่วยงาน ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ตำแหน่งพนักงานวิทยุสื่อสาร งานพิทักษ์ทรัพย์สินและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้จับภาพหน้าจอ facebook ของข้าพเจ้า ที่มีข้อความแสดงความคิดเห็นส่งไปในไลน์กลุ่ม และพิมพ์ว่า “คนนี้น่าติดตาม(ตัว) พร้อมกันนั้นผู้ที่อยู่ในกลุ่มไลน์อีกคนได้ส่งระเบียนประวัตินักศึกษา ซึ่งมีรายละเอียดประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล รหัสนักศึกษา สำนักวิชาและสาขา เลขบัตรประจำตัวประชาชน อาจารย์ที่ปรึกษา ชื่อผู้ปกครอง ที่อยู่บ้าน เบอร์ติดต่อผู้ปกครอง เลขที่ห้องและหอพักในมหาวิทยาลัย ลงในกลุ่ม

หัสดิน เห็นว่า การนำระเบียนประวัตินักศึกษาซึ่งมีข้อมูลรายละเอียดสำคัญ ซึ่งปกติจะเข้าถึงได้เฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้อำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น แม้ส่วนกิจการนักศึกษาอาจจะจะสามารถเข้าถึงได้ แต่การนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ที่ประกอบด้วยคนจำนวนมากที่ไม่มีอำนาจและไม่ทราบเรื่องจุดยืนทางการเมือง เป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคคล เป็นการใช้อำนาจเผยแพร่ข้อมูล โดยที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักศึกษา หากข้อมูลดังกล่าวถูกใช้ประโยชน์โดยผู้ไม่หวังดี

นอกจากนี้ เขายังระบุในหนังสือด้วยว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2563 มีการคุกคามนักศึกษาที่ร้ายแรงเกิดขึ้นอีกกรณีหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที ได้โทรตามและไปขับรถไปรับนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ที่หอพักภายใน นำตัวมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบจำนวน 4-5 คน โดยนักศึกษาไม่รู้มาก่อนว่าจะมีตำรวจอยู่ร่วมด้วย และไม่มีคนอื่นหรือที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งมีลักษณะของการพยายามสอบสวนนักศึกษามากกว่าพูดคุยปกติ บีบคั้นว่านักศึกษาเป็นแอดมิน “มวล. เสรี” (เพจเฟสบุ๊คที่ประกาศจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง) หรือไม่ และใครอยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net