Skip to main content
sharethis

'เสรีพิศุทธิ์' ชี้วาระเรื่องนี้ไม่สมควรเป็นเรื่องด่วน อัดที่ผ่านมามีการปล่อยให้ ส.ส.ที่มีหมายจับเข้ามานั่งในสภา ถามคดีนี้มันจะอะไรกันนักกันหนา ไม่ควรบรรจุวาระนี้เข้ามาเหตุเสียเวลาของสภาด้วยซ้ำ

15 ม.ค.2563 วันนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเอกฉันท์ 368 เสียงไม่อนุญาตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรณิการ์ วานิช และปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ไปรับการสอบสวนในคดีอาญาในระหว่างสมัยประชุม ตามมาตรา 125 ของรัธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในวาระด่วน หนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขออนุญาตเรียกตัวทั้ง 3 คน ดังกล่าว ในดคีการชุมนุมแฟลชม็อบ ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน โดยมี ส.ส.งดออกเสียงจำนวน 8 คนไปสอบสวนคดีอาญาในสมัยประชุม ในดคีการชุมนุมแฟลชม็อบ ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน 

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการลงมติดังกล่าว สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในฐานะประธานที่ประชุม เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น โดย วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า สภาไม่เคยส่งตัว ส.ส.ให้ไปรับการดำเนินคดีในระหว่างสมัยประชุม แม้ว่า ส.ส.คนนั้นจะร้องขอให้มีการดำเนินคดีก็ตาม ดังนั้น คดีนี้ก็เช่นกันที่จะต้องไม่ส่งตัว


คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การขอตัวให้ไปรับการสอบสวนครั้งนี้มีข้อที่น่าสงสัย กล่าวคือ อีกไม่นานก็จะปิดสมัยประชุมแล้วในช่วงปลายเดือน ก.พ. ทำไมต้องรีบมีการดำเนินการในระหว่างสมัยประชุม เรื่องนี้ไม่ทราบว่า ผบ.ตร.คิดอย่างไร แต่ผบ.ตร.เป็น ส.ว.โดยตำแหน่งแล้วย่อมต้องรู้ถึงเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีการเสนอเรื่องเข้ามาเพื่อขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดี

"การมีอำนาจต้องใช้อำนาจให้จำกัด มิเช่นนั้นจะเป็นอันตราย ยืนยันว่าตรงนี้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการคุ้มครองการทำหน้าที่" คารม กล่าว

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วาระเรื่องนี้ไม่สมควรเป็นเรื่องด่วน อีกทั้งไม่ควรนำเรื่องนี้บรรจุเข้ามาในวาระการประชุมสภา เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรไปทำเรื่องที่สำคัญมากกว่า โดยในทางกลับกันพบว่าอีกฝ่ายที่ชุมนุมเหมือนกันกับไม่ถูกดำเนินการแต่อย่างใด

"ที่ผ่านมามีการปล่อยให้ ส.ส.ที่มีหมายจับเข้ามานั่งในสภา ดังนั้น คดีนี้มันจะอะไรกันนักกันหนา สภาไม่ควรบรรจุวาระนี้เข้ามาเพราะมันเสียเวลาของสภา" พล.ต.อ.เสรีพิศทธิ์

ปิยบุตร กล่าวว่า การชุมนุมเป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ เป็นเสรีภาพที่สำคัญอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย แต่การชุมนุมที่สกายวอร์คครั้งนี้ ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวโทษว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีพี่น้องประชาชนถูกดำเนินคดีจำนวนมาก ตนยืนยันว่า การบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ต้องใช้ไปในทิศทางที่เป็นคุณต่อการใช้เสรีภาพการชุมนุม ไม่ใช่ใช้ไปจนกลายเป็น พ.ร.บ.สกัดกั้น การชุมนุม หรือ พ.ร.บ.ห้ามชุมนุมสาธารณะ และการใช้กฎหมายนี้ต้องใช้อย่างเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่นำกระบวนการทางกฎหมาย การดำเนินคดี เป็นเครื่องมือสกัดกั้นเสรีภาพ หรือตั้งข้อกล่าวหาจนเป็นชนักปักหลัง จนคนกลัว ไม่กล้าชุมนุมที่จะใช้เสรีภาพเพราะจะถูกดำเนินคดี 

ปิยบุตร กล่าวว่า ตนทราบดีว่าความคุ้มกันเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญมอบให้กับสมาชิกรัฐสภา เป็นเรื่องสำคัญป้องกันการกลั่นแกล้งและในทางปฏิบัติก็ไม่เคยอนุญาตให้กับสมาชิกในการไปถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายรัฐธรมนูญ ความคุ้นกันมอบให้กับตำแหน่ง มิใช่ของส่วนบุคคล ซึ่งการที่ ส.ส.จะลุกขึ้นมาสละ ซึ่งจะสละได้ก็คือการลาออก อย่างไรก็ตามความคุ้มกันจะเอามาใช้ไม่ได้ ถ้าสภาแห่งนี้มีมติให้ส่งตัวไปหรือมีมติเป็นอย่างอื่นตนขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่อภิปรายยืนยันหลักการเรื่องความคุ้มกัน และธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา แต่ขอยืนยันว่าตนและเพื่อนสมาชิกคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรณิการ์ วานิช เรายืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าพร้อมไปรายงานตัว และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป 

"เพราะเราเชื่อมั่นในเสรีภาพการชุมนุมตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง และเราพร้อมจะเดินเคียงข้างกับประชาชนจำนวนมากที่ออกมาชุมนุมแสดงความไม่พอใจต่อความอยุติธรรม เราพร้อมถูกดำเนินคดี สืบสวน สอบสวน เคียงข้างประชาชนจำนวนมากที่ถูกดำเนินคดีอยู่ และเขาปราศจากความคุ้มกัน เพราะเขาไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอบคุณในน้ำใจไมตรีสมาชิกทุกท่าน แต่ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเจตจำนงของเราทั้ง 3 คนไว้ในสภาแห่งนี้" ปิยบุตร กล่าว 

ขณะที่ สุชาติ กล่าวว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อที่ 187 จะต้องบรรจุเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน และต้องพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 ในเมื่อส.ส.ทั้ง 3 คนยืนยันที่จะไปรับการดำเนินคดีทำให้สภาฯจำเป็นต้องมีมติตามมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญว่าสภาจะให้ไปถูกสอบสวนคดีอาญาระหว่างสมัยประชุมหรือไม่ต่อไป

 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์และทีมสื่อพรรคอนาคตใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net