Skip to main content
sharethis


ที่มาภาพประกอบ: สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย

17 ม.ค. 2563 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง 'หยุดกระบวนการตีความ ทำลายขวัญกำลังใจพนักงานด้านปฏิบัติการ' โดยระบุว่าตามที่ได้มีบันทึกข้อตกลงจากการเจรจาข้อเรียกร้องระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2552 โดยมีข้อเรียกร้องเรื่องขอให้การรถไฟฯ ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2531 โดยจัดระดับ พขร. พรร. นสน. เป็นระดับ 8 “โดยการรถไฟฯ ตกลงให้จัดระดับ พขร.ปฏิบัติตามมติที่ประชุมกิจคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์การรถไฟฯ ครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2548 การปรับระดับพนักงานรถจักร ระดับ 8 และให้จัดระดับ พรร. นสน. ให้ได้ระดับ 8 โดยให้อยู่ในอำนาจของคณะทำงานเพื่อพิจารณาการกำหนดอัตรากำลังผู้ปฏิบัติงานการรถไฟฯ ซึ่งต้องพิจารณาถึงภารกิจหน้าที่ให้เหมาะสมกับตำแหน่ง” 

'สหภาพแรงงานรถไฟ' แจงความคืบหน้าบรรจุพนักงาน รฟท.
สหภาพแรงงานรถไฟฯ ขอให้ตรวจสอบฝ่ายบริหารรับพนักงานไม่เป็นธรรม
สหภาพรถไฟฯ ชี้รับ พนง. เพิ่ม ให้สรรหาจาก 'ลูกจ้างเฉพาะงาน' ก่อนพิจารณาคนนอก
'สหภาพรถไฟ' จี้ 'รฟท.' เร่งจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้ พนง.ปฏิบัติงานชายแดนใต้
สหภาพรถไฟลงพื้นที่ พบปัญหากำลังคนไม่เพียงพอ-ความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่
เปิดช่องให้รถไฟเพิ่มพนักงาน ยกเลิกมติ ครม. 28 ก.ค. 2541 แล้ว

หลังจากนั้นทางคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (คกร.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการรถไฟฯครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2553 ที่ประชุมมีมติ “ อนุมัติอัตรากำลังพนักงานระดับ 7 เป็น ระดับ 8 สำหรับตำแหน่ง นายสถานี พนักงานรักษารถ พนักงานขับรถ และผู้ช่วยสารวัตร โดยการรถไฟฯได้มีคำสั่งเลขที่ บภบ.49/2553 ลงวันที่ 11 ส.ค. 2553 เรื่องการแต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงานระดับ 7 เป็น ระดับ 8 สำหรับตำแหน่งนายสถานี พนักงานรักษารถ พนักงานขับรถ และผู้ช่วยสารวัตร” เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณากลั่นกรองการแต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงานการรถไฟฯให้ดำรงตำแหน่งระดับ 6-11 ให้เป็นไปตามระเบียบคำสั่งของการรถไฟฯ ถือเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง มีผลผูกพันนายจ้างและลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 และการที่นายจ้างจะยกเลิก เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลงสภาพการจ้างต้องทำความตกลงกับสหภาพแรงงานก่อน หากสหภาพแรงงานไม่ยินยอมจะกระทำไม่ได้

จากกรณีที่ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ออกหนังสือเลขที่ รฟ.บค.1000/35/2563 ลงวันที่ 18 ม.ค. 2563 เรื่อง การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทาง และค่าเช่าที่พักของพนักงานครองอัตราระดับ 8 ชำนาญงาน โดยระบุว่า “ให้พนักงานที่ดำรงตำแหน่งอัตราระดับ 8 ชำนาญงานได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆเช่นเดียวกับพนักงานระดับ 6” นั้น ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยเห็นว่าเป็นการตีความเพื่อลิดรอนสิทธิ์ของพนักงานระดับปฏิบัติการ และขัดกับข้อตกลงสภาพการจ้าง ซึ่งตามบัญชีหมายเลข 1 และหมายเลข 4 ท้ายข้อบังคับการรถไฟฯฉบับที่ 4.8 โดยกำหนดสิทธิให้กับ “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ...” โดยไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็น 'ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ชำนาญงาน' หรือ 'ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 บริหาร'

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า "ดังนั้นทางผู้เกี่ยวข้อง ควรทำเรื่องที่มันก้าวหน้า สร้างสรรค์ ...ดีกว่าตามแก้ปัญหาในอดีต ที่ตามมาหลอกหลอนปัจจุบัน ทำไมไม่ทำให้สะเด็ดน้ำแต่ทีแรก ผู้ปฏิบัติงานระดับ 8 มีกระบวนการแต่งตั้งเป็นไปตามระเบียบคำสั่ง 'กำหนดแค่นั้น ก็เท่ากับว่าสิทธิประโยชน์ต้องมีผลกับพนักงานผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ทุกคน' ไม่มีรายละเอียดต้องตีความเป็นอย่างอื่น....อย่าตีความแบบศรีธนญชัย ทำลายขวัญกำลังใจพนักงานจากความไม่เข้าใจ บวกกับความไม่กล้าตัดสินใจ เตะลูกออกไม่ควรอยู่ในวิสัยผู้บริหารยุค 4.0เมื่อดำเนินการไปแล้วเป็นสภาพการจ้างจะยกเลิก มีปัญหาทางข้อกฎหมาย.....อะไรที่นายจ้างกำหนดคลุมเครือ ไม่ชัด ต้องยกคุณประโยชน์ให้ลูกจ้าง ตีความเพื่อคุ้มครองลูกจ้าง ซึ่งถือเป็นแนวพิพากษาฎีกา...เนื่องจากข้อบังคับการรถไฟฯ ฉบับที่ 4.1 เกี่ยวพันอย่างแยกกันไม่ออกกับ ข้อบังคับการรถไฟฯฉบับที่ 4.8 มิใช่แค่เรื่องเบี้ยเลี้ยง ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำงานวันหยุด นัวเนีย... นุงนังไปหมด...ตั้งแต่ปี 2553 ทำไมเพิ่งมาตื่นตอนนี้....มีนัยอะไร ??? ต้องการอะไร???"

ในท้ายของแถลงการณ์ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า "ขอยืนหยัดในจุดยืนและเจตนารมณ์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางตามหนังสือของผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลฉบับดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการขัดต่อข้อตกลงสภาพการจ้างตามที่การรถไฟฯ ได้ตกลงกันไว้ เพื่อเป็นการแสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้างให้กับสมาชิกตามวัตถุประสงค์ โดยการดำเนินการดังกล่าวมิใช่การทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน และมิได้มีเจตนาทำให้การรถไฟฯ ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ขอให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ทุกท่านจงยึดมั่นและเตรียมพร้อมในการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net