กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เผยร่างระเบียบ ศธ. ห้าม นร.-นศ. ดัดผม ย้อมผม

กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เปิดร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยทรงผมนักเรียน นักศึกษา กังวลละเมิดสิทธิหนักกว่าเดิม เหตุ ระเบียบเดียวกินรวบทั้งนักเรียน นักศึกษา เปิดทางสถานศึกษาตีความจัดระเบียบทรงผมกว้าง ภายใต้คำว่า "ระเบียบ" และ "ความเรียบร้อย" ทั้งนี้ ให้ไว้ผมยาวได้ แต่ห้ามดัดผม ย้อมผม หรืออื่นใดที่ไม่เหมาะสม 

ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

17 ม.ค. 2563 เพจเฟสบุ๊ค กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท กลุ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวในประเด็นการศึกษา เผยแพร่ร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยทรงผมนักเรียนนักศึกษา ฉบับปรับปรุงจากการรับฟังความคิดเห็นที่สิ้นสุดเมื่อเดือน ก.ย. 2562 ที่ได้รับมาจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านการศึกษา และตั้งข้อสังเกตว่าถึงจุดที่คลุมเครือ และสุ่มเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิมากกว่าเดิม มีใจความดังนี้

ตามที่สำนักนิติการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกร่างระเบียบทรงผมฉบับใหม่ ให้ประชาชนทั่วไปได้แสดงความเห็นด้วยวิธีที่ไม่ค่อยจะแพร่หลายนัก เมื่อกันยายนที่ผ่านมา วันนี้เราได้เห็นร่างดังกล่าวฉบับปรับปรุงจากการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีจุดสังเกตหลายข้อที่น่ากังวล

1. ชื่อระเบียบ มีการนำ “นักศึกษา” มารวมอยู่กับนักเรียน ทั้งๆ ที่ในปัจจุบัน นักเรียนและนักศึกษามีระเบียบทรงผมที่ต่างกัน โดยข้อห้ามต่างๆ ในร่างนี้เคยเป็นข้อห้ามของนักเรียนมาก่อน แต่หากเพิ่มคำว่านักศึกษาเข้ามาด้วย หมายความว่าสิทธิบนเส้นผมของนักศึกษาจะลดเหลือเท่ากับนักเรียนทุกประการ

2. ข้อที่ 4 ของระเบียบ บัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมไว้เป็นนามธรรม ไม่มีขอบเขตชัดเจน หรือมาตรฐานที่มองเห็นได้ โดยใช้คำว่า “เหมาะสม” “เรียบร้อย” เป็นตัวกำหนด ซึ่งจะทำให้ในทางปฏิบัติมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะความเหมาะสมและความเรียบร้อยของแต่ละบุคคลมีมาตฐานที่ไม่เท่ากัน ไม่สามารถวัดกันได้ว่าแค่ไหนถึงเรียกว่าเหมาะสมหรือเรียบร้อยแล้ว

3. ข้อที่ 7 มีการให้อำนาจสถานศึกษาในการกำหนดระเบียบเองที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อที่ 4 ซึ่งเกณฑ์ของข้อที่ 4 เป็นนามธรรมมาก การออกกฎของสถานศึกษาจึงสามารถทำได้ครอบจักรวาล โดยใช้คำว่าเหมาะสมและเรียบร้อยเป็นข้ออ้าง ไม่ว่าจะทรงนักเรียน กะลาครอบ หัวเกรียน รองทรงต่ำ กลาง สูง หรือจะให้โกนหัวเลยก็ยังได้ หากสถานศึกษามองว่าผมทรงนั้นมีความเรียบร้อย และเหมาะสม

โดยรวมแล้วทางกลุ่มฯ มองว่าร่างฉบับนี้ไม่ได้ทำให้เส้นผมของนักเรียนเป็นอิสระเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นการตรากฎเพื่อให้อำนาจเต็มสำหรับการลิดรอนสิทธิของนักเรียน และเพิ่มนักศึกษาเข้ามาด้วย ทำให้กฎฉบับนี้ เป็นกฎที่ย่ำยีสิทธิของนักเรียนและนักศึกษามากกว่ากฎกระทรวง พ.ศ. 2518 ที่ออกภายใต้คณะปฏิวัติด้วยซ้ำ

เราจึงขอตั้งชื่อกฎฉบับนี้ไว้ว่า “ระเบียบการยึดคืนเส้นผมนักเรียนและนักศึกษา”

รายละเอียดในร่างฯ ฉบับหลังรับฟังความคิดเห็น ข้อที่ 4 ระบุว่า นักเรียนและนักศึกษาชายจะไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวด้านข้าง ด้านหลัง ด้านหน้าและกลางศีรษะให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย ต่างจากฉบับรับฟังความเห็นที่จำกัดให้ด้านข้างและหลัง ยาวไม่เลยตีนผม 

แต่ในข้อที่ 5 ระบุว่า นักเรียนและนักศึกษา ต้องห้ามปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม ดังต่อไปนี้ 1) ดัดผม 2) ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม และ 3) การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียนและนักศึกษา เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือมีลักษณะคล้ายคลึงภาพบุคลหรือสถานที่ เป็นต้น โดยความในข้อ 4 และ 5 มิให้นำมาใช้บังคับแก่นักเรียนและนักศึกษาที่มีเหตุผลความจำเป็นในการปฏิบัติตามหลักศาสนาของตน หรือการดำเนินกิจกรรมของสถานศึกษา โดยให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต

ทั้งนี้ ในส่วนต้นของระเบียบระบุว่า สมควรให้มีระเบียบดังกล่าว เพื่อเป็นการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการปฏิบัติตนของนักเรียนและนักศึกษาเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวมทั้งเกิดความชัดเจนในการดำเนินการของโรงเรียนหรือสถานศึกษา และมีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท